คำแนะนำในการเดินทางขณะตั้งครรภ์
1.คุณแม่ที่ไม่มีความเสี่ยงใดๆ สามารถเดินทางไกลได้ โดยช่วงตั้งครรภ์ 16-28 สัปดาห์หรือในช่วงไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์จะเป็นช่วงที่สบายและปลอดภัยที่สุด ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไกลในช่วงไตรมาสแรก โดยเฉพาะในช่วง 12 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ เพราะเป็นช่วงที่คุณแม่ต้องปรับตัวทั้งทางร่างกายและจิตใจ
2.เตรียมของกินและของใช้ที่จำเป็นไปด้วย เช่น ยา ยาฆ่าเชื้อโรค นมที่ดื่มอยู่ประจำ รวมถึงน้ำดื่มสะอาด เพราะบางที่น้ำดื่มอาจไม่สะอาดก็ได้ แต่หากไม่ได้พกน้ำไปด้วยก็ควรดื่มน้ำแบบบรรจุขวดแทน ส่วนของใช้ที่คุณแม่ควรนำติดตัวไปด้วยจากของใช้ส่วนตัวต่าง ๆ ก็คือ รองเท้าที่สวมใส่สบาย
3.ควรพกยาดม ยาหอม หรือลูกอมที่มีรสหวานหรือบ๊วยติดกระเป๋าไว้เสมอในขณะเดินทาง เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันอาการน้ำตาลในเลือดต่ำแล้ว ยังช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ด้วย
4.ถ้าเป็นไปได้คุณแม่ควรจดบันทึกย่อ ๆ เกี่ยวกับสุขภาพระหว่างการตั้งครรภ์ ยาที่คุณแม่ใช้ และปัญหาที่มีในการตั้งครรภ์ รวมถึงชื่อและเบอร์โทรติดต่อของคุณหมอที่ดูแล พร้อมทั้งตรวจสอบรายชื่อสูติแพทย์หรือโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้กับสถานที่ที่คุณแม่จะไป และควรจดชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรติดต่อไว้ด้วยเผื่อในกรณีฉุกเฉิน
5.ตรวจสอบการประกันอุบัติในการเดินทางด้วยว่าครอบคลุมถึงการตั้งครรภ์และลูกน้อยในครรภ์หรือไม่อย่างไร สำหรับกรณีที่คลอดบุตรก่อนกำหนด
6.โดยปกติแล้วคุณแม่ตั้งครรภ์จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคลิ่มเลือดอุดตันที่ขาได้อยู่แล้ว ยิ่งถ้าต้องเดินทางเป็นเวลานาน ๆ ควรจะมีการขยับแข้งขยับขาหรือลุกขึ้นเดินบ้างเป็นระยะ ๆ
7.คุณแม่ไม่ควรกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน เพราะอาจส่งผลให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบและมีเชื้อโรคหลุดลอดเข้าไปในครรภ์จนเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ ดังนั้นคุณแม่ควรถ่ายปัสสาวะทุก ๆ 2 ชั่วโมง และหากเกิดปัญหาหรือมีเหตุฉุกเฉินกับคุณแม่ตั้งครรภ์ก็ให้รีบไปโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดในทันที