โรงเรียนไผทอุดมศึกษา โรงเรียนที่พัฒนาศักยภาพเด็กโดยมุ่งเน้นการเรียนรู้รูปแบบบูรณาการ และเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ตามความสนใจ ความถนัด และพัฒนาไปตามความสามารถของตน
ชื่อ โรงเรียนไผทอุดมศึกษา แปลว่า แผ่นดินที่ทำให้เกิดการศึกษา ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้เป็นสถานศึกษาของประเทศ สร้างทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพ เป็นโรงเรียนต้นแบบดีๆที่เน้นให้เด็กๆกระจายกันเป็นกลุ่มและเป็นผู้นำในการทำกิจกรรม หัดตั้งคำถามและค้นหาคำตอบ ทดลองอย่างอิสระโดยมีคุณครูเป็นที่ปรึกษา การเรียนการสอนน่าสนใจขนาดนี้ School Visit จึงอยากพาคุณพ่อคุณแม่มาทำความรู้จักโรงเรียนแห่งนี้กันแบบเจาะลึกที่ โรงเรียนไผทอุดมศึกษากันค่ะ
โรงเรียนไผทอุดมศึกษา เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นเตรียมอนุบาล – มัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อตั้งโดย พล.ต.อ.เผ่า และ คุณหญิงอุดมลักษณ์ ศรียานนท์ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2514 ด้วยอุดมการณ์ที่จะสร้างสถานศึกษาที่ดีมีคุณภาพ พัฒนาศักยภาพเป็นรายบุคคล มุ่งเน้นการเรียนรู้รูปแบบบูรณาการ เน้นการเรียนรู้ที่นักเรียนเป็นศูนย์กลางที่มีคุณครูเป็นที่ปรึกษา หน้าที่ของครูคือ การสังเกต บันทึก และประเมินโดยใช้วิธีที่หลากหลาย ประเมินต่อเนื่อง และ feedback ผลคือทำให้เกิดการพัฒนาตัวนักเรียนเอง และปรับปรุงคุณภาพการเรียนการสอนของตัวคุณครูเองเช่นเดียวกัน
บรรยากาศรอบๆ โรงเรียน
การเรียนรู้แบบบูรณาการของเด็กอนุบาล
สมรรถนะสู่ศักยภาพ (ของแต่ละคน )
หลักสูตรฐานสมรรถนะเพื่อพัฒนาระบบการศึกษา เป็นหลักสูตรที่โรงเรียนในต่างประเทศใช้มาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งที่แรกคือ ประเทศแคนาดา (รัฐควิเบก) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 แต่สำหรับโรงเรียนในประเทศไทย หลักสูตรนี้เป็นเรื่องค่อนข้างใหม่สำหรับหลายๆโรงเรียน แนวคิดที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางนี้เองที่จะช่วยเปิดโอกาสให้เด็กๆได้เรียนรู้ตามความสนใจ ความถนัด และพัฒนาไปตามความสามารถของตน โรงเรียนไผทอุดมศึกษา ใช้หลักสูตรสมรรถนะเพื่อพัฒนาระบบการศึกษาและจัดรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้ Active Learning ตั้งแต่ระดับชั้นเตรียมอนุบาล วัย 2-3 ปี เพื่อปลุกจิตวิญญาน “นักกิจกรรมตัวน้อย” โดยใช้รูปแบบกิจกรรมต่างๆ
รู้เรา – รู้จักตัวเอง ดูแลตนเอง, ของใช้ส่วนตัว | รู้จักอารมณ์ – จิตใจ โดยใช้ทักษะการเคลื่อนไหว
รู้โลก – ปลูกฝังจริยธรรม ผ่านการเรียนรู้รอบด้าน ชุมชน, สิ่งแวดล้อม, วัฒนธรรม และประเพณี
สื่อสาร – หลักภาษาและทักษะการสื่อสาร
สร้างสรรค์ – จากสถานการณ์จำลอง การทำอาหาร งานประดิษฐ์ ศิลปะ และดนตรี
นักกิจกรรมตัวน้อย ชั้นเตรียมอนุบาล
ส่วนเด็กอนุบาล อายุ 3-6 ปี เน้นกิจกรรมปลุกจิตวิญญาณ “นักวิทย์ตัวน้อย” ด้วยการบูรณาการเพื่อ “พัฒนาพหุปัญญา”
สิ่งสำคัญในการสร้างประสบการณ์ในวัยนี้คือ การเรียนรู้แบบโครงงาน หรือ Project-Based Learning ที่จะช่วยพัฒนาเด็กๆด้านหลายๆด้าน ช่วยส่งเสริมการคิด-ฟัง-พูด-ลงมือปฏิบัติ เพราะประสบการณ์สอนไม่ได้ แต่สร้างได้
