7 โรคเด็ก ช่วงเปิดเทอม ที่ต้องระวัง - Page 2 of 3 - Amarin Baby & Kids
โรคเด็ก ช่วงเปิดเทอม

7 โรคเด็ก ช่วงเปิดเทอม ที่ต้องระวัง

Alternative Textaccount_circle
event
โรคเด็ก ช่วงเปิดเทอม
โรคเด็ก ช่วงเปิดเทอม

4.โรคท้องร่วง

โรคนี้จะเกิดจากไวรัส เช่น ไวรัสโรต้า เด็กๆเป็นกันง่ายมาก เพราะเชื้อโรคจะเข้าจากทางปาก จะพบบ่อยมากในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ขวบ คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตอาการลูกได้ดังนี้ ถ่ายเป็นน้ำ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ปวดหัว มีไข้ บางรายมีน้ำมูกหรือไอรวมด้วย แต่บางรายมีอาการรุนแรงร่างกายเสียน้ำมากจนมีอาการขาดน้ำ ต้องได้รับการรักษาจากแพทย์เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้หลายวันอาจทำให้เด็กเสียชีวิตได้ การรักษาโรคท้องร่วงท้องเสีย หลักการรักษาคือป้องกันการขาดน้ำโดยการได้รับ ORS วิธีการเตรียม น้ำต้มสุก 1 ขวด เทลงในแก้ว เติมผงเกลือแร่ ORS ลงไปคนจนละลาย แล้วเทน้ำที่ละลายเกลือแร่ลงในขวด ดื่มตามฉลากข้างซองกำหนด ยาที่ทำให้หยุดถ่ายไม่แนะนำเนื่องจากทำให้หายช้า

โรคที่พบบ่อย
โรคที่พบบ่อยในเด็กช่วงปิดเทอม

5.โรคหูและคออักเสบ

เกิดจากการเป็นหวัดเรื้อรังจนทำให้ท่อที่เชื่อมต่อระหว่างหูส่วนกลาง และคออักเสบ โดยจะมีอาการเจ็บคอ ปวดหู มีไข้ มีแผลในปาก และมีกลิ่นปาก จึงควรหมั่นดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นหวัด และเกิดโรคหูและคออักเสบตามมาได้นั่นเองค่ะ

6.โรคตาแดง

เกิดจากการที่มือไปสัมผัสกับเชื้อโรคแล้วมาขยี้ตา ทำให้ดวงตาติดเชื้อ โดยจะมีขี้ตามาก น้ำตาไหล เจ็บหรือแสบตา มีตุ่มขึ้นบริเวณดวงตา และอาจมีเลือดออกใต้เยื่อบุตา ทำให้ตาดูแดงจัด นอกจากนี้มักมีอาการไข้หวัดมาก่อน เช่น เจ็บคอ มีไข้ วิธีป้องกันที่ง่ายและดีที่สุดคือ คุณพ่อคุณแม่ควรสอนลูกไม่ให้ขยี้ตา และหมั่นล้างมือบ่อยๆเพียงเท่านี้ก็สามารถป้องกันโรคตาแดงได้แล้วล่ะค่ะ

7.โรคเหา

อีกหนึ่งโรคยอดฮิตของเหล่าเด็กน้อย และมักติดมาจากเพื่อนร่วมชั้นเรียนทางการสัมผัสและความใกล้ชิด โดยจะมีอาการคันตามศีรษะอาจมีตุ่มนูนแดงเล็กๆเป็นสะเก็ดแห้งๆหรือเกิดหนองขึ้นได้เกิดจากการระคายเคืองจากน้ำลายของเหาเมื่อเหากัดนั่นเอง และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ลูกรักเป็นโรคเหา ควรหมั่นทำความสะอาดร่างกายและสิ่งของเครื่องใช้อยู่เสมอ และไม่ใช่สิ่งของร่วมกันเป็นดีที่สุดค่ะ

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เชื้อโรคมีอยู่ทุกที่ไม่ใช่เฉพาะที่โรงเรียนนะคะ เพียงแต่เด็กเล็กวัยอนุบาลนั้นสามารถเป็นโรคต่างๆเหล่านี้ได้บ่อยครั้ง เพราะเด็กยังมีภูมิคุ้มกันโรคไม่เพียงพอ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรดูแลลูกอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ลูกป่วยง่ายหรือบ่อยจนเกินไป เพราะถ้าลูกป่วยบ่อยๆจะส่งผลเสียทางด้านจิตใจ ร่างกาย และ การเรียนรู้ของลูกได้ค่ะ

ได้ข้อมูลที่ชัดเจนแบบนี้ ความกังวลคลายลงไปเยอะเลยใช่ไหมคะ เพราะใช่ว่าเราจะต้องยอมจำนนกับโรคเหล่านี้เสียเมื่อไหร่ ซึ่งคาถาง่ายๆ มีอยู่ว่า ถ้าเพียงแค่เรารู้จักป้องกัน ไม่เอาแต่โทษว่าเป็น “โรคโรงเรียนทำ” แต่ร่วมกันสร้างสภาวะแวดล้อมภายในโรงเรียนให้ปลอดภัย และสะอาดอยู่เสมอ รวมถึงการเตรียมพร้อมลูกให้กินอาหารที่ดีมีประโยชน์ นอนเต็มอิ่ม และออกกำลังกายเป็นประจำ เรื่องสู้โรคภัยไหนๆ ก็ไม่น่าเป็นห่วงหรอกค่ะ

อ่านต่อ >> วิธีดูแลเด็กวัยเรียนให้มีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ” คลิกหน้า 3

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up