“มองไปในท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ มันไม่มีขีดจำกัด ก็เหมือนความฝันของคนเรา”
ความแตกต่างอาจจะอยู่ที่ คนๆ นั้น กล้าที่จะทำตามความฝันของตัวเองหรือไม่
ย้อนหลังไปเมื่อราวแปดปีก่อน เด็กชายโจ อายุเพียง 13 ปี ตอนนั้นโจเป็นแค่นักว่ายน้ำฝึกหัด โจได้พบกับไมเคิลโดยบังเอิญที่คลับแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ ซึ่งไมเคิลมาเก็บตัวเพื่อเตรียมไปแข่งโอลิมปิคที่ปักกิ่ง
เหมือนทุกคนที่ชอบว่ายน้ำ โจมีไมเคิลเป็นไอดอลในใจเสมอมา โจได้ขอไมเคิลถ่ายรูป เป็นที่ระลึก ตอนนั้นโจไม่เคยคิดฝันว่าในวันหนึ่ง พวกเขาจะได้มาแข่งขันในสระว่ายน้ำเดียวกัน
ลึกๆ ในใจ โจมีความฝันที่จะทำได้อย่างไมเคิล เขาฝันจะได้เหรียญทองในการแข่งขันโอลิมปิก
แต่ตอนนั้นความเป็นจริง กับความฝันมันช่างห่างไกลกันเหลือเกิน
แต่ใครจะรู้อนาคต อีกสี่ปีต่อมา โจเป็นตัวแทนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงลอนดอนในปี 2012
ท่าผีเสื้อ เป็นท่าที่โจมีความถนัดที่สุด แต่ตอนนั้นด้วยความผิดพลาดหลายๆ อย่าง โจทำเวลาได้ไม่ดีเลยในการแข่งขัน ไม่ผ่านรอบคัดเลือกด้วยซ้ำ
เขารู้สึกผิดหวังมาก และเสียกำลังใจ
ในเส้นทางที่เดินไปสู่ความฝัน อาจมีหลายครั้งที่มีเหตุการณ์ที่ทำให้กำลังใจของคนเราหล่นหายไป สิ่งที่เลือกทำ ก็คือ การสร้างกำลังใจให้ตัวเอง แล้วเดินตามความฝันนั้นต่อไป หรือเลือกที่จะเก็บความฝันนั้นในก้นบึ้งของจิตใจ เลิกล้มทุกอย่าง
แต่เพราะอะไร โจจึงเลือกที่จะเดินหน้าคว้าฝันต่อไป