account_circle
3.โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก
โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า อยู่ภายในเขตอุทยานภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก โดยวัตถุประสงค์ของโครงการจัดตั้งขึ้นมาเพื่อปลูกฟื้นฟูสภาพป่า เพาะชำ กล้าไม้ ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต ปลูกปรับปรุงระบบนิเวศต้นน้ำ ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่บริเวณอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าในด้านการท่องเที่ยวและสภาพแวดล้อม
ภูมิทัศน์ของโครงการฯ อยู่ท่ามกลางภูเขาที่เขียวขจี มีอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี มีจุดที่เป็นไฮไลท์คือ แปลงปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิก้า แปลงสาธิตปลูกสตรอว์เบอร์รีพันธุ์พระราชทานปลอดสารพิษ ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมอย่างใกล้ชิด พร้อมกับจุดชุมวิวที่เป็นแนวผาถึง 6 จุด ได้แก่ ผาไททานิค ผาพบรัก ผาบอกรัก ผาคู่รัก ผารักยืนยง และผาสลัดรัก โดยนักท่องเที่ยวสามารถยืนชมวิวทิวทัศน์ผืนป่าที่เขียวชอุ่มสวยงามได้แบบสุดลูกหูลูกตา มองเห็นทิวเขาสวย และบางจุดยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยอีกด้วย นอกจากนี้หากได้ไปเที่ยวในช่วงหน้าหนาว นักท่องเที่ยวจะมีโอกาสได้ชมความสวยงามของทุ่งดอกกระดาษหรือดอกบานไม่รู้โรยที่จะบานอยู่ริมผาพบรักซึ่งจะบานไปจนถึงเดือนมีนาคม และที่นี่ยังเป็นจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทยผลิบานอีกหนึ่งจุดด้วย เป็นอีกเส้นทางตามรอยพ่อที่น่าพาลูกไปเที่ยวมาก ๆ เลยค่ะ
โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า
โทรศัพท์ 055 356 652, 081 596 5977
เปิดให้เข้าชมทุกวัน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า
4.ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.จันทบุรี
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน ได้เริ่มก่อตั้งตามพระราชดำริ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้พิจารณาพื้นที่ที่เหมาะสมจัดทำโครงการพัฒนาด้านอาชีพการประมง และการเกษตรในเขตพื้นที่ดินชายฝั่งทะเลจันทบุรี โดยครอบคลุมพื้นที่อ่าวคุ้งกระเบนกว่า 4,000 ไร่ เพื่อศึกษา วิจัย ทดลอง และเพาะพันธุ์สัตว์น้ำชายฝั่งทะเล พร้อมทั้งสร้างที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเล รวมถึงการอนุรักษ์ การจัดการทรัพยากรชายฝั่ง การส่งเสริมและพัฒนาอาชีพชาวบ้านในพื้นที่ให้มีความรู้และประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน
ที่นี่จึงถูกส่งเสริมให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เป็นแหล่งเรียนรู้พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติมีชีวิตที่น่าสนใจ เพื่อให้ประชาชนที่สนใจเข้ามาศึกษาสภาพธรรมชาติ เกี่ยวกับวิถีชีวิตประมง ทำความรู้จักกับสัตว์น้ำและต้นไม้นานาชนิด ก่อให้เกิดความเข้าใจระบบนิเวศในป่าชายเลนและรู้จักใช้ทรัพยากรเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ได้จัดทำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติรอบป่าชายเลน มีระยะทาง 1.6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินชมประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมง บนสะพานไม้ระแนงที่ทอดยาวในดงป่าชายเลน บรรยากาศในการเดินชมค่อนข้างร่มรื่นและเย็นสบาย ด้วยต้นไม้ที่ปกคลุมตลอด 2 ข้างทางซึ่งเต็มไปด้วยพรรณไม้หลากหลายชนิด เช่น โกงกางใบเล็ก โกงกางใบใหญ่ โปรงแดง ป่าสักดอกแดง ป่าสักดอกขาว ลำพูทะเล แสมทะเล เป็นต้น แต่ละต้นก็จะมีป้ายบอกชื่อ ลักษณะ และสรรพคุณไว้ด้วย นอกจากนี้ยังมีสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยที่อาศัยอยู่ในป่าชายเลน เช่น ปลาตีน ปูแสม โผล่มาให้เด็ก ๆ ที่คอยสังเกตได้ตื่นเต้นกันยกใหญ่ เหมาะที่จะพาเจ้าตัวเล็กมาเดินเล่น เที่ยวชม ใกล้ชิดธรรมชาติ และเติมประสบการ์ความรู้นอกห้องเรียนเป็นอย่างยิ่งเลยละคะ
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
โทร. 039-433-216-8
เปิดทุกวัน 08.00 – 18.00 น.
ไม่มีค่าเข้าชม
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
และ www4.fisheries.go.th
เหล่านี้เป็นเพียงโครงการในพระราชดำริบางส่วนในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงสร้างคุณูปการให้กับราษฎรอย่างใหญ่หลวง พาเจ้าตัวเล็กมา “เดินตามรอยเท้าพ่อ” เพื่อจะได้เรียนรู้และเห็นถึงพระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 รวมทั้งได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ทัศนียภาพที่สวยงาม ที่สามารถเดินทางมาเที่ยวกันได้ตลอดทั้งปีเลยค่า
อ่านต่อบทความที่น่าสนใจอื่นๆ
พาลูกเที่ยว ระยอง เจาะ 9 แหล่งเรียนรู้ น่าลองพาลูกไปสักครั้ง
พาลูกเที่ยวเขาใหญ่ 6 ที่เที่ยวสไตล์ครอบครัว ที่ต้องแวะ!!
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
