พาทัวร์ International Montessori Center (IMC) โรงเรียนอนุบาลหลักสูตรมอนเตสซอรี่ รูปแบบนานาชาติแห่งแรกในประเทศไทย - Amarin Baby & Kids

พาทัวร์ International Montessori Center (IMC) โรงเรียนอนุบาลหลักสูตรมอนเตสซอรี่ รูปแบบนานาชาติแห่งแรกในประเทศไทย

event

ภายในหมู่บ้านสัมมากร เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องตลาดและร้านอาหารแล้วยังมีโรงเรียนอนุบาลนานาชาติที่ ทีมแม่ ABK แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ปักหมุดตัวโต ๆ อีกแห่งหนึ่งเลยค่ะ โรงเรียนนี้มีชื่อว่า International Montessori Center (IMC) โรงเรียนที่เรียนรู้ผ่านการเล่น เน้นพัฒนาการที่สมดุล และฝึกความตระหนักรู้ในหน้าที่ สร้างนิสัยดีงาม

สนามเด็กเล่นของโรงเรียน

บรรยากาศในคลาสเรียน

 

IMC แตกต่างจากโรงเรียนมอนเตสซอรี่แห่งอื่นอย่างไร

International Montessori Center (IMC) เปิดสอนตั้งแต่ชั้นเตรียมอนุบาล – อนุบาล 3 (Pre-K – K3) จากชื่อก็ชัดเจนแล้วว่า..การเรียนการสอนเป็นรูปแบบ Montessori แต่ที่ว้าวมากกว่านั้นคือ การผสมผสานจริยธรรม วัฒนธรรมที่ดีงาม และปรัชญา Waldorf จึงทำให้โรงเรียนแห่งนี้เป็นสถานที่บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ที่ยอดเยี่ยมอีกแห่งหนึ่ง เพราะไม่ได้เน้นแค่พัฒนาการในเด็ก ๆ เท่านั้น แต่มุ่งมั่นถึงการพัฒนาศักยภาพแห่ง “ความเป็นมนุษย์”

มอนเตสซอรี่ เชื่อว่า “มือ” คือครูที่สำคัญ เมื่อเด็ก ๆ ได้หยิบจับ สัมผัส เด็กจะจดจำและเกิด “ประสบการณ์” สื่อและอุปกรณ์ที่จับต้อได้จะช่วยให้เด็กๆเกิดความคิดและเกิดความเข้าใจได้ในที่สุด จุดเด่นของการศึกษามอนเตสซอรี่ที่ IMC คือ “ความยืดหยุ่น” ทั้งตัวปรัชญาและแนวทางในการปฏิบัติสามารถนำมาผสมผสานให้เข้ากับ Tradition and Culture ของไทยได้อย่างลงตัว ในขณะเดียวกันเด็ก ๆ ต่างก็มีอิสระในการคิด ในการเลือก อย่างมีกาลเทศะและเคารพกฎเกณฑ์

 

Montessori + Waldorf ผสานมอนเตสซอรี่และมนุษยปรัชญา

ในมุมมองของมนุษยปรัชญา หรือ ปรัชญาวอลดอร์ฟ “12 Senses” เป็นปรัชญาการเติบโตของมนุษย์ตั้งแต่เกิดจนเป็นผู้ใหญ่

Senses ทั้ง 12 ไม่ได้พัฒนาไปพร้อมๆ กันทีเดียว แต่ละ Sense ต่างก็มีขั้นตอน การพัฒนา และ จุดเน้นแตกต่างกันไป ทำให้เราเข้าใจธรรมชาติของการเติบโตของมนุษย์ ที่ IMC ได้มีการนำ ผัสสะของเด็กปฐมวัยมาปรับใช้ในหลักสูตรด้วย อันได้แก่

sense of touch การรับรู้สัมผัส

sense of life ผัสสะเกี่ยวกับพลังชีวิต

sense of movement ผัสสะการเคลื่อนไหว

sense of balance ผัสสะการทรงตัว

ทั้ง 4 senses เป็นผัสสะทาง “กาย” ที่จะบูรณาการผ่านการเล่น การเคลื่อนไหว และการรับสัมผัสจริงตามธรรมชาติ

