โรงเรียนราชินี เปิดบ้านอนุบาล ณ อุทยานราชินี โรงเรียนที่สร้างเด็กให้เป็นกุลสตรีและสุภาพบุรุษที่มีทักษะรอบด้าน ควบคู่ไปกับกิริยามารยาทที่พร้อมด้วยจริยธรรมอย่างสมสมัย
School Visit วันนี้ เราจะชวนมาดูหลักสูตร และแนวทางการสอนของ โรงเรียนราชินี โรงเรียนที่ปูรากฐานแห่งปัญญาบ่มเพาะเยาวชนให้มีจริยธรรมที่ดีและทักษะที่จำเป็นเพื่อก้าวสู่โลกแห่งอนาคตในศตวรรษที่ 21
โรงเรียนราชินี เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 2 จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ตั้งอยู่บนถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง มีพื้นที่กว่า 11 ไร่ เป็นโรงเรียนที่มีประวัติศาสตร์และเรื่องราวตามกาลสมัยต่าง ๆ และบ่มเพาะศิษย์ให้มีความรู้ มีความสามารถและเป็นที่ยอมรับของสังคมมาอย่างยาวนาน และในปี พ.ศ. 2567 นี้ ก็เป็นปีแห่งการฉลอง ครบ 120 ปี โรงเรียนราชินี ลองไปดูกันค่ะว่า เพราะอะไรโรงเรียนราชินีจึงเป็นโรงเรียนอันดับต้น ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ไว้วางใจและอยากให้ลูก ๆ มาเรียน
120 ปี โรงเรียนราชินี
ย้อนกลับไปในสมัย รัชกาลที่ 5 ยุคสมัยนั้นโรงเรียนส่วนใหญ่จะอยู่ในบริเวณวัดและเป็นโรงเรียนสำหรับบุรุษ เพื่อให้มีความรู้ความสามารถพอที่จะเข้ารับราชการได้ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีความสนพระทัยในการพัฒนาสตรี โดยเฉพาะด้านการศึกษาทั้งวิชาสามัญและการผดุงครรภ์ ทรงมีพระราชประสงค์ให้จัดตั้งโรงเรียนราชินี เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2447 จากพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ให้เป็นสถานที่สำหรับสตรีไทยได้เข้ามาศึกษาหาความรู้ สามารถอ่านออกเขียนได้ มีการอบรม ศีลธรรม จรรยา มารยาท เป็นโรงเรียนแห่งแรกที่มีการสอนศิลปะการประดิษฐ์ดอกไม้แห้ง เป็นโรงเรียนแห่งแรกที่ทดลองหลักสูตรวิชาชีพสำหรับสตรี เป็นโรงเรียนแห่งแรกที่มีการจัดทำนิตยสารประจำโรงเรียน ที่สำคัญเป็นโรงเรียนแห่งแรกที่เปิดสอนอนุบาลทารก ( แผนกเด็กเล็ก ) ในรูปแบบมอนเตสเซอรี่ และอื่น ๆ อีกมากมาย แสดงถึงวิสัยทัศน์อันล้ำสมัย ของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์การศึกษาไทย
กว่า 120 ปีที่ผ่านมา โรงเรียนราชินีมีเอกลักษณ์ เป็นที่รู้จักและยอมรับจากสังคมในเรื่องความเป็นไทย เด็กนักเรียนมีอัตลักษณ์โดดเด่น เป็นกุลสตรีและสุภาพบุรุษ ที่ทันยุคทันสมัย มีทักษะรอบด้าน ทั้งวิชาการและทักษะชีวิต และในปีการศึกษา 2567 นี้เป็นปีครบรอบแห่งการพระราชทานกำเนิดโรงเรียนราชินี ครบ 120 ปี ภายใต้แนวคิด “120 ปี ราชินีศักดิ์ศรีกำจรจาย” ที่หมายถึงความภาคภูมิใจของโรงเรียนราชินี ที่ได้บ่มเพาะศิษย์ทุกคนให้มีความรู้และความพร้อมในทุกด้านเพื่อเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม
โรงเรียนราชินี ในยุคศตวรรษที่ 21
โรงเรียนราชินีเชื่อมั่นว่า เด็กเปรียบเสมือนเมล็ดพันธุ์ที่ต้องการการพัฒนาให้งอกงาม ทั้งสติปัญญา ร่างกาย สังคมและจิตใจ หลักสูตรของเด็กปฐมวัยของที่นี่ช่วยพัฒนาเด็ก ๆ ครบ ทั้ง 4 ด้าน และใช้การจัดกิจกรรมต่าง ๆ แทนการเรียนเป็นรายวิชา เป็นการเรียนปนเล่น ตามพัฒนาการของเด็กทำให้เด็กมีความสุข
ในการเรียนมากขึ้น เด็กได้เรียนรู้ ครบทั้ง 4 ด้าน คือ ร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา โดยใช้แนวความคิด WELCOME นำมาสร้างสรรค์และต่อยอดเป็นกิจกรรมต่าง ๆ
- W=Well Being (สุขภาวะที่สมบูรณ์)
- E=Early Childhood (ช่วงวัยแห่งการบ่มเพาะ)
- L=Learning (เรียนรู้ผ่านการลงมือทำ)
- C=Creative (นักคิดสร้างสรรค์)
O=Organize (ฝึกทักษะการคิดและการงวางแผน) - M=Mind (รู้จักตัวเอง)
- E=Emotion (รู้เท่าทันอารมณ์)
โดยกิจกรรมต่าง ๆ จะแบ่งเป็นชุดวิชา เช่น ชุดวิทยาศาสตร์ เด็ก ๆ จะได้เรียนในห้องวิทยาศาสตร์ ได้ทดลองและลงมือทำด้วยตนเอง นอกจากนี้ ยังมีการจัดค่ายวิทยาศาสตร์ มีฐานกิจกรรมให้เด็ก ๆ หมุนเวียนกันทำกิจกรรมตามฐานต่าง ๆ มีหนังสือคู่มือแบบเรียนและนิทานต่าง ๆ จัดเตรียมตามฐาน
ส่วนวิชาภาษาไทย คุณครูจะคอยส่งเสริมให้รักการอ่านในห้องเรียนและในห้องสมุด สอนให้เด็กหัดยืมและคืนหนังสือในห้องสมุด เมื่อเด็กยืมหนังสือกลับไปก็จะบันทึกการอ่าน ที่สำคัญที่นี่มีหนังสือนิทานเกือบทุกสำนักพิมพ์ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รับรองว่าอ่านกันเพลินแน่นอน
สำหรับวิชาภาษาอังกฤษ เด็กอนุบาล จะได้เรียนสนทนาภาษาอังกฤษกับ Native Teacher
และจะมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ที่ผสมผสานวิชาภาษาอังกฤษเข้าไป เพื่อฝึกการฟังในวิชาภาษาอังกฤษ ได้ซึมซับการใช้ภาษาแบบธรรมชาติ และยังได้เรียนการอ่านแบบ Phonics อีกด้วย
นอกจากนี้โรงเรียนยังให้ความสำคัญกับการพัฒนา EF ( Executive Function ) ซึ่งเป็นทักษะที่ช่วยพัฒนาพฤติกรรม ให้เด็กรู้จักยับยั้งชั่งใจ อันเป็นพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันในสังคมที่มีความสุข โรงเรียนราชินีส่งเสริมการจัดชั้นเรียนให้เป็นห้องเรียนเชิงบวก ช่วยเสริมกำลังใจ เพื่อให้เด็กกล้าที่จะทำ และเมื่อมีปัญหา ก็สามารถพูดคุยกับคุณครูได้ เพราะโรงเรียนก็เปรียบเสมือนครอบครัวและเป็นบ้านหลังที่สองของเด็ก ๆ
เน้นให้เด็กลงมือปฏิบัติจริง
หลักสูตรของเด็กอนุบาล เน้นให้เด็กลงมือปฏิบัติจริง ( Learning by doing ) เรียนรู้ผ่านการเล่น และการทำกิจกรรมทำให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ ในภาคเรียนที่ 2 เด็กจะได้เรียนรู้แบบโครงงาน หรือ Project Approch เพื่อส่งเสริมให้เรียนรู้เป็นทีม ( Team Learning ) โดยช่วยกันทำทั้งห้อง เด็ก ๆ จะหาข้อมูลเรื่องที่ตนเองสนใจในช่วงปิดเทอม