ใจกลางเมืองอันแสนวุ่นวาย มีดินแดนแห่งความสุข และความสนุกซ่อนอยู่ ณ ซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 24 ที่มีชื่อว่า ณ บางช้าง “ DADI International Kindergarten ” หรือเป็นที่เรียกกันในชื่อ “ โรงเรียนอนุบาลนานาชาติต้าตี้ ” อีกหนึ่งสุดยอดโรงเรียนอนุบาล (นานาชาติ) ในฝันของเด็ก ๆ ที่มีกว่า 650 สาขาทั่วโลก และทำไม DADI จึงเป็นโรงเรียนที่ทุกคนตกหลุมรัก วันนี้เราจะพาทุกคนมาหาคำตอบกันค่ะ
Happiness is the core
โรงเรียนแห่งแรกที่ทุกคนการตกหลุมรัก
- First Impression โรงเรียนสร้างความประทับใจ ความสนุกสนาน ทำให้เด็ก ๆ รอคอยและอยากไปโรงเรียนทุก ๆ วัน
- Regularity = ความสม่ำเสมอ เพราะธรรมชาติของเด็ก ๆ และ background ของแต่ละครอบครัวแตกต่างกัน สภาพอารมณ์ในแต่ละวัน ก็มีผลกับอารมณ์ของเด็ก ๆ คุณครูจึงเป็นหัวใจหลักในการดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของเด็ก ๆ คุณครูต้องรักและเมตตาเด็ก ๆ โดยไม่มีเงื่อนไข ต้องทุ่มเท รับได้ และพร้อมช่วยเหลือทุกคนตลอดเวลาจึงจะทำให้เด็ก ๆ ไว้วางใจในสถานที่ใหม่ (โรงเรียน) ได้ค่ะ
- โฟกัสที่การเตรียมความพร้อมของเด็ก ๆ เท่านั้น DADI จึงเป็น Play – Based และ Happy – Based Learning มาโรงเรียนต้องสนุก ( หัวใจหลักของ DADI เลยนะคะ ) เมื่อเด็ก ๆ มี Impression ที่ดีต่อการมาโรงเรียนขั้นต่อไปคือเด็ก ๆ จะพร้อมมากในการเรียนรู้ในโลกกว้างค่ะ แอบกระซิบค่ะ เด็ก ๆ หลายบ้าน อยากมาโรงเรียนในวันหยุดสุดสัปดาห์ !!
Language Readiness
เด็ก ๆ เรียนตั้ง 3 ภาษาหนักเกินไปไหม ?
ถ้าเปรียบเทียบสมองของเด็ก ๆ กับชิพตัวแรงในคอมพิวเตอร์ สมองของเด็ก ๆ ทรงพลังและยืดหยุ่นกว่ามาก ๆ เหมือน “ฟองน้ำ” ที่สามารถดูดซับ อุ้มน้ำได้มากและก็ใช้งานได้ดีเมื่อมีความชุ่มชื้น สมองของเด็ก ๆ ก็เช่นกันค่ะ สามารถเรียนรู้และมีความจุมาก..ความรู้จะเก็บเป็นคลัง รอคอยวันที่จะหยิบออกมาใช้ ดังนั้นการเรียนภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ไปพร้อมกันเลยตั้งแต่เล็ก ๆ จะทำให้เด็ก ๆ จะคุ้นเคยกับบทสนทนาและมีคลังคำศัพท์ที่มากขึ้นเป็น 3 เท่าตัว และเป็นคำศัพท์ที่ทำให้เด็ก ๆ สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงในสถานการณ์ต่าง ๆ อีกด้วยค่ะ
ขณะเดียวกันถ้าเรามาเรียนภาษาที่ 2 หรือ ที่ 3 เมื่อเราโตไปแล้ว จะพบได้ว่าจำยาก จำไม่ได้ ไม่ได้ใช้ก็ลืม…ใช่ไหมคะ
- น้อง ๆ Nursery และ Pre K ใช้ภาษาจีน 50% ภาษาอังกฤษ 50%
- K1 – K3 ภาษาจีนและอังกฤษ อย่างละ 45% ภาษาไทย 10% ดังนั้นนักเรียน DADI สามารถไปเรียนต่อโรงเรียนไทยได้
( DADI + Family จะร่วมหารือเตรียมความพร้อมเด็ก ๆ + วางแผนการเรียนต่อกันตั้งแต่ชั้น K2 กันเลยค่ะว่าทางครอบครัวอยากให้เด็กๆ “เข้า ป.1” ที่ไหน เพราะแต่ละโรงเรียนมีช่วงเวลาในการ admission ไม่เหมือนกัน ( โรงเรียนไทย vs. นานาชาติ )
The Class
คลาสสนุก..ลูกชอบ ผู้ปกครองก็ร้องว้าว
Abacus Class การใช้ลูกคิด
- เรียนกับเหล่าซือ Native Speaker
- เด็ก ๆ จะฝึกอ่าน บวก – ลบ เลขก่อน เรียนร่วมกันเป็นกลุ่ม แต่ละคนมีอุปกรณ์เป็นของตัวเอง
- Interaction ระหว่างเหล่าซือกับนักเรียน เหล่าซือจะคอยถามเพื่อให้เด็ก ๆ มีส่วนร่วมกันอย่างทั่วถึง
- ข้อดีของ คลาสลูกคิด คือได้ภาษาในการสื่อสาร ฝึกสมอง ฝึกคิด ฝึกการใช้ตาและนิ้วมือให้สัมพันธ์กัน
STEAM – Engineering
- นำไปต่อยอดไปสู่การเรียน Coding
- เด็ก ๆ จะได้ใช้กันคนละ 1 ชุด
- อุปกรณ์จะมีคู่มือ และ วัตถุประสงค์ในการเรียนรู้อย่างชัดเจน ( เป็นภาษาจีน ) ซึ่งคุณครูต้องนำไปเรียนรู้อย่างละเอียดก่อน แล้วนำมาสอนเป็นภาษาอังกฤษ
Art Class
- เรียนทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษ เด็ก ๆ จะเรียนรู้ทั้งคำศัพท์และบทสนทนา ในบริบทที่แตกต่างกันไป
- กิจกรรมศิลปะและงานฝีมือสามารถช่วยให้เด็กๆ พัฒนาทักษะที่สำคัญหลายอย่างเลยนะคะ เช่น
- ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ
- แสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเอง
- สร้างความมั่นใจและความเป็นอิสระ
- แน่นอนที่สุดคือการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก และทักษะด้านอื่น ๆ อีกมากมาย
Cooking Class
- เรียนและทำกิจกรรมกันโดยใช้ภาษาจีน เหล่าซือจะไม่ปล่อยให้เด็ก ๆ เฝ้าดูแต่ฝ่ายเดียว มีการถามตอบ ชวนดู ชวนคิดกันไปด้วยตลอดเวลา
- เด็ก ๆ จะรู้สึกสนุก เพลิดเพลิน มีสมาธิ เรียนรู้การทำงานเป็นลำดับขั้นตอนผ่านการสังเกต แถมได้ฝึกการอดทนรอคอยไปในคราวเดียวกัน
Chinese Wording
สิ่งแรกที่สังเกตได้คือ นักเรียน DADI ใช้ภาษาจีนได้คล่องแคล่วมาก โต้ตอบเหล่าซือได้อย่างเป็นธรรมชาติ กล้าและมั่นใจสุด ๆ บรรยากาศในห้องเรียนคึกครื้นมาก ล้วนเป็นผลมาจากความคุ้นเคยกับการใช้ภาษา + บทสนทนาตั้งแต่เล็ก ๆ
Jolly Phonics
- Phonics คือเสียงของตัวอักษร เป็นเสียงภาษาอังกฤษของแต่ละตัวอักษร เพื่อนำไปสู่การประสมคำให้ง่ายขึ้น แทนการท่องจำตัวอักษร ABC ( เหมือนการเรียน กอ ขอ คอ สระอะ สระอา )
- Jolly Phonics คือ การเรียนการสอนทักษะการสื่อสารแนวใหม่ ที่จะนำไปสู่ความพัฒนาก้าวหน้าในการฟังอย่างเป็นธรรมชาติ ตลอดไปจนถึงการพูดการอ่านและการเขียน
- Jolly Phonics เน้นการสอนไปที่เสียงของตัวอักษรที่ตื่นเต้นและสนุกสนาน โดยทีเชอร์จะออกแบบกิจกรรมที่ให้เด็ก ๆ ได้ร้องเพลง เล่นเกมส์ ได้เคลื่อนไหว ความสนุกสนานนี้ทำให้เด็ก ๆ เก่งภาษาอังกฤษโดยไม่รู้ตัว
Show and Tell
- ถ้า Phonics คือการเรียนรู้เรื่องเสียง Show and Tell คือการใช้งานจริง
- ทุก ๆ วัน เด็ก ๆ จะสลับสับเปลี่ยนมาเล่าเรื่องหน้าชั้น (สัปดาห์ละ 1) เพราะ Public speaking skill จำเป็นต้องได้รับการฝึก เด็ก ๆ ต้อง คิดว่าจะเล่าเรื่องอะไร ฝึกเรียงลำดับการเล่า และหัดตอบคำถามคุณครูและเพื่อน ๆ
- Show and Tell จะเรียนตาม Theme ที่หลากหลาย คราวนี้คลังคำศัพท์ของเด็ก ๆ จะขยายออกไปกว้างมาก ในสัปดาห์นี้เด็ก ๆเรียนเรื่อง Rainforest ค่ะ (เขตป่าฝน)
DADI and the best environment
นิเวศรอบลูก
สิ่งแวดล้อมรอบเด็ก ๆ เป็นอีกข้อหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องพิจารณาเพราะลูก ๆ ต้องใช้ชีวิตอยู่ที่โรงเรียนเป็นบ้านหลังที่สองเลยทีเดียว ขอยกตัวอย่างมาเพียง 10 ข้อเด่นนะคะ