ทั้ง 4 senses เชื่อมโยงกับแนวคิดมอนเตสซอรี่ที่เน้นการใช้มือ เน้นการหยิบ จับ ขยับ ทดลองอยู่แล้ว

 

การบูรณาการทั้ง มอนเตสซอรี่ และ วอลดอร์ฟ จะทำให้เด็ก ๆ ใช้ชีวิตและดูแลตัวเองได้ สามารถแก้ไขปัญหา ลองผิดลองถูก สำรวจโลกกว้างอย่างเหมาะสมตามช่วงวัย

กิจกรรมหลากหลาย นั่งโต๊ะ นั่งพื้น indoor outdoor สับเปลี่ยนกันไป

เด็ก ๆ มอนเตสซอรี่สามารถดูแลตนเองได้

การแสดงชิ้นผลงานคือการสร้างความภาคภูมิใจให้เด็กๆ

 

เด็ก ๆ มาเรียนรู้อะไรกันบ้าง ?

Mathematics – ปูพื้นฐานวิชาคณิตศาสตร์อย่าง “จับต้องได้” ด้วยวัสดุ อุปกรณ์ ที่ค่อย ๆ เพิ่มระดับความท้าทายซึ่งถูกใจเด็ก ๆ ทุกคน ไม่ว่าจะเป็น ทักษะด้านการนับ เรียงลำดับ จับคู่ รู้จักรูปทรง เตรียมพร้อมที่จะต่อยอดไปสู่คณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนมากขึ้นในอนาคต

Sensorial Development & Music Enrichment – สัมผัส เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับเด็ก ๆ

คือการสร้างประสบการณ์จากสิ่งรอบตัวผ่านกิจกรรม โดยการกระตุ้น “สัมผัสต่างๆ” ให้มากที่สุด หรือที่เรียกว่า sensory motor

การให้เด็ก ๆ เล่น สำรวจ จับ เคลื่อนไหว ทดสอบ สิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัว อย่างอิสระส่งผลดีต่อพัฒนาการทางร่างกาย กล้ามเนื้อทุกมัด และสมอง

Language Arts – เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ Phonics และ Grammar

Phonics เองนั้นเป็นพื้นฐานการเรียนภาษา โดยจะเริ่มตั้งแต่การแยกเสียงต่าง ๆ ตั้งแต่ชั้นเตรียมอนุบาล สอน ending sound – short sound CVC (การผสมคำ) – long sound – นำคำต่างๆมารวมกันเพื่อสร้างความสนุกสนานในการเรียนภาษา สื่อการสอนจับต้องได้ เล่นได้ จึงพูดได้ว่าภาษาอังกฤษของเด็ก ๆ IMC เป๊ะตั้งแต่เล็ก ๆ เลยค่ะ

Culture & Science – จะแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่

Zoology : ว่าด้วยเรื่องของสัตว์ต่าง ๆ เช่น สัตว์ในการปศุสัตว์ สัตว์ป่า หรือแม้กระทั่ง ขนของสัตว์มีไว้เพื่ออะไร ประโยชน์ในด้านต่างๆ

Botany : พฤกษศาสตร์..ว่าด้วยเรื่องของต้นไม้ เติบโตอย่างไร สร้างอาหารอย่างไร ส่วนประกอบต่าง ๆ และเด็กมีโอกาสลงมือปลูกต้นไม้ด้วยตนเองด้วยนะคะ

Geography : ภูมิศาสตร์..ว่าด้วยเรื่องโลกกลม โลกของเรา ประเทศ ทวีป มหาสมุทร ฤดูต่าง ๆ เป็นต้น

Science : ทดลองวิทยาศาสตร์ งานประดิษฐ์ต่าง ๆ

History : ประวัติความเป็นมาของสิ่งต่าง ๆ ในโลกนี้

Practical Life Skills : ทักษะการใช้ชีวิตประจำวัน ตามหัวข้อ Self – care | Environment – care | Body movement | Courtesy (กริยา มารยาท กาละเทศะ)

