คุณหมอจูดี้ โอเวนส์ ผู้อำนวยการคลินิกรักษาความผิดปกติด้านการนอนในเด็ก ของโรงพยาบาลเด็กแฮสโบร อธิบายว่า “เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยหนุ่มสาว รูปแบบการนอนและการตื่นของเด็กวัยนี้จะเปลี่ยนแปลงไป เขาจะง่วงนอนช้ากว่าที่เคย (เช่น จากที่เคยง่วงตอนสองทุ่มครึ่ง ก็อาจจะไปง่วงตอนสี่ทุ่มครึ่งโน่นเลย) ขณะที่ร่างกายของวัยรุ่นยังต้องการพักผ่อน 10 ชั่วโมงเหมือนเดิม ดังนั้นถ้าจะนอนให้เต็มที่ เขาก็ต้องตื่นสายกว่าที่เคย 1 – 2 ชั่วโมงนี่เอง แต่ในวันเรียนปกติ เขาต้องมาตื่นเวลาเดิม เขาเลยเกิดอาการนอนไม่พอ จึงเป็นที่มาของอาการหงุดหงิดขี้โมโหทั้งมวลนั่นเอง”
รู้อย่างนี้แล้ว มาหาทางช่วยให้วัยทวีนอารมณ์ดีรับยามเช้าดีกว่า คุณหมอโอเวนส์มีคำแนะนำมาฝาก
• ช่วยผ่อนคลายก่อนนอน ทำการบ้าน ดูโทรทัศน์ เล่นเกมคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์เมาท์กับเพื่อนไม่เลิก กิจกรรมเหล่านี้อาจทำให้ลูกว้าวุ่นใจจนไม่อยากเข้านอน ชวนเขาหยุดกิจกรรมทุกอย่าง และมีเวลาอยู่สงบๆ ก่อนถึงเวลานอนอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง จะช่วยให้ลูกเข้านอนได้ง่ายและเป็นสุขขึ้น
• รักษาความคงเส้นคงวาไว้ การให้เขานอนชดเชยเวลาที่ขาดไปเพิ่มในวันหยุดไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา แต่กลับจะแย่ลง เพราะทำให้เวลาในร่างกาย (Biological Clock) เขารวนมากขึ้น ทางที่ดีกว่าคือ ให้ลูกเข้านอนและตื่นนอนตามปกติ ถ้าเร็วขึ้นหรือช้าลงบ้างก็ไม่ควรเกิน 1 ชั่วโมง และช่วยจัดตารางวันหยุดของวัยทวีนให้วุ่นวายน้อยลง
• ดูแลเรื่องเครื่องดื่ม ไม่ควรให้ลูกดื่มเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีนผสมอยู่ โดยเฉพาะเครื่องดื่มชูกำลังต่างๆ ที่อาจจะมีกาเฟอีนในปริมาณมากเท่าๆ กับกาแฟเลยทีเดียว
• เข้าใจและปล่อยผ่าน ถ้าจริงๆ แล้วอารมณ์หงุดหงิดของเขาไม่ได้ทำอะไรให้เสียหายหรือโวยวายแหลก คุณแม่ก็ต้องทำ (ใจ) ปล่อยไปก่อน เพราะเขาไม่หงุดหงิดตลอดเวลาแน่ พออารมณ์ดีขึ้น ค่อยพูดคุยกันให้รู้ว่าคุณเข้าใจเขา แต่ลูกก็ควรมีวิธีการระบายอารมณ์ที่เหมาะสมด้วย
บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง