เข้าโค้งสุดท้ายแล้วจริงๆ (บางคนอาจอายุครรภ์ถึง 42 สัปดาห์ก็มี) เป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างบีบคั้นหัวใจของคุณแม่ท้องมือใหม่พอสมควร เพราะนี่คือประสบการณ์การคลอดครั้งแรกในชีวิต หลายๆครั้งจึงเกิดความเครียดขึ้นมาไม่รู้ตัว มาดูวิธีเตรียมตัวและคลายความเครียดในระหว่างรอคลอดลูกน้อยกันดีกว่า
การรับมือกับความเครียดและความกังวลได้นั้นเป็นเรื่องที่เราจะต้องใช้เวลาฝึกฝน โดยมีกุญแจสำคัญที่คุณแม่จะต้องท่องไว้คือ หนึ่ง จดจำความเครียดและความกังวลเหล่านั้นให้ได้ คือรู้ตัวว่าเวลาเราเป็นแล้วมีอารมณ์และความรู้สึกอย่างไร จะทำให้เราจับความรู้สึกของตัวเองได้ไวขึ้น และสองคือหาวิธีรับมืออย่างได้ผล ซึ่งมีวิธีง่ายๆ ดังนี้
1. หยุดพฤติกรรมที่เกิดจากความเครียด ลองสังเกตตัวเองว่าเวลาที่เครียดนั้นมักจะแสดงออกทางร่างกายและความคิดอย่างไร บางคนเครียดแล้วกัดเล็บบ้าง เขย่าขาบ้าง ดึงผมบ้าง เมื่อรู้สึกตัวว่ากำลังทำพฤติกรรมนี้อยู่ให้หยุดทันที นอกจากนี้เวลาเครียดหรือกังวล คนเรามักจะคิดลบหรือคิดฟุ้งซ่านเสมอ เช่น ถ้าตอนคลอดมีปัญหาล่ะ ทำไงดี ถ้าหมอมาช้าล่ะ ถ้าเกิดเจ็บท้องจนทนไม่ไหวล่ะ ฯลฯ ขอให้คุณแม่สะบัดศีรษะ 2-3 ที แล้วหยุดความคิดนั้นซะค่ะ
วิธีจัดการกับความคิดฟุ้งซ่าน
· เมื่อไรก็ตามที่เริ่มคิดฟุ้งซ่าน เกิดคำถามกับตัวเองมากมายให้จดคำถามเหล่านั้นลงในสมุด
· จากนั้นพิจารณาคำถามเหล่านั้นว่า สิ่งที่เรากังวลอยู่จะเกิดขึ้นได้จริงหรือเปล่า
· สุดท้ายคือให้กำลังใจตัวเองว่า ความกังวลเหล่านั้นเกิดขึ้นแล้วและมันจะหายไป คิดถึงแค่วันนี้ ดูแลตัวเองและลูกให้ดีที่สุดดีกว่า
2. หายใจลึกๆ หลังจากหยุดพฤติกรรมจากข้อหนึ่งแล้ว คุณแม่ลองนั่งหรือนอนพิงเบาะเหมาะ แล้วหายใจเข้าออกลึกๆ ช้าๆ หากใครเคยเข้าคอร์สเตรียมคลอดมาก่อน เทคนิคการหายใจเหล่านั้นจะช่วยให้คุณแม่คลายความตึงเครียดได้ดี ไม่ว่าจะก่อนหรือขณะคลอด และช่วยลดโอกาสที่จะเกิดอาการตื่นตระหนกได้ดีทีเดียว
วิธีหายใจให้คลายเครียด หายใจเข้า 5-7 วินาที หายใจออก 5-7 วินาทีเช่นกัน ระหว่างหายใจออกให้เป่าลมออกทางปากด้วย ทำซ้ำประมาณ 10-20 ครั้ง
3. หากิจกรรมผ่อนคลาย ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง ดูรูปภาพครอบครัวหรือธรรมชาติ อ่านหนังสือหรือนิตยสารสนุกๆสักเล่ม หรือแม้แต่การทำกิจกรรมเล็กๆน้อยๆก็ช่วยได้ เช่น จัดโต๊ะเครื่องแป้งใหม่ ทำอาหารง่ายๆกิน คุยโทรศัพท์กับเพื่อน เป็นต้น ลองเลือกดูว่ากิจกรรมไหนทำแล้วผ่อนคลายและชอบมากที่สุด
4. ปล่อยวางแต่ไม่วางเฉย หากคุณแม่เตรียมพร้อมทุกอย่างแล้ว เหลือแค่รอสัญญาณจากลูกน้อย พร้อมหิ้วกระเป๋าไปโรงพยาบาลได้ทันที ก็คงไม่มีอะไรน่ากังวล เพราะไม่ว่าเราจะคิดกังวลแค่ไหนก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น แถมเครียดมากๆจะส่งผลต่อลูกน้อยด้วย ดังนั้นนึกถึงแต่เรื่องดีๆ ยิ้มแย้มพูดคุยกับคนรอบตัวและทำให้ทุกวันมีความสุขก็พอแล้ว
บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง
ที่มาภาพ : Shutterstock