เหนื่อยมามากกับไตรมาสแรกอันแสนอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า เมื่อย่างเข้าสู่ไตรมาสที่สอง เหมือนหนังคนละม้วน อารมณ์ดีขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด อยากกินอะไร อยากทำอะไร ทำได้หมด เพราะอาการแพ้ท้องค่อยจางหายไปแล้ว แต่ขอแนะนำอย่าเอ็นจอยกับอาหารมากจนเกินไป อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพแม่และลูกในระยะยาวได้ ต้องควบคุมปริมาณแคลอรี่ และสารอาหารให้อยู่ มีกินตามใจปากได้บ้าง สักชิ้นสองชิ้นไม่ว่ากัน
สำหรับประเภทอาหารที่อยากให้แม่ท้องให้ความสำคัญ คือ โปรตีน กรดโฟลิก และธาตุเหล็ก เพราะเป็นช่วงที่ลูกน้อยต้องสร้างอวัยวะสำคัญหลายอย่าง ซึ่งทั้งสามชนิดนี้พบมากในพืชผัก ผลไม้ ถั่ว และเนื้อสัตว์ นอกจากกลุ่มสารอาหารที่เราต้องคำนึงถึงแล้ว วิธีการปรุงก็สำคัญ ควรเลือกต้ม นึ่ง อบ แทนการทอดหรือผัดดีกว่า นอกจากนี้อาหารที่ไม่สุกหรือไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์ควรงดไปเลย เพราะมีแบคทีเรียที่เป็นอันตรายต่อลูกในท้อง รวมไปถึงลดหวาน ลดเค็ม และลดการปรุงรสจัดจ้านด้วย การใส่ใจในการกินอาหารที่ดีมีคุณภาพส่งผลต่อร่างกายแม่ท้องคือ ช่วยลดอาการกรดไหลย้อน ท้องผูก เลือดลมถ่ายเทสะดวก ชวนให้สบายเนื้อสบายตัว เมื่อไหร่ที่ร่างกายสบาย ใจก็ไม่เครียด ไม่หงุดหงิด และแน่นอนลูกย่อมแข็งแรงทั้งกายและใจตามมา
สำหรับน้ำหนัก ในช่วงไตรมาสที่สองควรขึ้นไม่เกินสัปดาห์ละ 0.5 กิโลกรัม หากรวมทั้งตลอดการตั้งครรภ์แล้วก็ไม่ควรเกิน 11-15 กิโลกรัม วิธีควบคุมน้ำหนักง่ายๆ ก็แค่ลุกขึ้นมาเดินเล่น ชมนกชมไม้บ้าง ไม่นั่งหรือนอนเฉยๆ หลังกินข้าว นอกจากน้ำหนักไม่เกินแล้ว ร่างกายยังแข็งแรงอีกด้วยค่ะ
บทความโดย: กองบรรณาธิการเรียลพาเรนติ้ง
ที่มาภาพ : Shutterstock