10 รองเท้าหัดเดิน เดินเก่ง สวมสบาย สำหรับวัยเตาะแตะ
เด็กปกติทุกคนมีสัญชาตญาณที่จะพยายามลุกขึ้นยืนและเดินให้ได้ ซึ่งหลังความพยายามหลายครั้ง กล้ามเนื้อและกระดูกก็จะแข็งแรงขึ้น จนในที่สุดพวกเขาสามารถลุกขึ้นได้สำเร็จ และออกเดินเตาะแตะ อย่างไรก็ตามด้วยรูปร่างที่เล็ก และสัดส่วนเมื่อเทียบกับศีรษะแล้ว ศีรษะของเด็กจะโตกว่า จนทำให้ยากที่จะเดินทรงตัวได้อย่างสมดุล คุณพ่อคุณแม่จึงมักจะเห็นเด็ก ๆ เดินเอียงซ้ายขวา หรือล้มลง ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ถือเป็นเรื่องปกติของช่วงเวลาซึ่งเรียกกันว่า “การตั้งไข่” นั่นเอง เพราะการฝึกเดิน และเดินได้เองเป็นเรื่องปกติของทุกคน คุณแม่หลายคนเมื่อรู้จัก รองเท้าหัดเดิน คงจะแปลกใจระคนสงสัยว่านี่เป็นไอเท็มที่จำเป็นต้องมีจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ แต่การที่มีผู้ผลิตสินค้าขึ้นมาและขายจนชื่อติดตลาดได้เป็นผลสำเร็จ แปลว่าประโยชน์ของผลิตภัณฑ์นี้ น่าจะจับคู่กับความต้องการของคนในท้องตลาดได้ดีเลย
รองเท้าหัดเดิน เหมาะสำหรับเด็กเมื่อเริ่มหัดเดิน ไปจนถึงประมาณ 7 ขวบ ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวกระดูกและกล้ามเนื้อจะพัฒนาอย่างมากและต่อเนื่อง โดยประโยชน์หลักของรองเท้านี้คือการจัดการวางเท้าและกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องให้วางตัวอย่างถูกต้องซึ่งเชื่อว่าจะทำให้การเดินสำหรับเด็กเป็นเรื่องง่ายขึ้น ทำให้บุคลิกภาพการเดินของเด็กดี และแก้ไขความผิดปกติทางการเดินที่เกิดจากสรีระ เช่น ขาโก่ง หรือเท้าแบน แต่ถ้าอาการผิดปกติปรากฏมาก การใช้รองเท้าหัดเดินก็จำเป็นต้องขอความเห็นจากแพทย์ด้วย
การเลือกรองเท้าคู่แรกของลูก
รองเท้าหัดเดินเหมาะเป็นรองเท้าคู่แรกของลูก คุณแม่หลายท่านย่อมอยากจะใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะผู้ใหญ่เองก็รู้ได้จากประสบการณ์ว่า ถ้าเลือกรองเท้าไม่ดีแล้ว อาจจะเป็นผลเสียต่อการเดิน หรือทำให้เกิดบาดแผลได้
หลักการเลือกรองเท้าหัดเดิน
ควรพิจารณาประเด็นหลัก ๆ ดังนี้
- รองเท้าหัวปิด เป็นลักษณะทั่วไปของรองเท้าหัดเดินอยู่แล้ว เหตุผลเพราะจะช่วยจัดทรงเท้าและนิ้วเท้า อีกทั้งยังช่วยในเรื่องการทรงตัวอย่างมั่นคง เด็กจะไม่ล้มง่าย เวลาซื้อให้วัดความยาวตั้งแต่ส้นเท้าของลูกน้อยจนถึงสุดปลายของนิ้วที่ยาวที่สุด เพราะว่าจะทำให้เจอกับรองเท้าขนาดพอดี ใส่สบาย ส่วนเด็กที่มีนิ้วเท้ากลางและนิ้วชี้ที่ยาวกว่านิ้วอื่น ต้องเผื่อพื้นที่ให้นิ้วเหล่านั้นเสมอ
- ส่วนหุ้มข้อไม่แข็งหรือมีตะเข็บด้านใน ไม่เช่นนั้นจะบาดที่ส้นเท้าด้านหลัง บริเวณดังกล่าวมีเอ็นร้อยหวาย การเลือกรองเท้าที่ดูแลส้นเท้าด้านหลัง จะมีประโยชน์ในการทำให้น้องควบคุมข้อเท้าหรือการเดินให้ตรงได้
- พื้นรองเท้า ดอกยางไม่ลื่น มีความแข็งมั่นคง เพื่อให้ทิ้งน้ำหนักลงและเดินได้อย่างมั่นใจ
- ความกระชับเท้า รองเท้าอาจมาพร้อมเชือก แถบแปะตีนตุ๊กแก หรือเป็นผ้ายืดรัดข้อเพื่อให้รองเท้ากระชับกับเท้า ซึ่งแบบผ้ายืดหรือแถบแปะจะดีกว่าในเรื่องใส่ได้ง่าย ลูกน้อยสามารถเอามาใส่เองได้ และสร้างความกังวลให้น้อยกว่าว่ารองเท้าจะหลุดระหว่างเดิน
- วัสดุ มักจะมีความยืดหยุ่นสูง การที่มีความยืดหยุ่นสูงจะทำให้ลดโอกาสที่น้องจะรู้สึกคับแน่นและรองเท้ากัด
- การระบายอาการ เท้าของลูกน้อยเหมือนเท้าของคุณแม่ ความอับชื้นที่เป็นสาเหตุของกลิ่นและโรคผิวหนังจากแบคทีเรีย คุณแม่ไม่พึงประสงค์อย่างแน่นอน
โดยทั่วไปแล้วเมื่อให้น้องใส่รองเท้า คุณแม่ควรให้น้องใส่ถุงเท้าด้วยถ้าหากว่ารองเท้าไม่ได้ถูกออกแบบไว้เป็นถุงเท้าในตัว เพราะว่าถุงเท้าจะลดการเสียดสี ซึ่งก็คือคุณแม่อาจจะเลือกซื้อรองเท้าโดยเผื่อขนาดไว้เล็กน้อย เพราะนอกจากพื้นที่สำหรับถุงเท้าแล้ว วัสดุหนังของรองเท้าที่หดตัวได้ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องใส่ใจ การให้มีพื้นที่รองรับเท้าเผื่อไว้จากขนาดเท้าจริงเล็กน้อย จะช่วยลดโอกาสถูกรองเท้ากัด ประกอบกับเด็ก ๆ มักจะโตไว การเลือกรองเท้าไว้ให้หลวมเล็กน้อย เด็กจะสบายเท้ากว่า
10 แบรนด์เด่นให้น้องใส่เดินเก่ง
1. Attipas
แบรนด์นี้มีรูปแบบรองเท้าให้เลือกหลากหลาย เน้นการออกแบบให้หัวรองเท้าใหญ่แต่กระชับกับนิ้วเท้า ไม่บีบรัดมากเกินไป ด้านล่างของรองเท้าเน้นวัสดุซิลิโคนคุณภาพสูงที่มีคุณภาพระดับเดียวกับที่ใช้ในการแพทย์ มีจุดกันลื่นใต้รองเท้าซึ่งช่วยยึดเกาะพื้นได้ดี ส่วนบนของรองเท้าหลายรุ่นด้านบนเป็นถุงเท้าอยู่แล้วในตัว ไม่ต้องหาถุงเท้าใส่อีกให้ยุ่งยาก การออกแบบสำหรับเด็กผู้ชายดูเท่ห์ สำหรับเด็กผู้หญิงดูน่ารัก นอกจากนี้ยังระบายอากาศได้ดี มีรูระบายอากาศที่พื้นรองเท้า และทำความสะอาดได้ง่าย สามารถปั่นด้วยเครื่องซักผ้า
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: www.attipasthailand.com
2. Miki House
รองเท้าหัดเดินรูปแบบกีฬา รูปลักษณ์สวยเฉียบจนคุณแม่ต้องพอใจ วัสดุที่ใช้มีความนุ่มและมีน้ำหนักเบา การใส่ใช้แถบแปะตีนตุ๊กแกเพื่อรัดให้กระชับเท้า พื้นรองเท้าไม่ลื่น แบรนด์นี้มีรองเท้าแบบแบ่งตามระดับความสามารถในการเดินด้วย โดยรองเท้าสำหรับเด็กที่หัดเดิน จะแตกต่างเล็กน้อยจากรองเท้าสำหรับเด็กที่เดินเป็นแล้ว กับที่เดินได้ดีอยู่บ้าง เพื่อการดูแลเท้าให้ลูกน้อยพัฒนาการสมวัย ระหว่างเดินรองเท้าจะทะนุถนอมทั้งกล้ามเนื้อและกระดูกซึ่งผลคือความแข็งแรงของลูกน้อยที่เพิ่มขึ้นทุกก้าวเดิน
