ไม่ใช่แต่เด็กเล็กๆ เท่านั้นที่มีเลือดกำเดาไหลบ่อย ว่าที่คุณแม่หลายคนก็มี เลือดกำเดาไหลตอนท้อง ในช่วง 14-27 สัปดาห์ เนื่องจากระดับฮอร์โมนที่ทำให้หลอดเลือดในโพรงจมูกขยายตัว เมื่อพื้นที่ขยาย ปริมาณเลือดก็มากขึ้น เพิ่มแรงดันในหลอดเลือดให้มากขึ้นตามไปด้วย หลอดเลือดฝอยจึงแตกได้ง่าย
เลือดกำเดาไหลตอนท้อง กับโรคจมูกในคุณแม่ตั้งครรภ์
นอกจาก เลือดกำเดาไหลตอนท้อง แล้ว คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ยังมีเยื่อบุผิวในโพรงจมูกแห้งมากเป็นพิเศษ ยิ่งถ้าอยู่ในที่ที่อากาศเย็นและแห้ง อย่างห้องปรับอากาศ เลือดกำเดาก็ยิ่งไหลง่ายขึ้น หรือบางครั้งอาการไซนัสอักเสบ หรือติดเชื่อในโพรงจมูกอื่นๆ ก็อาจทำให้เกิด เลือดกำเดาไหลตอนท้อง ได้เหมือนกัน
รศ.นพ. ปารยะ อาศนะเสน ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ให้ความรู้ไว้ว่า การเปลี่ยนแปลงของร่างกายในช่วงตั้งครรภ์ ทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุจมูก ยิ่งเพิ่มการเกิดเลือดกำเดาไหล และทำให้โรคจมูกและไซนัสแย่ลงได้ง่าย โดยระหว่างช่วง 6 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ จะมีการเพิ่มปริมาณเลือดในหลอดเลือดของคุณแม่ และจะเคลื่อนตัวออกนอกหลอดเลือดในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ ทั้งนี้เกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ทำให้เส้นเลือดในเยื่อบุขยายตัว ส่งผลให้เกิดอาการทางจมูก หรือไซนัส หรืออาจทำให้โรคจมูกและไซนัสที่มีอยู่แล้วแย่ลงได้ แต่ส่วนใหญ่อาการต่างๆ จะดีขึ้นเอง 5 วันหลังคลอด
คุณแม่ตั้งครรภ์ 20-40% จะมีอาการเยื่อบุจมูกอักเสบ หรือโรคจมูกและไซนัส คุณแม่ตั้งครรภ์ 10-30% จะรู้สึกว่าอาการของโรคจมูก หรือไซนัสของตัวเองแย่ลงขณะตั้งครรภ์ โดยอาการที่คุณแม่มักจะไปพบแพทย์บ่อยๆ ได้แก่ โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้, โรคไซนัสอักเสบ, เยื่อบุจมูกอักเสบจากการตั้งครรภ์ และเลือดกำเดาไหล