- นักวิทยาศาสตร์ ถ้าสงสัย ต้องทดลอง จึงจะเกิดผลลัพธ์ = ประสบการณ์
- สร้างพหุปัญญา หรือ ความรู้ความสามารถหลายด้าน เพราะแต่ละคนมักมีปัญญาด้านใดด้านนึงที่โดดเด่นกว่าเสมอ การกระตุ้นที่ดีและสม่ำเสมอจะทำให้เด็กๆเกิดปัญญา “หลาย หรือ รอบด้าน ผลลัพธ์จากการให้เด็กๆได้ลงมือปฏิบัติ นอกเหนือจะออกมาในรูปแบบพัฒนาการ ความสามารถและทักษะต่างๆแล้ว ยังสามารถสะท้อนได้ว่าเด็กชอบหรือไม่ชอบอะไรตั้งแต่ยังเล็กเมื่อค้นพบตัวเองแล้วการต่อยอดเติมเต็มให้ความถนัดโดดเด่นจะไม่ใช่เรื่องยาก
เด็กประถม : ปลุกความเป็นเลิศอันหลากหลาย ตามจุดมุ่งหมายของแต่ละคน
เด็กๆจะได้รับการกระตุ้นให้ “ใช้หลายวิธีคิด” คุณครูจะสอนวิธีคิดหลายแบบ แล้วแต่เด็กๆจะเลือกใช้ตามถนัด ใช้วิธีนี้กับทุกรายวิชาเช่น “กลยุทธ์การบวกและลบ” เด็กๆสามารถเลือกใช้วิธีเหล่านี้ได้ทั้งแบบนับนิ้ว วาดรูป กรอบสิบ (Ten Frames) หรือทำให้เป็นสิบ แบบคิดในใจ ความคิด(เห็น) ของเด็กๆจะสะท้อนความชอบและตัวตนของเขาคุณครูจะสังเกต ฟัง บันทึก ร่องรอยของความคิดและการเรียนรู้ของแต่ละคน สุดท้ายจะประมวลออกมาเป็นพัฒนาการของเด็กเมื่อๆเจอสิ่งที่ใช่! แล้ว คุณครูจะสามารถช่วยกันพัฒนาให้พวกเขาไปถึงศักยภาพอันสูงสุดของตัวเองได้
การเรียนแบบ Active learning ของเด็กๆ
ผลงานงานฝีมือของนักเรียน ทั้งในคลาสและในโครงงาน
เด็กมัธยมต้น
รับไม้ต่อจากชั้นประถมศึกษา แต่เข้มข้นขึ้นตามวัย เตรียมพร้อมที่จะลงลึกถึงสาขาที่ชอบและใช่ในช่วงมัธยมปลาย แต่การเรียนรู้แบบโครงงานแบบ Real มากขึ้น โดยพี่ๆจะได้ออกค่ายลงพื้นที่ทำกิจกรรม เช่น
“ Project ผจญภัย 7 คาบสมุทร” เปิดโลกทัศน์การค้นหาเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล ณ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
“ Project วีรบุรุษนายท้ายเรือ พันท้ายนรสิงห์ ” ณ จังหวัดสมุทรสาคร
“สมอง” ไม่ใช่แค่เรื่องวิชาการ
ที่โรงเรียนไผทอุดมศึกษา เน้นการสร้างสมองให้แข็งแรงตั้งแต่เล็กๆ หากจะสร้างคน ต้องเริ่มตั้งแต่ปฐมวัย (2-7 ปี) เพราะเป็นช่วงเวลาทองสำหรับการเรียนรู้ การเจริญเติบโตของสมองเกิดขึ้นในวัยก่อนอนุบาล และการพัฒนาสมองในช่วงวัยนี้จะส่งผล
สืบเนื่องยาวนานไปตลอดชีวิต…พูดแบบบ้านๆ คือ…วัยเด็กเป็นยังไง ก็เป็นผู้ใหญ่อย่างนั้น เพราะว่า…สมองของเด็กๆจะโอบรับและซึมซับประสบการณ์ทุกอย่างที่เข้ามาปะทะ และหล่อหลอมเป็นพฤติกรรมติดตัวเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ สมองที่พร้อม = สมองที่แข็งแรงทั้งทางด้านจิตใจ อารมณ์ จะทำให้เด็กๆมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้ คือ “ความมุ่งมั่น และ ไม่ย่อท้อ”
การประเมินผลอย่างสร้างสรรค์
- เน้นประเมิน “กระบวนการเรียนรู้” หรือ “ระหว่างทางในการเรียนรู้นั่นเอง” เช่น ระหว่างการทำกิจกรรม เรียนรู้ด้วยตนเอง หรือการแลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อน จัดว่าเป็นการประเมินที่ “มองเห็นคุณค่าในความพยายาม” ของแต่ละคน
- ผลสอบ คือการวัดถูก-ผิด ไม่ได้เป็นคำตอบสุดท้าย ไม่ได้เป็นสัดส่วนหลักในการประเมินค่ะ
- การประเมินอย่างสร้างสรรค์นี้จะสร้างทัศนคติที่ดีต่อการเรียนของเด็กๆ เพราะเน้นการพัฒนามากกว่าการตัดสินที่ผลการเรียน
