จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นอาการของโรคภูมิแพ้ ?
คนที่เป็นภูมิแพ้ ที่เรียกว่าแพ้อากาศ คือไว้ต่อสิ่งเร้าที่มากระตุ้นให้เกิดอาการของภูมิแพ้ขึ้นนั้น จะสังเกตได้ ดังนี้
– มีอาการ คัดจมูก จาม คันจมูก น้ำมูกไหล น้ำมูกไหลลงคอ
– เยื่อบุตาอักเสบเนื่องจากการแพ้ โดยจะมีอาการคันรอบ ๆ ตา หนังตาด้านในแดง น้ำตาไหล หนังตาบวม
– ผื่นลมพิษ ผิวหนังมีลักษณะคัน บวม นูนหนา
– อาการแพ้เฉียบพลัน มีอาการหน้าแดง เยื่อบุจมูกบวม คัด เกิดการบวมของเนื้อเยื่ออ่อนใต้ผิวหนัง มีผื่นลมพิษ คลื่นไส้อาเจียน หายใจมีเสียงวี๊ด ถ้าเป็นมากอาจมีความดันตก เป็นอันตรายถึงชีวิต
Good to know… “โรคภูมิแพ้เกิดจากปฏิกิริยาของร่างกายเราต่อสารที่ได้รับเข้าไป เช่น ไรฝุ่น ขนสัตว์เลี้ยงในบ้าน วัชพืช หรือเชื้อรา เป็นต้น”2
สำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้นั้น มักจะมีอาการเกิดขึ้นทั้งปี เนื่องจากมีปัจจัยที่ทำให้อาการภูมิแพ้กำเริบขึ้นได้ คือ ฝุ่น ไรฝุ่น สัตว์เลี้ยง(ขนของสุนัข แมว กระต่าย ฯลฯ) กลิ่นพรมปูพื้น ความชื้นของอากาศ เป็นต้น ยิ่งในครอบครัวที่มีคนป่วยด้วยโรคภูมิแพ้ ยิ่งโดยเฉพาะกับเด็กๆ คุณพ่อคุณแม่ควรต้องใส่ใจในเรื่องความสะอาดภายในบ้านให้มาก อย่างห้องนอนที่มีทั้งฟูกเตียงนอน ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ผ้านวม หมอน หมอนข้าง ปลอกหมอน ตุ๊กตาตัว ผ้าม่าน เป็นต้น ซึ่งหากไม่ทำความสะอาดให้ดี อาจมีทั้งฝุ่น และไรฝุ่น ที่เป็นตัวก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้กำเริบขึ้นได้ตลอดเวลาค่ะ
มีการสำรวจในประเทศไทยพบว่า ร้อยละ 60 ของที่นอนมีปริมาณสารก่อภูมิแพ้จากไรฝุ่นสูกว่า 10 ไมโครกรัม/ฝุ่น 1 กรัม ที่เท่ากับตัวไรฝุ่น 500 ตัว/ฝุ่น 1 กรัม ถือเป็นระดับที่ทำให้เราทุกคนมีอาการโรคภูมิแพ้กำเริบได้
การรักษาความสะอาดเพื่อป้องกันปัจจัยที่สามารถก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ หรือเพื่อลดอาการกำเริบภูมิแพ้ แนะนำว่าควรรักษาทำความสะอาดทุกห้องของบ้าน แต่ห้องที่ต้องเน้นหนักก็คือ ห้องนอน และห้องนั่งเล่น ที่มีทั้งโซฟา ผ้าม่าน พรมรองพื้น เพราะอุปกรณ์แต่งบ้านเหล่านี้ หากไม่ทำความสะอาดให้ดี ก็เป็นแหล่งที่อยู่ของกองขี้ฝุ่น และไร้ฝุ่นได้ค่ะ
Good to know… “ตัวไรฝุ่น มีสารก่อภูมิแพ้ (Allergen) ที่ก่อให้เกิดโรคในคนที่แพ้ สารก่อภูมิแพ้เป็นโปรตีนที่อยู่ในตัวไรฝุ่นทุกระยะ ได้แก่ ตัวอ่อน ตัวแก่ และไข่ อยู่ในเศษผิว เปลือก และอึของไรฝุ่น”3
อ่านต่อ >> “อาการจากการแพ้ไรฝุ่น” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่