- Morning : เมื่อเด็ก ๆ มาถึง DADI จะมีการ Check up point วัดอุณหภูมิ + คัดกรองโรค สำรวจแผลฟกช้ำดำเขียว
- Snack time : เด็ก ๆ จะดูแลตนเอง หยิบเอง ปอกเอง ช่วยเหลือตนเอง คุณครูจะช่วยกรณีที่เป็นของร้อน หรืออาหารร้อน
- Play Break : น้อง Nursery + Pre K จะเล่นพร้อมกัน | K1 K2 K3 จะเล่นด้วยกันต่อจากน้องเล็กค่ะ คุณครู ทีเชอร์ และเหล่าซือจะร่วมเล่นด้วยทุกครั้ง สนุกสนานจนบางครั้งแยกเสียงไม่ออกเลยว่าใครเป็นใคร
- Indoor playground : กรณีฝนตกก็จะใช้งานส่วนนี้แทน เพราะการเล่นคือ อิสระของเด็ก ๆ
- Teaching material : สื่อการสอนเหมาะสมเน้นการพัฒนา Sensorial Skills และในทุกห้องมี Interactive Whiteboard หรือ กระดานอัจฉริยะที่สัมผัสได้ เขียนได้ ทำให้การเขียนน่าสนใจและน่าติดตาม
- Safety indoor interior : ทุกบริเวณที่นักเรียนใช้ชีวิตจะมีการเสริม ป้องกันการบาดเจ็บอย่างดี
- Hygienic Habits : ล้างมือวันละ 8 ครั้ง และต้องล้างอย่างถูกวิธี
- Food Allergy : ทางโรงเรียนคอยเช็คและอัพเดทอาการแพ้อาหารของเด็ก ๆ อย่างสม่ำเสมอ และจะมีตารางแจ้งการแพ้อาหารของเด็ก ๆ ติดไว้บริเวณห้องอาหารอย่างชัดเจน ทุกคนต้องใส่ใจอย่างเคร่งครัด
- Teacher training : จัดอบรมคุณครูเรื่องการดูแลเด็กๆ เช่น การ CPR หรือช่วยเหลือเด็กสำลักอาหาร โดยทีมงานจากโรงพยาบาล
- Happy staffs : บุคลากรที่ DADI ทุกคนอารมณ์ดีและมีเมตตา เพราะถ้าผู้ดูแลอารมณ์ดีก็จะส่งผลให้เด็ก ๆ สบายใจ ไว้ใจ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในโรงเรียน
The Teachers and their energy
ทีมคุณครูผู้ทุ่มเท
- คุณครู DADI ( เหล่าซือ และ Teacher ) มีคุณภาพ ทั้งคุณครูไทย จีน ฝรั่ง ล้วนต้องจบปริญญาตรีหรือโท ศึกษาศาสตร์โดยตรง
- คุณครู DADI ทำหน้าที่ในการสอนอย่างเดียว (15 ชั่วโมงต่อสัปดาห์) เพื่อโฟกัส การเรียนรู้ของเด็ก ๆ + ทุ่มเทพลังสูงมากในการ entertain class ให้สนุกสนาน (สมกับเป็น Happy first school!) รวมไปถึงสังเกตความคืบหน้า พัฒนาการของนักเรียนรายบุคคล
- คุณครูทำแผนการสอนรายปีทั้งภาษาไทยและภาษาจีน มีเป้าหมายในการเรียนรู้ชัดเจน มี Timeline อย่างละเอียด คุณพ่อคุณแม่จะทราบว่าเด็ก ๆ เรียนรู้เรื่องอะไรไปบ้างแล้ว
- การดีไซน์สื่อการสอนก็สำคัญ ต้องว้าวและทำให้เด็ก ๆ มีส่วนร่วมในคลาส ที่ DADI เด็ก ๆ จะกล้าการยกมือตอบคำถาม ประสานเสียงตอบ ( เสียงดังฟังชัด ) ความสนุกสนานที่อยากให้คุณพ่อคุณแม่มาเห็นด้วยตาตัวเองเลยค่ะ
- คลาสที่เรียนเป็นภาษาอังกฤษกับคุณครู Native 1. Jolly Phonics 2. Show and Tell 3. STEAM – Engineering 4. Arts and Crafts เป็นต้น
- คลาสที่เรียนเป็นภาษาจีนกับคุณครู Native ทั้ง คลาส Word คลาส ABACUS ( วิชาการใช้ลูกคิด *คลาส Hi-light เลยนะคะ ) คลาสทำอาหาร คลาสศิลปะ คลาสดนตรี คลาสคณิตศาสตร์
- ทั้งอังกฤษและจีนจะเป็น THEME เดียวกัน – ล้อกันไป ทำให้การเรียนรู้ของเด็ก ๆ ลึกซึ้งและเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง
โรงเรียนคือส่วนหนึ่งในชีวิตของเด็ก ๆ การมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดจะทำให้เด็ก ๆ มี mindset ที่ดีต่อการเรียนในอนาคต
Mommy Love This!