กิจกรรมว่ายน้ำ
ห้องสมุดของโรงเรียน อัดแน่นไปด้วยหนังสือคุณภาพ
คุณพริ้มพราย สุพโปฎก (ประธานกรรมการบริหารและผู้รับใบอนุญาต)
คุณรัชยา สุพโปฎก (ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรม)
Mommy’s Love This ! ถูกใจแม่
- Active Learning กระตุ้นคิด สร้างนิสัยใฝ่รู้ ค้นหาคำตอบ ลองได้ทุกเรื่องให้หายสงสัย ภายใต้การดูแลความปลอดภัยของคุณครูค่ะ
- โรงเรียน “มุ่งมั่น” ในการพัฒนาศักยภาพเป็นรายบุคคล โดยไม่มีเด็กๆคนไหนถูกปล่อยไว้ข้างหลังเลยค่ะ
- ใส่ใจการพัฒนาสมองตั้งแต่เล็กๆ กิจกรรม อาหาร สภาพแวดล้อมเอื้อต่อการพัฒนาสมองเป็นอย่างดี
- De-Schooling การทำให้โรงเรียนไม่เหมือนโรงเรียน เด็กๆจะมีทัศนคติที่ดีต่อการมาโรงเรียนค่ะ
- ศูนย์เพื่อนเด็ก (นักจิตวิทยา) ดูแลเด็กนักเรียนทั่วไป รวมไปถึงเด็กที่มีพัฒนาการไม่สมดุล เพราะจิตใจที่เข้มแข็งเองก็คือส่วนหนึ่งของการเรียนรู้
5 สิ่งที่ทำให้เด็กๆอยากมาโรงเรียนทุกวัน
- FUN : Board Games | E-Sports เล่นคนเดียว หรือเล่นเป็นกลุ่มก็จัดไป คุณครูก็เล่นด้วยนะคะ
- EDUTAINMENT : Tiktoker Youtuber Film-Producer อยากลองอะไร ทำอะไร โรงเรียนให้ทุกอย่าง ก็เพราะมันเป็นประสบการณ์
- ทุกวิชา ไม่มีคำว่าน่าเบื่อ เพราะบูรณาการทุกศาสตร์กันจริงๆ ก็ต้องมีถูกจริตกันบ้างล่ะ
- De-Schooling โรงเรียนไม่ใช่แค่ คุณครู กระดาน การบ้าน แต่เป็นเหมือนห้องทดลอง ให้ได้มามองอะไรใหม่ๆ
- การสอบ ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายอีกต่อไป เพราะมาเรียนเพื่อรู้ ไม่ได้มาเรียนเพื่อสอบ
โรงเรียนไผทอุดมศึกษา ค่าเทอม ค่าธรรมเรียมการศึกษาและค่าธรรมเนียมอื่นๆ ประจำปีการศึกษา 2567
- หลักสูตร HUB ระดับชั้นเตรียมอนุบาล 28,500 บาทต่อเทอม
- หลักสูตร Inspire ระดับชั้น อ.1-3 35,000 บาทต่อเทอม
- หลักสูตร Inspire ระดับชั้น ป.1-6 41,000 บาทต่อเทอม
- หลักสูตร Inspire Gifted ระดับชั้น ป.1-6 45,000 บาทต่อเทอม
- หลักสูตร International ระดับชั้น ป.1-6 80,000 บาทต่อเทอม
ข้อมูลที่อัพเดทและละเอียด กรุณาสอบถามเพิ่มเติมโดยตรง
ที่อยู่
โรงเรียนไผทอุดมศึกษา
เลขที่ 201 ถนนวิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
โทร. 0-2521-1457-8
FAX. 0-2551-2233
http://www.patai.ac.th
E-Mail : [email protected]
Editor : แม่พลอยผิง
ภาพ : ฤทธิรงค์ จันทองสุข
อ่านต่อบทความน่าสนใจ
- พาทัวร์ โรงเรียนอนุบาลนานาชาติฮัมมิ่งเบิร์ด พ่อแม่ยุคใหม่ห้ามพลาด! เน้นเสริม EFs สร้างพื้นฐานชีวิตที่ดีให้ลูกน้อย
- บ้านกางใจ พื้นที่สำหรับเด็กๆ เล่น เรียนรู้ ตามวัย เติบโตไปอย่างมีความสุข
- The CREAM Bangkok คลับมหัศจรรย์ แห่งการเรียนรู้
- 5 สิ่งสุดว้าว ที่ทำให้เด็กๆ อยากมา โรงเรียนประสาทวิทยานนทบุรี ทุกวัน!
- โรงเรียนหิ่งห้อย จาก Homeschool เล็กๆ กลายเป็น ห้องเรียนธรรมชาติ ให้เด็กๆ กว่า 100 ครอบครัว!
- โรงเรียนอนุบาลนวพัฒน์ โรงเรียนเล็กๆ ย่านท่าอิฐ กับหลักสูตรสุดว้าว! Project Approach
- เปิดบ้าน “ไตรพัฒน์” โรงเรียนแนววอลดอร์ฟ ที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของเด็กๆ
- พาส่อง โรงเรียนโพธิสารพิทยากร โรงเรียนมัธยม ที่น่าเรียนที่สุดแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพฯ