โดยคุณแม่แต่ละคนจะมีระยะเวลาในการเจ็บท้องคลอดต่างกัน คุณแม่ท้องแรกอาจจะมีอาการเจ็บท้องนานถึง 12-14 ชั่วโมงก่อนที่จะมีการคลอดเกิดขึ้น แต่สำหรับคุณแม่ท้อที่ 2 ขึ้นไปแล้วจะเจ็บท้องคลอดนานประมาณ 6-7 ชั่วโมง แต่อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาของการเจ็บท้องคลอดอาจจะเนิ่นนานกว่าปกติถ้าทารกอยู่ในท่าหรือมีส่วนนำที่ผิดปกติขณะอยู่ในครรภ์ (โดยเฉพาะทารกที่มีส่วนนำที่ไม่ใช่ศีรษะ) อีกทั้งอาการเจ็บท้องตลอดยังแบ่งเป็นระยะย่อย ๆ ได้อีก 3 ระยะ
- โดยระยะแรกจะใช้เวลาค่อนข้างนานประมาณ 5-8 ชั่วโมงในครรภ์แรก ซึ่งเป็นระยะที่อาการเจ็บยังไม่รุนแรงนักและเป็นระยะที่ปากมดลูกเริ่มเปิดมากขึ้นเรื่อย ๆ
- ส่วนในระยะถัดมาจะเป็นการเจ็บท้องถี่และรุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3-5 ชั่วโมง
- จนกระทั่งในระยะสุดท้ายหรือ “ระยะเบ่ง” คุณแม่จะรู้สึกเจ็บท้องรุนแรงมากที่สุดและกินระยะเวลานานประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งจะเป็นช่วงก่อนที่จะมีการเบ่งทารกคลอดออกมา (ตลอดระยะเวลาที่คุณแม่เจ็บท้อง แพทย์จะพิจารณาให้ยาบรรเทาอาการเจ็บทางเส้นเลือด หรืออาจฉีดยาชาเข้าทางไขสันหลังให้กับคุณแม่)
ทั้งนี้การใช้ยาฉีดแก้ปวดพบว่า… อาจกดการหายใจของทารก การกินยาแก้ปวด การเตรียมความพร้อมของแม่ การสะกดจิตแม่ท้อง หรือการฝังเข็ม ก็ไม่สามารถช่วยลดความปวดได้อย่างเป็นที่พอใจ ดังนั้นแล้วในศาสตร์ของมณีเวชเกี่ยวกับการจัดร่างกายให้สมดุล จึงได้มีการพัฒนาการนั่งท่าผีเสื้อ เพื่อช่วยเพิ่มปริมาตรในอุ้งเชิงกรานทำให้การกดเบียดของมดลูกต่อเส้นประสาท เส้นเลือดดำ-แดง ตลอดจนระบบน้ำเหลืองน้อยลง ให้อาการปวดท้องและปวดหลังของการเจ็บครรภ์คลอดลดลงได้ อีกทั้งการนั่งท่าผีเสื้อนั้นก็สามารถลดระยะเวลาการคลอดโดยเฉพาะในระยะปากมดลูกเปิดเร็ว พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการหดรัดตัวของมดลูก ให้ทำการคลอดเร็วขึ้นได้
ผลการวิจัยต่อการนั่งท่าผีเสื้อประยุกต์ เร่งปากมดลูกเปิด
การนั่งท่าผีเสื้อประยุกต์ สามารถช่วยลดการเจ็บปวดและเร่งปากมดลูกให้เปิดเร็วขึ้น โดยได้มีผลการวิจัยถึงการใช้ท่านั่ง ที่เข้ามามีส่วนช่วยในการลดความเจ็บปวดระหว่างคลอด ซึ่ง ท่าผีเสื้อประยุกต์ นี้ เป็นท่าที่ศึกษาดัดแปลงจากท่าผีเสื้อ (Bhadrasana) ซึ่งเป็นท่าหนึ่งในชุดท่าโยคะอาสนะที่ใช้บริหารร่างกายหญิงตั้งครรภ์
ซึ่งผู้วิจัยได้ทดลองสุ่มคุณแม่ท้องที่มีการตั้งครรภ์แรก ครรภ์เดี่ยว มีศีรษะของทารกเป็นส่วนนำ อายุครรภ์ 37-42 สัปดาห์ และคาดคะเนน้ำหนักทารกไม่เกิน 4,000 กรัม ทั้งนี้ครรภ์จะต้องเข้าสู่ระยะการคลอดโดยธรรมชาติ และมีปากมดลูกเปิด 3 เซนติเมตรขึ้นไป ความบาง 100% โดยเลือกตัวอย่าง 60 คน และสุ่มให้นั่งท่าผีเสื้อในระยะที่ปากมดลูกเปิดเร็ว ครั้งละ 15 นาที ทุก 1 ชั่วโมง จนปากมดลูกเปิดหมด และประเมินการเจ็บครรภ์ด้วย VAS (Visual Analog Scale)
ซึ่งผลสรุปคือ
การนั่งท่าผีเสื้อประยุกต์ในระยะเจ็บครรภ์คลอดในช่วงปากมดลูกเปิดเร็ว (ปากมดลูกเปิด 3 หรือ 4 เซนติเมตร ถึง 10 เซนติเมตร จะช่วยให้ปากมดลูกเปิดเร็วขึ้น ช่วยลดระยะเวลาในการเจ็บคลอดได้ สำหรับการลดปวดในระยะคลอด การนั่งท่านี้ช่วยให้ปวดน้อยลงแต่บางท่านไม่ช่วยลดปวด (ผลศึกษาค่าเฉลี่ยความปวดไม่แตกต่างกัน)
นั่งท่าผีเสื้อช่วยเร่งมดลูกเปิดเร็วได้จริงหรือ?
ทั้งนี้ยังได้มีมีงานวิจัยเผยถึง ท่าทางของคุณแม่ท้องตอนที่กำลังจะคลอดว่ามีผลต่อแรงหดรัดตัวของมดลูก ขนาดเชิงกราน และการหมุนภายในของทารก ซึ่งการนั่งท่าผีเสื้อนั้นก็สามารถลดระยะเวลาการคลอดโดยเฉพาะในระยะปากมดลูกเปิดเร็ว พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการหดรัดตัวของมดลูก ให้ทำการคลอดเร็วขึ้นได้
โดยในการศึกษาวิจัยนี้ผู้ศึกษาได้ทดลองแบบสุ่ม คุณแม่ท้อง 48 ราย แบ่งเป็นกลุ่มนั่งท่าผีเสื้อ และกลุ่มควบคุมเท่าๆ กัน เริ่มศึกษาเมื่อเข้าสู่ระยะของการคลอดโดยธรรมชาติ ปากมดลูกเปิดตั้งแต่ 3 เซนติเมตร ได้รับยาออกซิโตซินทางหลอดเลือดดำ และใช้รูปภาพแสดงวิธีการนั่งท่ามณีเวชประกอบการสอนนั่ง พรอ้มบันทึกข้อมูล ได้แก่ ลักษณะถุงน้ำคร่ำ ระดับส่วนนำของทารกเมื่อเริ่มศึกษา เวลาที่ปากมดลูกเปิด 10 เซนติเมตร การวัดผลลัพธ์ คือ เวลาเฉลี่ยการเปิดของปากมดลูกต่อ 1 เซนติเมตร
ซึ่งผลการศึกษาสรุปได้ว่า ค่าเฉลี่ยเวลาเปิดของปากมดลูกในกลุ่มนั่งท่าผีเสื้อประยุกต์ และกลุ่มควบคุม เท่ากับ 19.6 และ 29.4 นาทีต่อเซนติเมตร ตามลำดับ นั่นหมายถึงการนั่งท่าผีเสื้อประยุกต์ในขณะรอคลอดนั้น สามารถช่วยให้ปากมดลูกเปิดเร็วกว่าการนอนรอคลอดปกติ
อ่านต่อ “ขั้นตอนการจัดท่านั่งท่าผีเสื้อประยุกต์ ” คลิกหน้า 3
อ่านต่อ “บทความดีๆ น่าสนใจ”คลิก!
- 6 อาหาร ช่วยแม่ท้องเร่งคลอดแบบธรรมชาติ
- การเร่งคลอด คืออะไร ทำไมถึงต้องเร่งคลอด?
- วิธีเร่งคลอด ด้วยวิธีธรรมชาติ ป้องกันคุณแม่ท้องเกินกำหนด
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่