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: www.mikihouse.com/
3. Littlebluelamb
รองเท้าแบรนด์นี้น้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี พื้นรองเท้านิ่มใส่สบาย ส่วนพื้นรองเท้าถูกออกแบบให้แอนตี้แบคทีเรียจึงไม่ต้องห่วงเรื่องความอับชื้น บางทรงรองเท้าจะดูคล้ายรองเท้าแตะ แต่ยังหุ้มปกปิดเท้าด้านหน้า ขณะที่ส่วนข้อเท้าและด้านหลังของเท้าจะได้รับการดูแลอย่างดี ส่วนที่หุ้มข้อของรองเท้าออกแบบมาให้กระชับแต่ไม่แข็งจนเสียดสี ใส่เดินก็ได้ ใส่เที่ยวก็ได้
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: www.littlebluelamb-th.com
4. Nike
คุณแม่นักกีฬา ถ้าชื่นชอบแบรนด์นี้อยู่แล้ว บอกเลยว่ามีรองเท้าหัดเดินให้ใส่คู่กับคุณลูกด้วย โดยการออกแบบรองรับสรีระเท้าเป็นอย่างดี ความนุ่มเท้าไม่เป็นสองรองแบรนด์อื่น วัสดุมีคุณภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพราะมาจากการรีไซเคิลแบบแปลงสภาพอย่างน้อย 20% โดยภายนอกดูหรูและมีสไตส์ รองเท้าแบรนด์นี้ออกแบบให้มีตาข่ายที่บริเวณต่าง ๆ ของรองเท้าด้วย ช่วยทำให้รู้สึกเย็นสบายเท้า ประกอบกับส่วนหนังสังเคราะห์รอบส้นให้ความมั่นใจในการทรงตัว
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: www.nike.com
5. BABYBOTTE
แบรนด์นี้เก่าแก่จนต้องร้องว้าว นำเข้าจากฝรั่งเศศ โดยชื่อเสียงเก่าแก่ถึง 80 ปี ก่อตั้งมาตั้งแต่ ค.ศ. 1936 เป็นแบรนด์ที่ทำรองเท้าให้กับเด็ก ๆ ในราชวงศ์ Monaco มาก่อน โดยเน้นเป็นพิเศษว่ารองเท้าที่ทำมานั้นเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กในเรื่องการเคลื่อนไหวอย่างสมดุล โดยในกระบวนการผลิตมีความประณีต มีกระบวนการผลิตกว่า 120 ขั้นตอน ความละเอียดละออเอาใจใส่ขนาดนี้ รองเท้าหัดเดินจากแบรนด์นี้บอกเลยว่าของดีสุด ๆ ใส่แล้วจัดกระดูกและเสริมสร้างเท้าเด็กให้มีสรีระที่ดีเยี่ยม ใส่แล้วลูกน้อยมีความสุข
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: https://www.babybotte-th.com
6. Nanitaforkid
รองเท้าทรงผ้าใบ น้ำหนักเบา หน้ารองเท้ากว้าง เด็กเท้าอูมก็ใส่สบาย มีโฟมรองรับและซับแรงกระแทกเพื่อให้ไม่ปวดเท้า ไม่ว่าจะเดินน้อย ๆ หรือเดินมาก ๆ พื้นรองเท้าออกแบบให้เบา ด้านหน้ารองเท้าปกป้องเท้าอย่างดี มีปลายเชิดขึ้นป้องกันการสะดุดล้ม ด้านหลังรองเท้าหนารองรับการลงน้ำหนักส้นเท้า และยังโอบส้นเท้า ช่วยล็อกส้นเท้าอย่างดี รองเท้าของแบรนด์นี้ประคองเท้าให้ตั้งตรงไม่โอนเอน ทำให้เด็กมั่นใจในการหัดเดิน เสริมสร้างความสำเร็จในก้าวแรก ๆ ของชีวิต
