ใช้เทคโนโลยีอย่างไรให้ปลอดภัยกับแม่และลูกในท้อง

ปัจจุบันนี้เรามีเทคโนโลยีที่ไฮเทคอยู่ใกล้ตัวมากมาย แม้แต่ในยามที่คุณตั้งครรภ์ ก็ยังมีเทคโนโลยีเครื่องมือไฮเทคต่างๆ มาช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มความรวดเร็ว สะดวกสบายให้กับการทำงาน ในการดำเนินชีวิตประจำวัน และการเลี้ยงลูกไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ มือถือ เครื่องถ่ายเอกสาร ไมโครเวฟ และเครื่องเล่น MP3 แต่สิ่งเหล่านี้ย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาให้รอบคอบเพื่อจะได้ใช้งานได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยที่สุดค่ะ คอมพิวเตอร์ สำหรับแม่ท้อง working mom หลายท่านคงต้องใช้เวลาในการนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์โดยเฉลี่ย 6-8 ชั่วโมง มีผลการวิจัยจากต่างประเทศทั้งที่กล่าวว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและรังสีที่แผ่ออกมาจากคอมพิวเตอร์จะมีผลต่อลูกในท้อง ทำให้เป็นมะเร็ง หรือการอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทุกวันจะทำให้โอกาสตั้งครรภ์ลดน้อยลง แต่ก็มีการวิจัยอีกหลายชิ้นที่กล่าวว่าการใช้คอมพิวเตอร์ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์และไม่ได้ก่อให้เกิดผลเสียต่อลูกโดยตรง แม้จะยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดว่าการใช้คอมพิวเตอร์จะมีผลเสียต่อลูกในท้องโดยตรงหรือไม่ แต่หากใช้เป็นเวลานาน ย่อมทำให้คุณแม่ มีอาการไม่สบายเนื้อตัว อ่อนล้าหรือมีความเครียดเกิดขึ้นได้ ซึ่งอาการเหล่านี้ย่อมกระทบต่อลูกแน่นอนค่ะ ตำแหน่งของคอมพิวเตอร์ : เมื่อต้องจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานมักทำให้สายตาล้า ตาแห้ง ระคายเคืองหรือมีอาการสายตาสั้นชั่วคราว จึงควรนั่งให้สายตาอยู่ห่างจากจอไม่ต่ำกว่า 30 เซนติเมตร เพื่อลดปริมาณรังสีที่แผ่ออกมาให้ได้รับน้อยที่สุด รวมถึงการติดแผ่นกรองแสงก็จะช่วยลดไฟฟ้าสถิตและป้องกันแสงสะท้อนเข้าสู่ตาได้ ภายในห้องควรมีแสงสว่างพอเหมาะ ไม่มืดหรือสว่างจนเกินไป และควรพักสายตาจากหน้าจอประมาณ 5-10 นาที หลังจากใช้งานทุก 1 ชั่วโมง ท่าที่ถูกต้อง : การนั่งในท่าที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน อาจทำให้แม่ท้องปวดเมื่อยบริเวณไหล่ คอและหลัง เพราะร่างกายต้องรับน้ำหนักเกินความจำเป็นและทำให้ระบบไหลเวียนเลือดไม่สะดวก จนเกิดอาการบวมบริเวณมือหรือเท้าได้ … Continue reading ใช้เทคโนโลยีอย่างไรให้ปลอดภัยกับแม่และลูกในท้อง