account_circle
4. อายุของคุณแม่ในขณะตั้งครรภ์ คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป จะมีโอกาสตั้งครรภ์แฝดมากกว่าการตั้งครรภ์ตอนอายุน้อย ๆ ถึง 4 เท่า (อุบัติการณ์สูงสุดจะอยู่ที่อายุ 35-39 ปี เนื่องมาจากการที่ไข่เหลือเก็บ ต้องถูกกระตุ้นมาก ร่างกายจึงหลั่งฮอร์โมน FSH ออกมาเยอะ ไข่จึงมีโอกาสตกครั้งละมากกว่า 1 ฟอง) แต่ไม่แนะนำให้คุณแม่มีลูกตอนอายุมาก เพราะจะมีโอกาสเกิดภาวะเสี่ยงได้มากกว่าคุณแม่ที่มีอายุน้อยหลายเท่า
5. กินยาคุมเกิน 3 ปีขึ้นไป เพราะเมื่อหยุดกินยาแล้วจะทำให้ไข่ตกมากขึ้น (ฤทธิ์ของยาจะไปกดฮอร์โมนใต้สมองทำให้ไข่ไม่ตก พอหยุดกินฮอร์โมนที่ถูกกดไว้จะถูกปลดปล่อยออกมา) จึงทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์แฝดได้มากขึ้น
6. การให้นมลูกอย่างต่อเนื่อง มีอีกหนึ่งงานวิจัยที่ระบุว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ให้นมลูกคนแรกอย่างต่อเนื่องจนถึงเวลาจะมีลูกในครรภ์ที่สอง จะมีโอกาสได้ลูกแฝดมากกว่าคุณแม่ที่ไม่ได้ให้นมลูก
7. น้ำหนักและส่วนสูง ซึ่งการทานอาหารเยอะจะมีโอกาสตั้งครรภ์แฝดได้มากกว่า เนื่องจากร่างกายมีความสมบูรณ์มากกว่า และมีบางข้อมูลระบุว่าคุณแม่ที่เป็นโรคอ้วน (มีน้ำหนักตัวหรือมีดัชนีมวลกายมากกว่า 30) และมีรูปร่างสูง จะมีโอกาสตั้งครรภ์แฝดมากขึ้น (แต่ก็ไม่แนะนำอยู่ดี เพราะถ้าอ้วนขึ้นมาจะส่งผลเสียต่อลูกในท้องได้)
8. รับประทานกรดโฟลิก เนื่องจากมีงานวิจัยจากประเทศออสเตรเลียที่พบว่า กรดโฟลิกมีส่วนช่วยให้เกิดการตั้งครรภ์แฝดมากขึ้น แต่งานวิจัยนี้ยังมีนักวิจัยอื่น ๆ แย้งว่าเป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ยาก อย่างไรก็ตามการกินกรดโฟลิกก็เป็นเรื่องจำเป็นอยู่แล้วก่อนการตั้งครรภ์
9. รับประทานอาหารที่มีแคลเซียม มีผลงานวิจัยของ ดร.แกรี่ สไตน์แมน ประจำศูนย์การแพทย์ที่เมืองลองไอแลนด์ มลรัฐนิวยอร์ก บอกว่าผู้หญิงที่ดื่มนมมากกว่าปกติ 5 เท่าจะมีโอกาสได้ลูกแฝดมากกว่าผู้หญิงที่เป็นมังสวิรัติที่ไม่บริโภคอาหารประเภทเนื้อเลยถึง 5 เท่า!! นอกจากนี้ผลการวิจัยยังสันนิษฐานด้วยว่าโปรตีนที่พบในตับของสัตว์เป็นปัจจัยของการมีลูกแฝด เพราะโปรตีนชนิดนี้มีองค์ประกอบการเติบโตคล้ายอินซูลิน เรียกว่า IGF ที่พบได้ในนมวัวและผลิตภัณฑ์ของสัตว์อื่น ๆ ซึ่งเป็นโปรตีนที่จะช่วยให้รังไข่มีปฏิกิริยาไวขึ้นและช่วยเพิ่มจำนวนไข่ให้มากขึ้น
ท่าเซ็กส์สร้างลูกน้อย
นอกจากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นแล้วหากคุณพยายามลองทำและอยากได้ลูกแฝด ก็ยังมีคล็ดลับอีกอย่างคือ ท่วงท่าร่วมรัก ซึ่งก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการมีลูกแฝด โดยให้คุณผู้หญิงนอนตะแคง และคุณผู้ชายเข้าทางด้านหลัง หรือทำแบบนี้ในท่ายืน เพราะจะทำให้เหล่าอสุจิน้อยวิ่งเข้าสู่รังไข่ได้โดยตรง ซึ่งท่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ฝ่ายคุณผู้หญิงมีลูกได้ง่ายขึ้น
♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥
อีกทางเลือกสำหรับครอบครัวที่ อยากได้ลูกแฝด
ทั้งนี้สำหรับการมีลูกแฝดด้วยวิธีธรรมชาติตามที่กล่าวมานั้น แม้ว่าปัจจัยดังกล่าว “อาจจะ” ช่วยเพิ่มโอกาสให้มีลูกแฝดได้ก็ตาม แต่ถ้าคุณแม่ที่ไม่มีเชื้อชาติเป็นคนผิวสีหรือญาติทางฝ่ายคุณแม่ไม่เคยมีใครตั้งครรภ์แฝด ก็แทบจะไม่มีโอกาสที่จะได้ลูกแฝดเลย
แต่วิธีที่เป็นไปได้มากที่สุดและหวังผลได้ก็คือการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์อย่างการทำเด็กหลอดแก้ว เพราะเป็นกรณีที่พบได้บ่อยที่สุดของการตั้งครรภ์แฝด ซึ่งจะทำให้ได้ลูกแฝดมากกว่าธรรมชาติถึง 20 เท่า (โดยเฉพาะแฝดเทียม) ซึ่งหากแพทย์ทำการย้ายตัวอ่อนกลับเข้าไปมากกว่า 1 ตัวก็จะมีความเป็นไปได้ว่าตัวอ่อนทุกตัวหรือมากกว่า 1 ตัวที่ย้ายเข้าไปจะมีโอกาสฝังตัวและเจริญเติบโตเป็นฝาแฝด ซึ่งตรงนี้ยังเป็นเรื่องที่เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ในปัจจุบันไม่สามารถควบคุมให้ได้ทารกตามจำนวนที่ต้องการได้
อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วการทำเด็กหลอดแก้วจะมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้เกิดการตั้งครรภ์ของผู้ที่มีบุตรยากเท่านั้นไม่ได้มุ่งหวังให้เกิดการตั้งครรภ์แฝดเหมือนที่หลาย ๆ คนเข้าใจ เพราะการตั้งครรภ์แฝดนั้นถือเป็นภาวะแทรกซ้อนอย่างหนึ่งที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพคุณแม่และทารกในครรภ์ ถ้าคุณแม่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการมีบุตรยาก แพทย์ก็คงไม่อยากเสี่ยง
เพราะฉะนั้นแล้วการตั้งครรภ์ที่มีเด็กน้อยเพียงคนเดียว จึงมีความปลอดภัยมากกว่า แถมคุณแม่ยังสามารถเอาใจใส่ดูแลลูกน้อยได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นแล้วสำหรับพ่อแม่ยุคใหม่ที่มีความพร้อมที่อยากจะมีลูกแล้ว อย่ามองแต่เพียงความน่ารักของตัวเด็กแล้วเกิดความคิดที่อยากจะมีลูกแฝดเหมือนครอบครัวอื่น ๆ แต่สิ่งสำคัญคุณแม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความสมบูรณ์ของลูกน้อยมาเป็นอันดับแรก เพราะแม้จะมีหลาย ๆ ครอบครัวที่โชคดีมาก ๆ ที่สามารถผ่านพ้นความเสี่ยงต่าง ๆ มาได้ตลอดการตั้งครรภ์ แต่ก็มีอีกหลายครอบครัวเลยครับที่ต้องผิดหวังไปกับการสูญเสียทารกในครรภ์จากการตั้งครรภ์แฝดไป
อ่านต่อ “บทความดี ๆ น่าสนใจ” คลิก!
- สัญญาณบอก อาการแบบนี้ ท้องลูกชาย ชัวร์!
- แม่สวย แต่งตัวเก่งแบบนี้ ท้องลูกสาว แน่นอน!
- รวม กระบวนท่ารัก (sex) สำหรับทำลูกสาว-ลูกชาย
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.kaiwhan.com/4939/