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: www.nanitaforkid.com
7. Combi
อีกหนึ่งแบรนด์ช่วยพยุงเท้าให้ลูกน้อยยืนและทรงตัวได้ มีทั้งแบบผ้าใบ และแบบกึ่ง ๆ รองเท้าแตะที่มีช่องให้ลมเข้าได้ โดยด้านหน้าของรองเท้ายังเป็นแบบปิดปกป้องนิ้วเท้าและจัดทรงของกระดูกและกล้ามเนื้อเท้าให้เติบโตอย่างเหมาะสม กันลื่นได้เป็นอย่างดี น้ำหนักเบา สีสวย
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: http://www.combi.co.th/
8. ONITSUKA TIGER
หากอยากสอนลูกให้ผูกเชือกรองเท้าด้วยตัวเองและเด็กมีประสบการณ์เดินบ้างแล้ว ลองรองเท้าแบบต้นฉบับจากแบรนด์นี้ดู รองเท้าทำจากหนังวัวแท้ 100% มีความยืดหยุ่น แต่ก็กระชับกับเท้าและประคองเท้าได้ดี โดยสำหรับคุณแม่ที่คิดว่าเร็วไปที่ลูกจะเรียนรู้การผูกเชือกรองเท้า ตอนนี้ทางแบรนด์ก็มีรองเท้าหัดเดินที่ทำแถบเปิดปิดแบบแปะออกมาให้แล้ว การออกแบบไม่รกรุงรัง เน้นสบายตาและคาดแถบสีประจำแบรนด์ ด้านในรองเท้ามีความนุ่ม
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: www.onitsukatiger.com
9. Crtartu Kids
แบรนด์นี้แบ่งรองเท้าเป็นสองประเภทเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการให้สมวัย มีทั้งรองเท้าเริ่มหัดเดินและรองเท้าสำหรับเด็กที่เดินคล่องแล้ว แบรนด์นี้เป็นอีกแบรนด์ที่รองเท้านุ่ม และมีความยืดหยุ่นสูง สามารถที่จะดัดงอได้ถึง ⅓ ส่วน เพื่อรองรับการเคลื่อนไหวที่หลากหลายของเด็ก มีการเย็บล็อคส้นเพื่อประคองข้อเท้าระหว่างเดิน พื้นรองเท้ารับน้ำหนักได้ดี หน้ารองเท้ากว้างไม่บีบเท้า ระบายอากาศได้เยี่ยม ไม่ต้องกังวลเรื่องความอับชื้น
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: https://www.facebook.com/crtatukids/
10. Ggomoosin
แบรนด์เกาหลีที่มีผู้นำเข้ามาขายในประเทศไทย เป็นแบรนด์รองเท้าที่ได้รับความนิยมด้วยสีใสสดใสและรูปแบบน่ารัก ผลิตจากยางที่มีความยืดหยุ่น ผ่านการทดสอบว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองผิว น้ำนักเบา สวมใส่สบาย ใส่แล้วไม่มีกลิ่นอับ พื้นรองเท้าเป็นรูปรังผึ้ง ช่วยป้องกันการลื่นล้ม หัวรองเท้าไม่ใหญ่ไปทำให้รักษาสมดุลการเดินได้ดี เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ดีสำหรับเป็นรองเท้าคู่แรกและคู่ถัด ๆ ไปให้แก่คุณแม่
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: http://www.kidsocietythailand.com/
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก