School Visit พาชม Shrewsbury International School Bangkok Riverside โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่ กรุงเทพ ริเวอร์ไซด์ โรงเรียนหลักสูตรนานาชาติ อันดับต้นของเมืองไทย!
หนึ่งในปัจจัยหลักของชีวิตครอบครัวที่นอกจากเรื่องการวางแผนการเงินให้กับลูกแล้ว การวางแผนการศึกษาเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทุกบ้านให้ความสำคัญและต้องมีการแบ่งปันความคิดร่วมกัน ทั้งพ่อแม่ รวมถึงลูกเองที่มีส่วนช่วยในการตัดสินใจเลือกโรงเรียนที่ดี ที่เหมาะสมกับตัวเขาเอง
ซึ่งจะดีมากๆ ถ้าลูกจะได้เรียนโรงเรียนที่มีสภาวะแวดล้อมที่ดี ทั้งผู้คน อาคารสถานที่ จนถึงหลักสูตรที่ตอบโจทย์ทันยุคสมัย เรียนที่เดียวยาวๆ ไปจนจบมัธยมปลาย ผู้ปกครองเองก็ไม่ต้องกังวลเรื่องที่เรียนของลูกอีก และเราเห็นคำตอบนั้นที่โรงเรียนนี้ค่ะ ครั้งนี้เรามีโอกาสไปเยี่ยมชมการเรียนการสอนของโรงเรียนหลักสูตรนานาชาติ อันดับต้นของเมืองไทย ที่มีอายุเก่าแก่ร่วม 500 ปี จากประเทศอังกฤษ และนับเป็นสาขาแรกที่เปิดในภูมิภาคเอเชียอีกด้วย
ขอเริ่มต้นความว้าวนี้…ด้วยประวัติความเป็นมาและจุดเริ่มต้นของโรงเรียน ภายใต้แนวคิด Together We Flourish: The Journey from Early Years to University ก็บอกได้แล้วว่าที่นี่ปูพื้นฐานเด็กตั้งแต่ตัวยังเล็ก สร้างการเรียนรู้กันไปจนเติบใหญ่ และอย่างที่เราได้เกริ่นไปเบื้องต้น โรงเรียน Shrewsbury อายุเก่าแก่ร่วม 500 ปีและ ถือเป็น 1 ใน 9 โรงเรียนที่ดีที่สุดของประเทศอังกฤษ ในส่วนของ โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่ กรุงเทพ นับเป็นโรงเรียนสาขาแรกของ Shrewsbury UK ที่เปิดในภูมิภาคเอเชียด้วย ปัจจุบันโรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury ในประเทศไทยมี 2 แคมปัสด้วยกัน โดยทั้งสองแคมปัสตั้งอยู่คนละฝั่งของใจกลางกรุงเทพฯ คือ
Shrewsbury Riverside ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ใกล้กับย่านธุรกิจของถนนสาทร เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้น Early Years ไปจนถึง Sixth Form หรือตั้งแต่อายุ 3-18 ปี ซึ่งเป็นที่ที่ ทีมแม่ ABK มาเยี่ยมชมในวันนี้ และ Shrewsbury City Campus ตั้งอยู่บนถนนพระราม 9 ใกล้กับย่านธุรกิจแถบสุขุมวิท เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้น Nursery ไปจนถึง Year 6 หรือตั้งแต่อายุ 2 -11 ปี ซึ่งนักเรียนที่นี่ก็จะไปเรียนต่อในระดับชั้นเด็กโต หรือ Senior School ชั้น Year 7 ถึง Year 13 ที่ Shrewsbury Riverside นั่นเอง
1. การจัดสรรพื้นที่ในการเรียนการสอน
การออกแบบพื้นที่ต่างๆในโรงเรียนมีความพิเศษและแตกต่างเพื่อการค้นหาตัวตน และการเรียนรู้ด้วยตัวเอง (Self-Learning) เป็นสิ่งพื้นฐานที่เด็กยุคใหม่ต้องเรียนรู้และปลูกฝังตั้งแต่ยังเล็ก เพราะฉะนั้นในส่วนของ Early Years จึงมีการแบ่งเป็นพื้นที่เฉพาะ แยกจากห้องเรียนนักเรียนชั้นเด็กโต เพราะสภาพแวดล้อมเพื่อการเรียนรู้ของเด็กอนุบาล มีความแตกต่างจากเด็กประถมและมัธยมอย่างสิ้นเชิง ทั้งในภาพรวมของสถานที่ เช่นเฟอร์นิเจอร์ หรือโต๊ะเรียน มีการออกแบบและเลือกใช้เหมาะกับขนาดความสูงของเด็กเล็ก และใช้สีสันโทนธรรมชาติที่เป็นมิตรกับเด็ก นอกจากนี้ยังมีพื้นที่การเรียนรู้นอกอาคารเรียน เป็นโซน outdoor ที่รายล้อมด้วยต้นไม้ ธรรมชาติ บ่อปลา บ่อทรายหรือบ่อน้ำตื้นที่เรียกว่า Splash Pool และที่พิเศษคือยังมี Forest School ที่ให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศน์ สำรวจสิ่งรอบตัว และสัมผัสกับธรรมชาติจริง ๆ ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย และทุกกิจกรรมการเรียนรู้จะมีครูดูแลอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ยังมียิมออกกำลังกายภายในอาคาร ในกรณีที่อากาศข้างนอกไม่ดีหรือมีค่าฝุ่น ในปริมาณสูง เด็ก ๆ ก็จะได้ใช้ Little Gym ซึ่งเป็นห้องยิมสำหรับเด็กอนุบาลที่มีอุปกรณ์กีฬาแบบ Soft Play ด้ยวัสดุที่นุ่มและปลอดภัย เหมาะสมกับเด็กเล็ก เด็กๆยังได้ฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กด้วยการเรียนรู้จากการลงมือทำจริง อย่าง เข้าครัวทำอาหารในโซน Food Technology มีการออกแบบครัวเฉพาะไว้สำหรับเด็กเล็ก ให้เด็กๆได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า Sensory skills อีกด้วย
2. หลักสูตรของโรงเรียน และระดับชั้นเรียน
ที่นี่ใช้หลักการเรียนการสอน Reggio Emilia Approach ที่ใช้มาอย่างยาวนานกับนักเรียนระดับชั้นอนุบาล Early Years โดยเป็นหลักสูตรที่สอนโดยครูผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการของเด็กเล็กโดยเฉพาะและได้รับการรับรองการกระทรวงศึกษาของประเทศอังกฤษ เพื่อให้เด็กได้เติบโตสมวัย อย่างเป็นธรรมชาติ และพัฒนาศักยภาพของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ในชั้นเด็กเล็กมีการดูแลอย่างใส่ใจและทั่วถึง เพราะ มีชั้นละ 6 ห้อง เท่านั้น จำนวนเด็กในห้องไม่มากเกินไป ครูสามารถดูแลเด็กๆได้อย่างเต็มที่
หลักการสอนของครูที่นี่จะเน้นย้ำในเรื่อง
- สร้างความเป็นเอกลักษณ์และตัวตนของเด็ก – เชื่อว่าเด็กทุกคนเป็นผู้เรียนที่มีความสามารถตั้งแต่แรกเกิด ซึ่งสามารถปรับตัวได้อย่างดีและมีความมั่นใจในตนเอง
- การสร้างความสัมพันธ์เชิงบวก – เด็กๆสามารถเรียนรู้และพัฒนาความเข้มแข็งทั้งใจกาย และเป็นอิสระด้วยพื้นฐานของความรักและความสัมพันธ์ที่มั่นคง
- สภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย – สิ่งแวดล้อมที่ดีมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็ก
- กระตุ้นการเรียนรู้และพัฒนาการ – เด็กจะมีการเรียนรู้ในรูปแบบที่แตกต่างกันแบบเฉพาะตัว ดังนั้นการเรียนรู้และการกระตุ้นพัฒนาการในทุกด้านจึงมีความสำคัญที่เท่าเทียมกันและเชื่อมโยงถึงกัน
ระดับชั้นเรียน
- Pre-Prep: Early Years 1 & 2
- Prep: Year 3-6
- Senior: Year 7-9 และ Year 10-11
- Sixth Form: Year 12-13
ในส่วนของ Year 10-11 นั้น นักเรียนจะได้เริ่มเตรียมตัวสอบ IGCSE examinations หรือหลักสูตรการสอบเทียบวุฒิมัธยมศึกษาตอนปลายของประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ
ส่วนการเทียบวุฒิการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ใน Year 12 และ 13 ทางโรงเรียนจะเริ่มเข้าหลักสูตร A-Level ของอังกฤษซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วโลกจากมหาวิทยาลัยอันทรงเกียรติ เรียกได้ว่าปูพื้นฐานไว้สำหรับการศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้าในต่างประเทศอย่างเต็มที่
3. กิจกรรมพิเศษสำหรับเด็ก
กิจกรรมที่วางแผนมาสำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะ โดยมีกิจกรรมพื้นฐานในห้องเรียนทุกๆวัน อย่าง water play puzzles blocks threading reading corner rice play และอื่นๆ เด็กๆจะได้เล่นตามอัธยาศัย เป็นการเล่นแบบอิสระและฝึกการทำงานหรือเล่นเป็นกลุ่มด้วย กิจกรรมแบบกลุ่มในตอนท้าย คือการร้องเพลง เล่านิทาน รวมถึงมีผลไม้และของว่างอย่างขนมปังแท่ง เเละพัฟ แสนอร่อยจาก The Bangkok Club สำหรับเด็กๆด้วย
นอกจากนี้ในแต่ละวันจะมีกิจกรรมพิเศษให้เด็กๆได้เข้าร่วมที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่น Splash Play, Soft Play, Picnic, Cookery, EY Garden และ Ball Games เป็นต้น
