โรงเรียนสาธิตพัฒนา
“Success is not the key to happiness. Happiness is the key to success.” – Herman Cain
“ความสำเร็จไม่ใช่กุญแจสู่ความสุข แต่ความสุขคือกุญแจสู่ความสำเร็จ”
โลกกลายเป็น “สังคมความรู้” ความรู้ใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกวันและเราสามารถรับความรู้ได้จากหลายช่องทางอย่างรวดเร็ว คนท่องเก่ง เรียนเก่ง จำเก่ง ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดอีกแล้ว แต่คนที่พร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ คือคนที่สังคมโลกต้องการ ความเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติ และเมื่อมันเกิดขึ้นเราจึงต้องปรับตัวเอง เปลี่ยนวิธีการคิด เพื่อให้การดำเนินชีวิตของเราสอดคล้องไปกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป แต่ไม่ว่าโลกจะเข้าสู่ยุคสมัยใด โลกยังต้องการคนคิดดี พูดดี และทำดี เพราะความดีไม่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย… และนั่นคือวิสัยทัศน์ที่เกิดขึ้นจริงของที่นี่ School Visit “โรงเรียนสาธิตพัฒนา”
โรงเรียนสาธิตพัฒนา เชื่อว่าเด็กๆแต่ละคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความสามารถ ความสนใจ และรูปแบบการเรียนรู้เป็นของตัวเอง แนวทางการศึกษาที่เน้นวิชาการและการท่องจำเพียงอย่างเดียวไม่ได้เหมาะกับทุกคน และบ่อยครั้งก็ไม่ได้ดึงสิ่งที่ดีที่สุดในตัวของเด็กๆออกมา จึงให้ความสำคัญกับการตระหนักรู้และดูแลความเป็นปัจเจกบุคคลของเด็กๆแต่ละคน ช่วยให้พวกเขาสามารถสำรวจความสนใจและพัฒนาทักษะของตนควบคู่ไปกับความรู้ทางวิชาการ และทางโรงเรียนก็พยายามหาแนวทางพัฒนาการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับโรงเรียนและเด็กๆอยู่เสมอ
บรรยากาศทางเข้าโรงเรียน
กิจกรรมกลางแจ้ง
กิจกรรม ปลูกและเกี่ยวข้าวของพี่ ป.4 ที่มีปีละครั้ง
หลักสูตรแกนกลางการศึกษา /HEI / CAMBRIDGE
ระดับชั้นอนุบาล
หลักสูตรประถมวัยจากประเทศฟินแลนด์รูปแบบ HEI Schools Teacher Toolkits ควบคู่กับหลักสูตรปัจจุบัน
มุ่งเน้นพัฒนาเด็กในช่วง 7 ปีแรก เป็นการศึกษาแบบองค์รวม เพื่อให้เด็กๆมีสุขภาพที่แข็งแรง ผ่านการเล่นและเคลื่อนไหว โภชนาการที่เหมาะสม สร้างลักษณะนิสัยแนวความคิดที่เป็นเชิงบวก ปลูกฝังให้เด็กรักที่จะเรียนรู้ตลอดชีวิต
เน้นภาษาต่างประเทศมากขึ้น แทรกภาษาอังกฤษเข้าไปในหลักสูตร เด็กๆ จะพัฒนาได้รอบด้าน รับ 2 ภาษาได้อย่างกลมกลืน
ระดับประถมศึกษา
เป็นการเรียนรู้แบบองค์รวมผสมผสาน ทางโรงเรียนได้พัฒนาหลักสูตรโดยใช้ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานของกระทรวงศึกษาธิการ และ Cambridge Assessment International Education
จุดมุ่งหมายคือ เด็กทุกคนต้องได้รับโอกาสในการเรียนรู้ The Best of Both Worlds “ดึงสิ่งที่ดีที่สุดของทั้งสองหลักสูตร มาผสมผสานให้ลงตัว”
เพื่อบูรณาการทักษะชีวิตและสมรรถนะในการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
ชั้นเรียนรูปแบบ HEI
บรรยากาศห้องเรียนชั้นเรียนประถม
Self-Directed Learning เรียนรู้แบบนำ “ตัวเอง”
Self-Directed Learning คือ การเรียนรู้แบบนำตนเอง เป็นวิธีการเรียนรู้ที่ผู้เรียน วางแผน ปฏิบัติ และประเมินผลความก้าวหน้าของการเรียนด้วยตนเอง มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าไม่ได้อยู่ในห้องเรียน ถือเป็นแนวคิดที่ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life-long learning) ซึ่งเหมาะสมอย่างมากสำหรับการเตรียมพร้อมสู่โลกอนาคต
และรู้จักที่จะนำความรู้ที่มีอยู่รอบตัวมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
น้องอนุบาลและพี่ประถมกำลังนำตนเองทำกิจกรรม
Project-Based Learning
เป็นกิจกรรมบูรณาการความรู้ที่สำคัญ ส่งเสริมให้นักเรียนทำงานร่วมกับผู้อื่นและเรียนรู้จากการลงมือทำจนกว่าจะได้คำตอบในสิ่งที่นักเรียนอยากรู้ – โรงเรียนสาธิตพัฒนาใช้หลักสูตร STEAM (Science, Technology, English, Arts, Mathematics) การเรียนรู้ที่นักเรียนเป็นผู้ค้นคว้าและฝึกฝนโดยคุณครูเป็นผู้คอยให้ความช่วยเหลือ เด็กๆจะเรียนรู้ศักยภาพของตนเองและเป็นผู้นำตนเองในการเรียนรู้ (Self-Directed) หัวข้อที่ดีต้องเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจริงเพื่อเด็กๆจะได้รู้สึก อิน ในฐานะผู้ศึกษาและผู้แก้ปัญหา เด็กๆจะพัฒนาทักษะรอบด้าน ทั้งการสื่อสาร การทำงานเป็นกลุ่ม การวิเคราะห์ และการสังเคราะห์เพื่อแก้ปัญหาจากรูปธรรมถึงนามธรรมให้กลายเป็นระบบความรู้ของตัวเองส่งเสริมให้เด็กๆคิดอย่างสร้างสรรค์ แก้ปัญหา คิดอย่างมีวิจารณญาณ และรับผิดชอบต่อความสำเร็จของกลุ่ม เหล่านี้เป็นทักษะสำคัญในศตวรรษที่ 21
School Activities ที่สุดแห่งความสร้างสรรค์
กิจกรรมเดี่ยวและกลุ่ม ช่วยให้เด็กๆเรียนรู้วิธีสื่อสารกับเพื่อนของตัวเอง โดยการเรียนรู้ร่วมกันเป็นกลุ่มนั้น เด็ก ๆ จะได้พัฒนาทักษะชีวิตที่สำคัญ เช่น สร้างความมั่นใจในตนเอง เรียนรู้ความเป็นผู้นำและผู้ตาม การเป็นผู้พูดและผู้ฟัง และแน่นอนพื้นที่ในการสร้างความคิดสร้างสรรค์ ได้เรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ฝึกวางแผน ตัดสินใจ ลงมือกระทำ และนำเสนอความคิดโดยผู้สอนเป็นผู้สนับสนุนอำนวยความสะดวก และเรียนรู้ร่วมกับเด็ก ช่วยส่งเสริมลักษณะนิสัยที่ดีและทักษะการใช้ชีวิตประจำวัน สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม และการมีวินัย ให้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่
สาระการเรียนรู้รายวิชาต่างๆ คุณครูผู้สอนจะเป็นผู้คิด Concept โดยวิชาต่างๆไม่ใช่แค่การเรียนรู้และเปิดประสบการณ์ในชั้นเรียนเท่านั้น แต่จะเป็นทักษะที่เด็กๆนำไปต่อยอดใช้ในชีวิตประจำวันหรือในสถานการณ์ต่างๆได้
ตัวอย่าง ของตัวอย่างกิจกรรม ได้แก่
ชั้นปฐมวัย (อนุบาล)
รูปแบบการเรียนภาษาอังกฤษผ่านกิจกรรม Fun Arts, Fun Story, Conversations, Phonics – เพื่อสร้างทัศนคติที่ดีต่อการเรียนในอนาคต ไม่เร่งเรียนตั้งแต่เล็ก
วิชาว่าด้วยการต่อเลโก้ (Brics) ช่วยพัฒนาเรื่องสังคม สะท้อนการแก้ไขปัญหา
ดนตรี ORFF – ไม่เน้นการร้อง แต่ส่งเสริมพัฒนาการผ่านการบูรณาการวิชาต่างๆเข้าไป
ชั้นประถมศึกษา
Plearn Day กิจกรรม 1 วันที่เด็กๆจะได้เรียนรู้ทุกอย่าง ทุกศาสตร์ ทุก Concept ในหน่วยการเรียน
ตลาดนัดวิชา หรือ Job Fair – เป็นการเรียนเชิงทักษะ ไม่ใช่วิชาการ
พี่ๆชั้นประถมได้ร่วมทำ workshop กับผู้ปกครองและบุคคลภายนอก จำนวน 32 อาชีพ เพื่อสร้างประสบการณ์ รู้จักอาชีพต่างๆ สร้างแรงบันดาลใจ
วิชาเลือกเสรีที่หลากหลายในแต่สาระ – ในแต่ละวิชามีการแตกแขนงเป็นวิชาย่อยๆลงไปอีก เด็กๆสามารถเลือกเรียนได้ตามที่สนใจจริงๆ
s swim – เป็นการเรียนว่ายน้ำเพื่อทักษะในการเอาตัวรอดหรือเพื่อช่วยเหลือ
ผลงานศิลปะของเด็กๆ
การเล่านิทานในชั้นเรียนภาษาอังกฤษ
เพ้นท์หน้ารูปสัตว์ในกิจกรรม Plearn Day ที่จะเป็นการสรุปหน่วยการเรียนรู้เรื่องสัตว์ประจำเดือนพฤศจิกายน
After Learning Feedback + 3-Way Conference
หัวใจสำคัญของแนวทางการศึกษาของสาธิตพัฒนา คือ ความสำคัญของความคิดเห็นของเด็กๆ
เพราะหากไม่มีเด็กๆ สถานศึกษาก็จะไม่เกิดขึ้น และเสียงของเด็กๆสำคัญ เด็กๆสามารถ “ติชม” สิ่งที่เด็กๆเรียนรู้ได้ว่า ชอบ หรือ ไม่ชอบ อย่างไร และเด็กๆ สามารถเสนอหัวข้อที่อยากเรียนได้ ที่นี่ความสัมพันธ์บ้านและโรงเรียนฉีกทุกกฎ เมื่อเด็กๆได้รับโอกาสมาร่วมประชุมและเป็นผู้นำในการประชุม เพราะเสียงของเด็กๆมีความสำคัญที่สุด (ศูนย์กลางที่แท้จริงของการประชุม)
เด็กๆเป็นผู้นำประชุม ครู – ผู้ปกครอง หรือที่เรียกว่า 3-Way-Conference เป็นการนำเสนอผลงานที่เด็กภูมิใจด้วยตัวเอง เผยมุมมองและแบ่งปันประสบการณ์ในมิติที่แตกต่างกันออกไปให้ผู้ปกครองและคุณครูเห็น สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการของเด็กๆได้อย่างชัดเจน
ระบบบ้านช่วยสร้างลักษณะอันพึงประสงค์
นอกจากกิจกรรมและทักษะทางด้านวิชาการ House System เป็นระบบบ้านที่ใช้เพื่อสร้างลักษณะอันพึงประสงค์ให้แก่เด็กๆ
เพื่อสนับสนุนความสามัคคีพี่น้อง เป็นการปลูกฝัง เห็นคุณค่าในการทำความดี เห็นคุณค่าในตัวเอง
สร้างทัศนคติที่ดีต่อการแข่งขันทำกิจกรรมต่างๆ และกระตุ้นให้เด็กๆทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียน
กิจกรรมแบบเดี่ยวและแบบทีม
กิจกรรมด้านดนตรี กีฬา การแข่งขันทางวิชาการ
กิจกรรมจิตอาสาทำความดี
ทุกวันศุกร์ คุณครูช่วยสนับสนุนให้เด็กๆในแต่ละบ้านรวมตัวกันประชุม สะท้อนค่านิยมและกิจกรรมบ้าน 4 หลัง ได้แก่ บ้านพสุธา บ้านธารา บ้านอรุณา บ้านพฤกษา คละนักเรียนทุกระดับชั้น
น้องๆชั้นอนุบาลแต่ละห้องจะมีกิจกรรมรักษ์โลก “อิ่มพอดี” ห้องไหนทานอาหารเหลือน้อยที่สุด (ชั่งน้ำหนักเศษอาหาร รวมกิโลกรัมต่อเดือน) ห้องนั้นจะได้รับรางวัล เป็นการสร้างคุณลักษณะที่ดีอย่างสร้างสรรค์
คุณภาพของบุคลากร
คณาจารย์ที่โรงเรียนสาธิตพัฒนาไม่เพียงแต่เป็นนักการศึกษาเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ปรึกษาที่ทุ่มเทในการสนับสนุนและชี้แนะเด็กๆทั้งทางด้านบุคคล อารมณ์ และสังคม คุณครูของเรามีความกระตือรือร้นในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เด็กๆทุกคนมีตัวตนและมีคุณค่า
คุณครูมีความมุ่งมั่นที่จะทำความเข้าใจเอกลักษณ์ของเด็กๆแต่ละคน และทำงานร่วมกับพวกเขาเพื่อช่วยให้พวกเขาบรรลุศักยภาพสูงสุด คณาจารย์ของสาธิตพัฒนาเปิดรับความคิดเห็นของเด็กๆและแสวงหาวิธีปรับปรุงวิธีการสอนและในชั้นเรียนอย่างต่อเนื่อง
คุณครูระดับอนุบาลและระดับประถม
นักจิตวิทยา
นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังเข้าใจถึงความสำคัญของความเป็นอยู่ที่ดีทางจิตและความฉลาดทางอารมณ์ในการพัฒนาโดยรวมของเด็กๆ นักจิตวิทยาเป็นผู้ ซัพพอร์ทคุณครูประจำชั้นให้คำปรึกษาที่ครอบคลุม ช่วยให้คุณครูส่งเสริมศักยภาพของเด็กๆได้ตามพัฒนาการของแต่ละคน ส่งเสริมสุขภาพจิตเชิงบวกและความเป็นอยู่ที่ดีทางอารมณ์
การเรียนไม่จำเป็นต้องนั่งเรียนที่โต๊ะเรียนเสมอไป
ห้องสมุดของเด็กเล็ก
ดร.กาญจน์วรินทร์ ผลอนันต์ – ผู้อำนวยการโรงเรียน
Mommy Love this
- มี Freeplay ทุกวัน สำหรับเด็กเล็ก และ วิชาเลือกเสรีสำหรับพี่ๆชั้นประถม
- บรรยากาศที่ใช่ คือ บรรยากาศที่ส่งเสริมความอยากมาโรงเรียน เพราะสนุก!
- เวทีให้เด็กๆแสดงความภาคภูมิใจ ใน 3-Way-Conference เด็กๆคือผู้นำในการประชุม ครูและผู้ปกครอง
- เด็กๆ ได้รับการสนับสนุนให้แสดงความคิดเห็นว่า ชอบเรียน หรือ ไม่ชอบเรียนอะไร โรงเรียนจะนำ Feedback มาพัฒนาปรับปรุงต่อไป
- ลูกๆสามารถ Feedback ความรู้สึก ทั้งต่อการเรียน กิจกรรม และคุณครูได้ ว่าชอบอย่างไร ไม่ชอบยังไง
โรงเรียนสาธิตพัฒนาไม่ได้วัดจากความสำเร็จทางวิชาการเท่านั้น แต่ยังวัดจากการเติบโตและความสามารถส่วนบุคคลของเด็กๆด้วย
อัตราค่าธรรมเนียมการศึกษาและค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ปีการศึกษา 2567
เตรียมอนุบาล – อนุบาล3
รวมจำนวนเงินที่ต้องชำระต่อภาคเรียน 85,000 บาท
ประถมศึกษาปีที่ 1-6
รวมจำนวนเงินที่ต้องชำระต่อภาคเรียน 90,000-102,500 บาท
ที่อยู่
เลขที่ 380 ถนนปัญญาอินทรา แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510.
โทรศัพท์ 06-2603-9555, 0-2915-5390-2
เว็บไซต์ : https://www.satitpattana.ac.th
Editor : แม่พลอยผิง
ภาพ : ธนายุต วิลาทัน, วีรวัฒน์ สอนเรียง