แม่เล่า! ครรภ์เป็นพิษเฉียบพลัน ต้องคลอดลูกที่ไม่หายใจ - amarinbabyandkids
ครรภ์เป็นพิษเฉียบพลัน

แม่แชร์ประสบการณ์! ครรภ์เป็นพิษเฉียบพลัน ต้องคลอดลูกที่ไม่มีลมหายใจ

Alternative Textaccount_circle
event
ครรภ์เป็นพิษเฉียบพลัน
ครรภ์เป็นพิษเฉียบพลัน

ครรภ์เป็นพิษเฉียบพลัน …ภาวะอันตรายของแม่ท้อง เพราะกว่าจะเป็นแม่คนไม่ใช่เรื่องง่าย แม่แชร์ประสบการณ์! รู้จักโลกพังก็ตอนนี้หละ…ต้องคลอดลูกน้อยออกมาแบบไม่มีลมหายใจแล้ว!!

 

โดยคุณแม่ท่านนี้มีชื่อว่าแม่กล้วย เจ้าของเพจ Mom to be กว่าจะได้เป็นแม่ ได้แชร์ประสบการณ์การตั้งครรภ์ครั้งแรก ที่ต้องผิดหวัง พร้อมเตือนใจคุณแม่ๆ ให้คอยสังเกตลูกในท้องให้ดี ไม่เช่นนั้นสิ่งไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นได้

แม่แชร์ประสบการณ์! ครรภ์เป็นพิษเฉียบพลัน
ต้องคลอดลูกที่ไม่มีลมหายใจ

คุณแม่เล่าว่า…

ตั้งแต่ตั้งท้องสัปดาห์ที่ 19-20 เป็นต้นมา ก็จะคอยสังเกตตลอดว่าแต่ละวันลูกดิ้นหรือเปล่า ดิ้นมากน้อยแค่ไหน จนเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 5 กันยายน เรารู้สึกว่าลูกไม่ดิ้นเลย หลังเลิกงานเลยรีบไปโรงพยาบาล แต่ไม่เจอคุณหมอที่ฝากครรภ์

ครรภ์เป็นพิษเฉียบพลันตอนนั้นก็ตัดสินใจตรวจกับหมอคนไหนก็ได้แล้ว ใครก็ได้ ณ จุดนั้น พอหมอตรวจก็ไม่พบการเต้นของหัวใจลูกแล้ว มันเหมือนผ่าฟ้าลงมากลางหัวเลย จำได้ว่าเถียงหมอด้วย ให้หมอเปลี่ยนเครื่องฟังเสียงหัวใจ และให้อัลตราซาวน์อีกรอบด้วย ลูกไม่อยู่กับเราแล้วจริงๆ น้ำตามันไหลไม่หยุด มีคำถามมากมายว่าเกิดอะไรขึ้นในหัวว่า เราทำผิดอะไร ทำไมลูกไม่อยู่กับเรา

คำถามที่มีต่อมาคือ ต้องทำอย่างไรต่อไป ตอนนั้นเราไม่ได้ถามหรือคุยกับหมอเอง คุยไม่รู้เรื่อง ฟังอะไรไม่ได้ยิน ส่งคุณสามีไปคุยแทนแล้วกัน สรุปคือ คุณหมอเจ้าของไข้นัดทำคลอดพรุ่งนี้เช้า ในหัวตอนนั้นไม่มีอะไรเลย กลวงมาก รู้อย่างเดียวอยากคุยกับแม่ โทรหาแม่ทันที เล่าไป ร้องไห้ไป…. คืนนั้นพ่อกับแม่ก็มาจากต่างจังหวัดทันที

 

ความรู้สึกในคืนนั้นเป็นสิ่งที่อธิบายไม่ถูก จับท้องตลอดเวลา ลึกๆขอให้มีปาฏิหาริย์ แต่แค่คิดถึงภาพอัลตราซาวน์ที่เห็นลูกนิ่งไป ก็น้ำตาไหลได้ทันที จนตอนนี้ก็ยังไม่สามารถลบออกไปได้

เช้าวันรุ่งขึ้น ไปโรงพยาบาลพร้อมกันหมด คุณหมอตรวจอีกครั้ง ยืนยันว่าลูกไม่อยู่แล้วจริงๆ และต้องเข้าสู่กระบวนการคลอด

ครรภ์เป็นพิษเฉียบพลัน

 

วิธีการคลอดมี 2 แบบ คือ คลอดธรรมชาติ และผ่าตัด สิ่งที่คุณหมอแนะนำคือ ให้คลอดธรรมชาติเพราะจะได้รักษามดลูกให้สมบูรณ์ที่สุด ก็ตามนั้น ไม่มีทางเลือกแล้ว สิ่งแรกคือคุณหมอให้กินยาเพื่อกระตุ้นให้มดลูกบีบตัวตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถ้ามดลูกบีบตัวได้ดี ช่วงบ่ายไม่ต้องรับยาเพิ่ม

เวลา 16:00 ปากมดลูกเริ่มเปิดขนาด 1 ซม. สำหรับการคลอดปกติปากมดลูกจะต้องเปิด 10 ซม. แต่ในกรณีนี้ต้องการให้เปิด 5-6 ซม. ก็เพียงพอ เพราะลูกยังตัวเล็กอยู่ และพบว่ามีมูกออกมาทางช่องคลอดเล็กน้อย

ตอนสามทุ่ม มดลูกเริ่มมีการบีบตัวถี่และแรงขึ้น ตัวเด็กลงไปต่ำกว่าสะดือแล้ว ทำให้ปวดมากขึ้น (สามารถฉีดยาลดปวดได้ แต่ไม่ฉีด) รอวัดขนาดปากมดลูกอีกครั้งตอนสี่ทุ่ม จริงๆตั้งแต่เช้าปวดเรื่อยๆเหมือนจะคลอดลูกจริงๆ แต่ที่ไม่ยอมฉีดยาลดปวด เพราะช่วงที่ปวด เราจะได้ไม่คิดอะไร ไม่คิดมาก ให้รู้สึกเจ็บๆไป ดูซาดิสซ์นะ แต่คิดแบบนั้นจริงๆ

เวลา 21:20 เริ่มมีเลือดออกทางช่องคลอด พยาบาลมาตรวจ พบว่าปากมดลูกเปิดขนาด 1 ซม. แต่นุ่มมากขึ้น อาการปวดมีมากขึ้นและเริ่มมีเลือดออกมากขึ้น คราวนี้จำต้องยอมฉีดยาแก้ปวด

ตอนห้าทุ่ม อยู่ๆก็ปวดมาก แบบทนไม่ไหว แล้วก็รู้สึกว่าเหมือนมีอะไรออกมาจากช่องคลอดด้วย แม่เลยไปเรียกพยาบาลให้ และก็สามารถคลอดธรรมชาติออกมาเรียบร้อยทั้งลูกและรก เรียกว่าเป็นแท้งแบบสมบูรณ์ ไม่ต้องขูดมดลูก

จบวันที่ทรมานที่สุดในชีวิต ไม่รู้จะบรรยายยังไงเลยกับความรู้สึกที่ต้องคลอดลูกออกมาทั้งที่ลูกไม่มีชีวิตอยู่แล้ว

ทั้งนี้คุณแม่กล้วยยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับทางทีมงาน Amarin Baby & Kids ถึงสาเหตุที่ลูกน้อยหยุดหายใจว่า…

คุณหมอสันนิษฐานว่า สาเหตุเป็นเพราะ “ครรภ์เป็นพิษแบบเฉียบพลัน” ซึ่งเป็นผลมาจากรกที่ฝังตัวไม่ดี ซึ่งการฝังตัวไม่ดี ทำให้ตัวคุณแม่กล้วยมีความดันสูง ทำให้รกไม่สามารถลำเลียงอากาศและอาหารที่เพียงพอให้ลูกได้

แต่อย่างไรก็ดี แม้จะต้องผิดหวังไปกับท้องแรก คุณแม่กล้วยไม่ยอมแพ้..และตั้งใจที่จะมีลูกน้อยไว้ในอ้อมอกของตัวเองให้ได้ ทำให้คุณแม่กล้วยเดินหน้าตั้งครรภ์ครั้งที่ 2 โดยคุณแม่เผยว่า…ในการตั้งครรภ์ครั้งที่ 2 นี้ เกิดขึ้นหลังจากมีประจำเดือน 2 รอบแล้ว ซึ่งก็สามารถตั้งครรภ์ได้ เพราะเนื่องจากการทำคลอดแบบธรรมชาติจะช่วยให้มดลูกสมบูรณ์ที่สุดมากกว่าการผ่าตัดมดลูก

อย่างไรก็ดี ทาง Amarin Baby & Kids ก็ขอให้คุณแม่และลูกน้อย ออกมาลืมตาดูโลกที่สดใส พร้อมสุขภาพแข็งแรง จิตใจดี ครอบครัวมีแต่ความสุขนะคะ ^^

♥ ขอบคุณเรื่องราวดีๆ จาก คุณแม่กล้วย เพจ Mom to be กว่าจะได้เป็นแม่

ครรภ์เป็นพิษเฉียบพลัน

ครรภ์เป็นพิษ ความผิดปกติที่มักไม่ค่อยแสดงอาการ!!!

ครรภ์เป็นพิษ …คุณแม่หลายๆ คนอาจเคยได้ยินกับภาวะอันตรายนี้ แต่หลายๆ คน อาจไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่ากำลังเกิด “ภาวะครรภ์เป็นพิษ” กับตัวเองอยู่! การรู้เท่ากันอาการที่เป็นสัญญาณเตือนของภาวะครรภ์เป็นพิษจึงถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะมัจจุราชร้ายนี้ อาจนำมาซึ่งความสูญเสีย ทั้งต่อทารกและตัวคุณแม่เอง!!

และแม้ว่า ครรภ์เป็นพิษ จะเป็นภาวะที่อันตรายร้ายแรง แต่กลับไม่ค่อยแสดงอาการ จนดูราวกับว่าทุกอย่างปกติ!! ซึ่งในคุณแม่ที่มีภาวะครรภ์เป็นพิษ อาจมีความรู้สึกหงุดหงิด ไม่สบาย แต่เมื่อได้นอนพักก็สามารถกลับมารู้สึกสบายดีอีกครั้ง ทำให้กว่าจะรู้ตัวก็อาจช้าเกินไป

“ความดันโลหิตสูง” คือสัญญาณเตือนแรก!

ความดันโลหิตสูงจะเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญ ซึ่งคุณแม่ท้องหลายคนไม่รู้ตัวว่าความดันของตนเองเพิ่มขึ้น โดยความดันโลหิตสูง หมายถึง ความดันโลหิตตั้งแต่ 140/90 มิลลิเมตรปรอท ขึ้นไป

หากมีอาการเหล่านี้… eclampsia คือ คุณแม่ตั้งครรภ์เป็นพิษรุนแรง ควรไปพบแพทย์

  • อาการบวม(บวมน้ำ) โดยมักเกิดการบวมบริเวณเท้า รอบดวงตา และมือ
  • อาการปวดศีรษะ โดยมีระดับความรุนแรงค่อนข้างมาก และไม่มีท่าจะทุเลาลง
  • อาการคลื่นไส้อาเจียน หากเกิดเฉียบพลันหลังพ้นช่วงแพ้ท้องไปแล้ว อาจเกิดจากภาวะครรภ์เป็นพิษ
  • อาการปวดบริเวณใต้ชี่โครงด้านขวา, อาการปวดหลังส่วนล่าง, อาการปวดไหล่ ซึ่งมักจะปวดแบบเฉียบพลัน
  • การระคายเคืองระบบประสาทส่วนกลาง เช่น อาการบวมของสมอง. เห็นภาพเบลอ หรือ เห็นไฟกระพริบ

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดจาก “ ภาวะครรภ์เป็นพิษ ”

  • อันตรายที่อาจเกิดกับคุณแม่ : เลือดออกในระหว่างตั้งครรภ์ รกลอกตัวจากผนังมดลูกก่อนกำหนด ตับเกิดความเสียหาย ภาวะเลือดออกในสมอง เสี่ยงรุนแรงถึงขั้นช็อกเสียชีวิต!
  • อันตรายที่อาจเกิดกับทารก : เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวแรกคลอดน้อย เจริญเติบโตในครรภ์ได้ช้าและอาจเสียชีวิตในครรภ์ได้!!

กว่าจะเป็นแม่นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะการตั้งครรภ์ตลอดระยะ 9 เดือน อาจมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นได้เสมอ! ทางที่ดี ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถรักษาได้ทันหากมีอะไรเกิดขึ้น เพราะอันตรายจาก ภาวะครรภ์เป็นพิษ หรือภาวะแทรกซ้อนช่วงตั้งครรภ์นั้น น่ากลัวกว่าที่คุณคิด!

อ่านต่อ “บทความดี ๆน่าสนใจ” คลิก!


ขอบคุณข้อมูลจาก : www.paolohospital.com

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up