มานำเสนอเพื่อนแล้วลงคะแนนเสียงเพื่อคัดเลือกเรื่องที่น่าสนใจ หลังจากได้เรื่องที่สนใจแล้วก็วางแผนการทำงานร่วมกัน เรียกได้ว่าได้ทักษะครบทุกด้าน ทั้งอารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญา ซึ่งเป็นทักษะที่จะส่งเสริมให้เด็กมีความพร้อมในระดับชั้นประถม 1 และเกิดการเรียนรู้ได้ดีมากกว่าแค่การท่องจำเพราะลงมือปฏิบัติเอง ซึ่งกิจกรรมแสดงผลงานของเด็กอนุบาลจะสะท้อนพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ และสติปัญญาได้อย่างครบถ้วน
3 กิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนา EF (Executive Functions)
1.ฝึกฝน อดทน ( พัฒนาการด้านร่างกาย )
โรงเรียนมีสนามเด็กเล่น และพื้นที่ส่งเสริมการออกกำลังกายและพักผ่อนครบครัน รวมไปถึงสระว่ายน้ำ โรงยิม สนามกีฬา สนามบาสเกตบอลและนันทนาการต่าง ๆ เด็ก ๆ ชั้นอนุบาลจะได้รับการฝึกทักษะและทำกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาร่างกาย ทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็กและกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ได้ปีนป่าย เดินทรงตัว วิ่งเล่นออกกำลังกันอย่างเต็มที่ ด้วยฐานกิจกรรม และ Sensory motor ได้สำรวจ หยิบจับ และเคลื่อนไหว ช่วยกระตุ้นการรับสัมผัสต่าง ๆ และพัฒนาสมองให้กับเด็ก ๆ นอกจากนี้เด็กอนุบาล 2 และอนุบาล 3 จะได้เรียนบัลเลต์ เรียนรู้เรื่อง Body Movement และทักษะในการฟังเสียงดนตรี ซึ่งช่วยพัฒนากล้ามเนื้อต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
2.ตัวตนของฉัน ( พัฒนาการด้านอารมณ์ สังคม )
โรงเรียนให้ความสำคัญกับการพัฒนาเด็ก ๆ ในเรื่องอารมณ์ เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก ๆ ทางด้านอารมณ์และสังคม Social and Emotion Learning ( S.E.L ) เป็นกิจกรรม
ที่จะช่วยสะท้อนอารมณ์ในแต่ละวันของเด็ก ๆ ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้อารมณ์ของตนเอง โกรธ เศร้า ดีใจ เหงา
หรือเสียใจ สื่อในการส่งเสริมพัฒนาการทางด้านอารมณ์
และด้วยสภาพสังคมในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความเครียด ทางโรงเรียนจึงจัดทำ “ห้องสื่อสร้างสรรค์” เพื่อให้เด็กได้รับรู้อารมณ์ของตนเองและรู้จักวิธีการจัดการอารมณ์ของตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทางโรงเรียนเล็งเห็นและอยากปูพื้นฐานตั้งแต่เล็ก ๆ เด็กนักเรียนจะได้เข้าห้องนี้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง และต้องเช็คอินเข้าห้องด้วยการหยิบไม้ไอศกรีมใส่ในขวดโหลที่บ่งบอกถึงอารมณ์ของตนเอง คุณครูจะคอยบันทึกว่าก่อนเข้าห้อง
เด็ก ๆ รู้สึกอย่างไร และหลังจากใช้เวลาในห้องแล้วตอนเช็คเอาต์ความรู้สึกเปลี่ยนไปหรือไม่
ภายในห้องสื่อสร้างสรรค์ ถูกจัดแสงสี เสียงเพลง เพื่อช่วยให้เด็กผ่อนคลายมากขึ้น มีของเล่นที่หลากหลายและของเล่นเสริมพัฒนาการประเภท Loose Parts เพื่อให้เด็กได้ทดลองใช้ ทดลองเล่น และไฮไลท์ของห้อง คือ “Calm Down Corner” มุมสงบของห้อง ที่มีกระโจมสำหรับเด็กที่รู้สึกเศร้า เหงา หรือ สงบ ได้เข้าไปนั่งพักเพื่อจัดการอารมณ์ของตนเอง เมื่อมีอารมณ์โกรธหรือเสียใจ เด็กจะได้รู้จักอารมณ์ของตนเอง
ได้เรียนรู้ที่จะจัดการอารมณ์นั้น หรือช่วยเหลือเพื่อนที่รู้สึกเศร้าหมองให้ดีขึ้น ซึ่งเด็กแต่ละคนก็มีวิธีจัดการอารมณ์ไม่เหมือนกัน บางคนชอบนั่งเฉย ๆ หรืออยู่คนเดียว บางคนอยากเล่นกับเพื่อน
นอกจากนี้ ครูประจำชั้นจะคอยสังเกตเด็ก ๆ และพูดคุยกับเด็กที่รู้สึกเศร้าหรือมีปัญหาต่าง ๆเพื่อช่วยแก้ไขปัญหา และทางโรงเรียนยังมีแพทย์ที่ปรึกษาด้านจิตวิทยาสำหรับเด็ก ๆ และมีคุณหมอหรือนักจิตวิทยามาให้ความรู้และอบรมผู้ปกครองในเรื่องการเลี้ยงดูลูกอีกด้วย
บรรยากาศห้องสื่อสร้างสรรค์
3.ปลูกปั้นปัญญา ( พัฒนาการด้านสติปัญญา )
โรงเรียนราชินีมีกิจกรรมมากมายที่จะช่วยส่งเสริมและพัฒนาเด็ก ๆ ในด้านสติปัญญา ทั้งทางด้านวิชาการ เช่น วิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาต่าง ๆ และ Coding ที่สอนกันตั้งแต่ระดับอนุบาล โดยแต่ละกิจกรรมจะมีอุปกรณ์และสื่อการสอนสุดพิเศษ ออกแบบโดยทีมคุณครูจากโรงเรียนราชินีโดยเฉพาะ เช่น เกมส์ตกปลา ในวิชาภาษาไทย เกมส์นับจำนวน และเกมส์แมงมุมจับคู่ตัวเลขในวิชาคณิตศาสตร์ ให้เด็ก ๆ ได้สนุกและได้รับความรู้ไปพร้อม ๆ กัน
ทางโรงเรียนส่งเสริมให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ มี Growth Mindset ให้นักเรียนค้นหาและรู้จัก ตัวตนของตนเอง กล้าเรียนรู้และทดลองสิ่งใหม่ ๆ มีทักษะการคิดและการเรียนรู้ กล้าคิด กล้าแสดงออกแก้ปัญหา ส่งเสริมให้ค้นหาตนเอง และเรียนรู้อย่างมีความสุข เพิ่มบทบาทเป็นทั้งแหล่งเรียนรู้ ทำกิจกรรม ต่าง ๆ ที่หลากหลาย และให้ความสำคัญกับรอยเชื่อมต่อของแต่ละช่วงชั้น นักเรียนจะได้รับการปูพื้นฐานอย่างเต็มที่ คุณครูจะวางแผนหลักสูตรให้เชื่อมโยงกับสาระการเรียนรู้ของเด็กประถม 1 เพื่อให้เด็กพร้อมขึ้นชั้นประถม
ครบครันทั้งจริยธรรม ดนตรี กีฬา ศิลปะและ Soft-Skill
โรงเรียนราชินีมีเอกลักษณ์ในเรื่องของกิริยา มารยาทและความเป็นไทย เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้เรื่องมารยาทต่าง ๆ แตกต่างกันไปตามระดับชั้น เด็กเล็กจะเรียนเรื่องมารยาทใกล้ตัว เช่น การรับประทานอาหาร ทานอิ่มแล้วต้องรอเพื่อนในโต๊ะ คนไหนรู้ตัวว่าทานอาหารช้า ก็จะรีบปรับตัวเพื่อทานให้ทันเพื่อน คนไหนทานอาหารเร็วก็ต้องปรับให้ช้าลง การปลูกฝังวินัยเด็กต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เป็นวินัยที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เด็ก ๆ จะหัดช่วยเหลือตนเองและหัดช่วยเหลือผู้อื่น
โรงเรียนส่งเสริมให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ ผ่านกิจกรรมศิลปะ ดนตรี การเล่านิทาน การแสดงบทบาทสมมุติ ให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการแสดงออกทางความคิด ช่วยเสริมสร้างจินตนาการและความคิดใหม่ ๆ ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของทักษะการใช้ชีวิต ควบคู่ไปกับทักษะความรู้ในด้านต่าง ๆ โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้เด็ก ๆ ได้ทำทั้งในและนอกห้องเรียน การเรียนรู้การทำงานเป็นกลุ่มเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคม การรู้จักอารมณ์ตนเอง พัฒนาตนเอง รู้จักการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา อันเป็นทักษะสำคัญของเด็กในยุคนี้
ส่วนวิชาดนตรีเด็กอนุบาลจะได้เรียนเมโลเดียนและอังกะลุง เพื่อฝึกเรื่องตัวโน้ต การฟัง และกล้ามเนื้อต่าง ๆ กิจกรรมแน่นและครบครันทีเดียว นักเรียนราชินี ในยุคนี้จึงเป็นเด็กที่ไม่ใช่แค่เก่งและดี แต่ยังมีมารยาท รู้กาลเทศะ มีลักษณะผู้นำ ถือว่าเป็นโรงเรียนที่มีระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้และมีความสุขแห่งหนึ่งก็ว่าได้
Mommy Love This ! ถูกใจแม่
- นักเรียนชั้นอนุบาล 3 ในช่วงเทอม 2 จะมีกิจกรรมพิเศษเพื่อเน้นรอยเชื่อมต่อในการขึ้นชั้นประถม เพิ่มเนื้อหาวิชาการมากขึ้น ทั้งคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาต่าง ๆ เริ่มเขียน เริ่มแก้โจทย์ง่าย ๆ เพื่อปูพื้นฐานให้เด็ก ๆ
- ที่โรงเรียนมีสอนบัลเลต์ ดนตรีไทย โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
- เด็ก ๆ ชั้นอนุบาล จะผูกโบว์ที่ผมต่างสีกัน เพื่อให้ทราบว่าเด็กอยู่ห้องไหน ช่วยให้คุณครูทุกคนในโรงเรียนสามารถสังเกตและจดจำนักเรียนแต่ละห้องได้ง่ายขึ้น เป็นรายละเอียดเล็ก ๆ ที่มีเฉพาะที่โรงเรียนราชินีเท่านั้น
- ที่โรงเรียนมีเครื่องฟอกอากาศทุกห้อง เด็ก ๆ ปลอดภัยหายห่วง
- การเรียนการสอนน้อง ๆ อนุบาล เป็นเกมส์และกิจกรรมสนุก เด็ก ๆ อยากมาโรงเรียนทุกวันแน่นอน
- เรียนยาว ๆ ไปเลยจ้า ตั้งแต่อนุบาล – มัธยม แม่ ๆ ไม่ต้องเหนื่อยหาโรงเรียนให้ลูกแถมเด็ก ๆ ได้คบเพื่อนกันยาวตั้งแต่เด็กจนโต
- เด็กที่โรงเรียนราชินี ต้องเล่นดนตรีไทยและรำไทยได้ เพื่ออนุรักษ์ความเป็นไทย โดยจะเริ่มเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลศึกษา
- ที่โรงเรียนราชินี รับนักเรียนชายด้วย ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงประถม 6 และมีกิจกรรมสำหรับนักเรียนชายโดยเฉพาะ เช่น โขน ฟุตบอล และวิชาช่างต่าง ๆ
อัตราค่าเล่าเรียน
ระดับชั้น อนุบาล 2 และอนุบาล 3 เทอมละประมาณ 28,000 บาท ( ไม่รวมค่าแรกเข้า )
โรงเรียนราชินี 444 ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
- โทรศัพท์. 0-2221-1501 โทรสาร. 0-2222-6883
- e-mail : [email protected]
Editor : แม่เลม่อน
ภาพ : สิทธิศักดิ์ น้ำคำ