จุดมุ่งหมายคือ เด็ก ๆ สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เช่น การเดินเข้าโรงเรียนเอง ทานอาหาร เข้าห้องน้ำ ดูแลความสะอาด เก็บของเล่น – ของใช้

คลาสดนตรี

อุปกรณ์ยิมเสริมพัฒนาการทางร่างกายแบบจริง ๆ จัง ๆ

ทุกการสื่อสารคือพัฒนาการด้านภาษา แม้จะไม่วิชา Language Arts ก็ตาม

Montessori Activity และ ชีวิตใน 1 วันของเด็กๆ

ทุกที่จะมี Montessori Line เป็นเส้นตรงบาง วงกลม วงรี สี่เหลี่ยม และอื่น ๆ จุดประสงค์เพื่อควบคุมกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เมื่อเด็ก ๆ เห็นเส้นเหล่านี้จะเป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่บอกว่า slow down เป็นการฝึก Focus คิด ก่อน กระทำ

 

ในห้องเรียน จะมี Activity Corners เน้นให้เด็กทำงานด้วยสมาธิ ( mindfulness สร้างสติในทุกการกระทำ )

Stamping : ฝึกการโฟกัส และ ควบคุมการใช้ตาให้ประสานกับมือ

Cutting : ตัดกระดาษเป็นรูปทรง ควบคุมทิศทางการทำงานและสร้างความแข็งแรงให้นิ้วมือ

Pricking : การใช้ปากกาหัวเข็มประตามรอยให้เกิดรูป – ฝึกการใช้น้ำหนัก ซึ่งเป็นพื้นฐานของการเขียน

Ball Making Corner : การปั้นลูกบอลด้วยกระดาษสร้างชิ้นงานศิลปะ และก็เป็นพื้นฐานของการหัดเขียนหนังสือเช่นกันค่ะ

เด็ก ๆ ทุกคนจะหมุนเวียนเปลี่ยนกันทำทุกกิจกรรม เมื่อเสร็จแล้วเด็ก ๆ “ต้องจัดการเก็บและเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมอย่างเรียบร้อย” เพื่อให้เพื่อน ๆ ชุดต่อพร้อมทำกิจกรรมต่อได้ …ซึ่งเป็นจุดเด่นของเด็กมอนเตสซอรี่เลยค่ะ

Stamping Corner และ Ball Making Corner ฝึกพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็ก พื้นฐานของการหัดเขียน

Box of forgiveness มีอะไรในใจอยากจะบอกใครๆสามารถเขียนมาใส่ในช่องได้เลย

ความเป็นระเบียบเรียบร้อยนี้ เด็ก ๆ เป็นผู้ดูแลค่ะ

ทุกผลงานคือความภูมิใจ

 

คุณครู

ในช่วงเปิดเทอม เด็ก ๆ จะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่โรงเรียน ดังนั้นคุณครูจะทำหน้าที่เป็น “แม่คนที่ 2” อย่างแท้จริงในการดูแลเด็ก ๆอย่างใกล้ชิด คุณครูต้องทำทุกอย่างได้ เด็ก ๆ จึงจะไว้ใจ รู้สึกปลอดภัย และมีความกล้าที่จะเรียนรู้โลกกว้าง ระหว่างกิจกรรม คุณครูจะ observe เด็ก ๆ แต่ละคนตลอดเวลาอย่างละเอียด เพื่อติดตามพัฒนาการตั้งแต่การจัดการกิจวัตรประจำวัน กิจกรรมที่นักเรียนเลือกทำ (ก่อน/หลัง) ระยะเวลาที่ใช้ทำกิจกรรม การสะท้อนคิดของเด็ก และเพราะเด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันทั้งในด้านอารมณ์ สังคม ความสามารถด้านการเรียนรู้ ดังนั้นเด็ก ๆ จะมี worksheet เป็นของตัวเอง ( individually ) นอกจากนี้ คุณครูจะฝึกให้เด็ก ๆ เรียนรู้มารยาทที่ดีงาม ไม่ว่าจะเป็น การพูดขอบคุณ ขอโทษ การให้อภัยซึ่งกันและกัน โดยคุณครูจะประพฤติเป็นแบบอย่าง เพราะเด็ก ๆ วัยนี้เป็นวัย “เลียนแบบ” สิ่งใดที่เราอยากให้เค้าทำ สิ่งนั้นจะต้องทำให้เค้าเห็น

เมื่อเด็กๆเห็น montessori line ทุกคนจะทราบว่าต้องชะลอความเร็วค่ะ

เตรียมตัวเปลี่ยนกิจกรรม

ปล่อยพลังกันอย่างเต็มที่

ด้านหน้าโรงเรียนอนุบาลนานาชาติ มอนเตสซอรี่

 

Mommy Love This! ถูกใจแม่

Gross and Fine Motor Skills ได้รับการพัฒนาตลอดเวลาเรียนจนทำให้เด็ก ๆ หมดแรงในทุก ๆ วันที่กลับบ้าน

Screen – Free ไม่มีการใช้โทรทัศน์หรือจอมอนิเตอร์ต่าง ๆ ในการเรียนการสอน

โรงเรียนมีการแนะแนวผู้ปกครอง ในการเลี้ยงดูลูกให้เหมาะสมตามวัย เป็นการเลี้ยงลูกแบบ independent (อิสระอย่างมีกฎเกณฑ์) – การหาโรงเรียนเพื่อศึกษาต่อชั้นประถมศึกษา

สภาพแวดล้อมดีเยี่ยม เด็ก ๆ ได้อยู่ในชุมชนที่บรรยากาศสดชื่น สงบ มีต้นไม้และทะเลสาบใกล้ ๆ เป็นระบบนิเวศน์ที่ดีต่อการเรียนรู้

การดูแลเด็ก ๆ เยี่ยมยอด เพราะทางโรงเรียนใช้แนวคิด “แม่คนที่ 2” ในการดูแล ส่งผลให้เด็ก ๆ มี attitude ดีและมีความสุข

เด็ก ๆ ได้รับการปฏิบัติ c]tให้เกียรติ เฉกเช่นผู้ใหญ่ โรงเรียนมองว่าหากเราต้องการให้เด็ก ๆ เติบโตมาอย่างดี เราก็ต้องปฎิบัติและเป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็ก ๆ

Reflection ทุกห้องเรียนจะมี Evaluation Chart ค่ะ เพื่อสะท้อนความรู้สึกของเด็ก ๆที่มีต่อกิจกรรม ชอบ..เพราะอะไร ไม่ชอบ..เพราะอะไร Reflection นี้คือการสะท้อนตัวตนของเด็ก ๆ ผ่านกิจกรรม สำคัญมาก ๆ เลยนะคะ

 

 

ค่าเล่าเรียนต่อ 1 ปีการศึกษา (โดยประมาณ – 1 ปีการศึกษามี 3 เทอม)

ชั้น Pre-K และ K1 ค่าเล่าเรียนประมาณ 156,000 บาทต่อปี

ชั้น K2 และ K3 ค่าเล่าเรียนประมาณ 162,000 บาทต่อปี

ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ (ค่าลงทะเบียน เครื่องแบบนักเรียน ประกันอุบัติเหตุ After School Class)

ข้อมูลเพิ่มเติม – กรุณาติดต่อสอบถามโรงเรียนโดยตรง

 

 

ที่อยู่

International Montessori Center (IMC)

251/183 หมู่บ้านสัมมากรซอย 58 ถนนรามคำแหง (ซอย 112) แขวงและเขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร 10240

โทร : 02-3721633 02-3720111

อีเมล : [email protected]

เว็ปไซต์ : www.imc.ac.th

 

Editor : แม่พลอยผิง

ภาพ : ธนายุต วิลาทัน

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up