- ความสัมพันธ์ระหว่างบ้านและโรงเรียนอันเหนียวแน่น เพราะความสุข การดูแลที่ถูกต้อง และพัฒนาการของเด็ก ๆ คือเรื่องสำคัญที่สุด โรงเรียนมี Parent Meeting จัดการประชุมผู้ปกครองก่อนเปิดภาคเรียนเสมอ และหารือร่วมกันกับผู้ปกครองในช่วง K2 เรื่องการเรียนต่อในชั้นประถมศึกษา เป็นรายครอบครัว ผู้ปกครองจะได้รับ Report แจ้งการเรียนรู้และพัฒนาการของเด็ก ๆ อย่างสม่ำเสมอ ทุกกิจกรรม การอัพเดท แจ้งข่าวสาร ฉับไว ครบถ้วน ถ้าหากเด็ก ๆ มีประเด็นอะไรที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ หรือผู้ปกครองมีข้อสงสัย สามารถนัดหมายหารือกันเป็นรายครอบครัว กรณีเด็ก ๆ ต้องได้รับความช่วยเหลือ DADI จะนำเสนอ Action Plan ให้ผู้ปกครอง
- เด็ก ๆ ไว้ใจและรู้สึกปลอดภัยที่โรงเรียน เป็นตัวแปรสำคัญในการเรียนรู้เลยนะคะ เพราะถ้าเด็ก ๆ รู้สึกปลอดภัยแล้ว ก็จะกล้าเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เป็นลำดับต่อไป เด็ก ๆ จะอยากมาโรงเรียนแม้เป็นวันหยุดค่ะ
- After school activities มีหลายแนวให้เลือกในกรณีที่คุณแม่สนใจอยากเสริมทักษะให้ลูกๆ หรือไม่สามารถรับกลับบ้านได้ทันทีตอนเลิกเรียน กิจกรรมได้แก่ Chinese, English ,Thai, Taekwondo, Balance Bike, Click Robot
- คลาสเสริมทักษะหลังเลิกเรียนและในวันเสาร์ บุคคลภายนอกที่สนใจสามารถติดต่อทางโรงเรียนเพื่อขอเข้าร่วมชั้นเรียนได้ด้วยนะคะ
- พัฒนาการทางร่างกายและอารมณ์เติบโตเข้มแข็ง มีความสุข มั่นใจ กล้าแสดงออก
- ทักษะด้านภาษาโดยเฉพาะภาษาจีนและภาษาอังกฤษโดดเด่นมาก
อนุบาลแสนสนุกของเด็กอารมณ์ดี
โรงเรียนอนุบาลนานาชาติต้าตี้ (Dadi International Kindergarten)
รับนักเรียนอายุตั้งแต่: Nursery 1 จนถึง Kindergarten 3 (อายุ 2-6 ปี)
อัตราค่าเล่าเรียน
1 ปีการศึกษา มี 3 ภาคเรียน
ปีการศึกษาละ 270,000 – 298,500 บาท
…
DADI International Kindergarten (Naradhiwas Soi 24 / Sathupradit Soi 19)
- 369/3 ซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 24 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร 10120
- โทร 02 674 3190, 02 674 3191
- email : [email protected]
- www.dadithailand.com
Editor : แม่พลอยผิง
ภาพ : ฤทธิรงค์ จันทองสุข , ภูมิปกรณ์ ณ บางช้าง