ของที่เด็กทำเสียหาย มีคุณค่าไม่เท่ากับโอกาสที่เด็กได้ค้นคว้าศึกษา
นาย เถา สิง จือ เป็นนักศึกษาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของจีน วันหนึ่ง ผู้หญิงคนหนึ่งมาบ่นกับเขาว่า “คุณเถา ลูกชายของดิฉันซนมากเลย วันวันมีแต่ทำของในบ้านพังเสียหายหมด นี่เมื่อวานก็เพิ่งทำนาฬิกาเรือนทองที่ราคาแพงๆ ของพ่อเขาพัง ดิฉันจึงตีเขาไปหลายที โอ๊ย ไม่รู้จะทำยังไงดี” นายเถา ตอบเขาทันทีว่า “เสียดายจัง” หญิงคนนั้นได้ยินนายเถา พูดคำว่าเสียดาย นึกว่านายเถาก็คงเสียดายนาฬิกาทองของสามีเขาเหมือนกัน แต่นายเถากลับพูดต่อว่า “แอติสัน นักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ของจีนในอนาคต ถูกคุณตีตายแล้ว”
พ่อแม่หลายท่านก็เคยมีประสบการณ์เช่นนี้เหมือนกัน ของเล่นที่เพิ่งซื้อมาใหม่เด็กได้เล่นแค่ไม่กี่วันเอง เมื่อเจอมันอีกทีก็กลายเป็นชิ้นส่วนที่แยกกันกองอยู่บนพื้นแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตุ๊กตาที่เพิ่งซื้อเข้าบ้านยังไม่ถึงอาทิตย์ ก็แขนหัก ขาหาย พ่อแม่เสียดายเงินจึงอดไม่ได้ที่จะต้องตะโกนว่า “ของเล่นตั้งแพง ลูกไม่รู้จักรักษาให้ดีๆ ต่อไปจะไม่ซื้อให้แล้วนะ”
- ทำความเข้าใจว่า ทำไมเด็กชอบทำลายข้าวของ
เวลาเด็กมีความสนใจต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ก็มักจะแกะออกมาดูว่าข้างในมันมีอะไร โดยที่เขาไม่ได้นึกว่านี่คือการทำลาย แต่เขากลับคิดว่านี่คือ การค้นคว้าและเรียนรู้ สมองของเด็กเต็มไปด้วยคำถามที่มากมาย เช่น “ทำไมรถวิ่งได้” “ทำไมนาฬิกาถึงเดินได้” “ข้างในมันมีอะไรหนอ?” เขาจะจดจ่อกับสิ่งเหล่านี้และใช้สองมือเล็กๆ ของตนเองในการค้นหาคำตอบ พอเด็กแกะของออกเรียบร้อยแล้วและตรวจดูชิ้นส่วนเสร็จ เขาก็อยากจะนำชิ้นส่วนเหล่านี้มาประกอบติดกันใหม่ ให้คืนสภาพอีกครั้งหนึ่ง แต่เนื่องด้วยความจำกัดของความสามารถ เขามักจะทำชิ้นส่วนหักหรือหายไปบางชิ้น จนมันซ่อมไม่ได้
เวลาเด็กทำอะไรสักอย่าง เขาไม่สามารถคาดการณ์ถึงผลที่จะตามมาได้ เช่น เด็กที่ทำตุ๊กตาแขนหักนั้น เจตนาคือ เขาเห็นเสื้อผ้าของตุ๊กตามันสกปรกแล้ว จึงอยากถอดเสื้อมันออกไปซักให้ แต่ถอดยังไงก็ถอดไม่ออก จึงต้องหักแขนของตุ๊กตาออกเพื่อจะได้ถอดเสื้อไปซักให้ได้ สรุปว่า เด็กๆ อาจจะทำลายข้าวของก็จริง แต่ก็ทำไปด้วยเจตนาที่ดีก็เป็นได้
- รักษาแรงบันดาลใจในการค้นคว้าศึกษาของเด็ก
สิ่งแรกที่เราต้องทำก็คือ เข้าใจและสนับสนุนความคิดของเด็ก เราต้องเข้าใจว่า ของที่เด็กทำเสียหายนั้น มีคุณค่าไม่เท่ากับความสนใจของเด็กในด้านการค้นคว้าศึกษาหรอก สาเหตุที่เด็กแสดงพฤติกรรมที่ชอบทำลายของนั้น ไม่ใช่นิสัยไม่ดี หรือ ชอบยั่วโมโหเรา แต่มันคือใจที่อยากรู้อยากเห็นอย่างแรงกล้า