คุณแม่ที่เคยสูญเสียลูกน้อยในการตั้งครรภ์ครั้งแรก คงมีความรู้สึกหวาดกลัวกับการตั้งครรภ์ต่อไป เพราะกลัวว่าจะแท้งซ้ำอีก แต่สำหรับคุณแม่ที่เคย แท้งซ้ำ ครั้งแล้วครั้งเล่า คงไม่ได้เพียงแค่รู้สึกหวาดกลัว อาจจะถึงขั้นหมดกำลังใจที่จะตั้งครรภ์เลยทีเดียวและอาจสงสัยว่ามีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักแท้งซ้ำและวิธีป้องกันไม่ให้เกิดแท้งซ้ำค่ะ
แท้งซ้ำ คืออะไร
ภาวะแท้งซ้ำ คือการที่คุณแม่ประสบปัญหาการแท้งติดต่อกันสามครั้งหรือมากกว่านั้น การแท้งซ้ำ เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ความผิดปกติของโครโมโซม มดลูกมีปัญหาหรือปากมดลูกหลวม การติดเชื้อแบคทีเรีย หรือการสูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ค่ะ
3 ข้อควรปฎิบัติ เพื่อห่างไกลจากแท้งซ้ำ
หากคุณแม่เคยมีประสบการณ์แท้งมาก่อน ทางทีมงานมีคำแนะนำเพื่อให้คุณแม่ปฏิบัติเพื่อหลีกเลี่ยงกับปัญหาการ แท้งซ้ำ ค่ะ
1. ปรึกษาคุณหมอเพื่อป้องกันการแท้งซ้ำ
หากคุณแม่เคยมีประวัติแท้งมาก่อน คุณแม่ควรจะปรึกษาคุณหมอก่อนวางแผนตั้งครรภ์นะคะ คุณหมอจะได้รู้ถึงรายละเอียดของการตั้งครรภ์ การแท้ง และการรักษาที่ผ่านมา นอกจากนี้คุณแม่อาจจะต้องรับการตรวจดังต่อไปนี้เพื่อหาสาเหตุและป้องกันการแท้งซ้ำค่ะ
-
ตรวจหาหมู่เลือดของคุณแม่
คุณหมอจะทำการเจาะเลือดเพื่อตรวจหมู่เลือดของคุณแม่ หากคุณแม่มีหมู่เลือด Rh-อาจจะทำให้เกิดปัญหาระหว่างการตั้งครรภ์ คุณหมอต้องดูแลคุณแม่อย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษค่ะ
บทความแนะนำ ลูกตัวเหลือง เพราะกรุ๊ปเลือดไม่เข้ากับแม่ จริงหรือ?
-
ตรวจระดับฮอร์โมนในร่างกาย
คุณแม่หลายคนมีปัญหาภาวะฮอร์โมนไม่สมดุลซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนซึ่งหากคุณแม่ฮอร์โมนประเภทนี้ในร่างกายน้อยเกินไป คุณแม่อาจแท้งได้ค่ะ หากคุณแม่มีอาการที่บ่งบอกว่าภาวะฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล เช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือมามากเกินไป ปวดหัว ปวดหลัง คุณแม่ควรจะแจ้งคุณหมอให้ทราบเพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมนในร่างกายและจะได้ดำเนินการรักษาที่ถูกต้องต่อไป
-
ตรวจหาความผิดปกติโครโมโซม
ความผิดปกติของโครโมโซมมีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบ มักส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์และเป็นสาเหตุหนึ่งของการแท้งซ้ำค่ะ หากคุณแม่สงสัยว่าสาเหตุของการแท้งซ้ำในการตั้งครรภ์ที่ผ่านมาเป็นเพราะความผิดปกติของโครโมโซมหรือไม่ คุณแม่อาจจะลองสอบถามคุณหมอถึงการตรวจโครโมโซมเพื่อหาความผิดปกติ
-
สอบถามถึงประวัติการใช้ยาปัจจุบัน
คุณหมอจะสอบถามการใช้ยาของคุณแม่ตั้งครรภ์ เนื่องจากยาบางชนิด เช่น แอสไพริน หรือ ไอบูโพรเฟน มีผลอันตรายของการตั้งครรภ์ เพราะฉะนั้นแล้วเพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย คุณแม่ควรจะบอกคุณหมออย่างละเอียดว่าขณะที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์ใช้ยาอะไรอยู่บ้างนะคะ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่