ภาพปลาวาฬฝีมือเด็ก ๆ ในแคนทีน ที่ยามเย็นจะปรับเปลี่ยนเป็นกิจกรรม U time ที่เด็กๆ เลือกเองได้
4. เอกลักษณ์และจุดเด่นของโรงเรียน
เราตื่นเต้นและว้าวไม่หยุด กับบรรยากาศภายในโรงเรียน ทั้งท่าเรือส่วนตัวที่สามารถลงเรือได้ที่ท่าเรือสะพานตากสินซึ่งมีเรือส่วนตัวมายังโรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ และเดินต่ออีกนิดมายังโรงเรียนได้ มีสนามกีฬาขนาดใหญ่ ส่วนของตึกเรียนต่างๆที่ออกแบบการใช้งานที่ตอบรับกับการเรียนได้อย่างดี เช่น ในส่วนของ Sir David Lees Innovation Centre ตอบรับการเรียน Mathematics ,Robotics, Innovation และ Sixth Form and Higher Education counselling
ส่วนของ Sports Performance Complex ประกอบด้วย Sports Hall ติดแอร์ สนาม basketball สนาม badminton สนาม volleyball และ netball ห้องโยคะ และห้อง fitness รวมไปถึงส่วน Gymnastics studio ในโซนอาคารเดิมอย่าง Physical education ซึ่งเด็กๆสามารถมาเล่นได้ทุกวันและมีครูเฉพาะทางด้านกีฬามาดูแลทุกวัน
นอกจากนี้ยังมี Auditorium ขนาด 580 ที่นั่ง มี Music Recital Hall ขนาด 130 ที่นั่ง, Music School, Junior Innovation Centre, Library, Sixth Form Centre, Aquatics Centre และ Dining Hall ขนาด 700 ที่นั่ง
Pre-prep building สำหรับนักเรียน EY1-Y2
Junior school สำหรับนักเรียนชั้น Y1-Y6
Senior school สำหรับนักเรียนชั้น Y7-Y13
Innovation Building Design and Technology
Robotics
Memorial Hall
Junior & Senior Library
Swimming Pool/Football Field/Running Track /Innovation Building
5. นักเรียนปัจจุบันและนักเรียนที่จบไปแล้ว
ในระดับ Junior school คือตั้งแต่ Early Years 1 ใช้หลักการสอนแบบ Play-based learning เพื่อให้เหมาะสมกับเด็กแต่ละวัย และปรับรูปแบบให้มีความเป็น Academic มากขึ้นตามวัย จนเข้มข้นไปถึง IGCSE ของ Year 10-11 และ A Level ของ Year 12-13 เพื่อเตรียมพร้อมไปต่อในมหาวิทยาลัยหรือสายอาชีพ ซึ่งวิธีนี้จะเปิดโอกาสให้เด็กค้นพบตัวตนและสิ่งที่ตนเองสนใจ
Year 12-13 จะได้รับการช่วยเหลือในการสอบ A Level ตั้งแต่การสมัครสอบ แนะแนวทางจนน้อง ๆ สามารถไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก ไม่ว่าจะในไทย, อเมริกา, UK หรือออสเตรเลีย เช่น มหาวิทยาลัยใน Ivy League และ Russell Group ซึ่งรวมถึง University of Oxford , University of Cambridge ส่วนใหญ่ศึกษาต่อในประเทศอังกฤษ อเมริกา
♥ Mommy love this! ♥
A: หมดกังวลทุกความเครียดของลูก เพราะที่นี่เป็นโรงเรียนที่มี Well-being department เพื่อดูแลเรื่องสุขภาพจิตของเด็กรับปรึกษาเกี่ยวกับการเรียน เพื่อน ครอบครัว
B: กิจกรรมพิเศษที่ถูกใจเด็กๆ อย่าง
• Soft play เล่นสนุกแบบได้ทักษะวิชาพละ Sand play หรือบ่อทราย บ่อปลา, Splash Pool สระน้ำขนาดเล็ก ระดับน้ำแค่ข้อเท้า รวมถึงหน้าห้องทุกห้องปูพื้นยาง เพื่อป้องกันเมื่อเด็กล้มแล้วจะไม่บาดเจ็บ ให้เด็กๆขี่จักรยานได้ มีบรรยากาศต้นไม้รายรอบ เป็นต้น
• ออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง เช่น Cooking class ห้องดนตรีและห้องสมุด
• ช่วงเวลา นั้นเด็ก ๆ สามารถเลือกเรียน Extra-Curricular ที่มีให้เลือกตามความสนใจซึ่งมีมากถึง 500 กิจกรรมสามารถเปลี่ยนไปได้ทุกเทอม เช่น หมากรุก เลโก้ ทำอาหาร เป็นต้น
C: ทางโรงเรียนให้ความสำคัญกับการคัดเลือกครูที่มาสอน ต้องได้มาตรฐานและมีวุฒิครูรับรองจากกระทรวงศึกษาของประเทศอังกฤษ QTS (Qualified Teaching Status) ซึ่งปัจจุบันมีอาจารย์ที่มีคุณวุฒิและประสบการณ์สูงจำนวน 200 คนประจำอยู่ที่นี่ ครูส่วนใหญ่เป็นชาวอังกฤษ ยกเว้นครูสอนภาษาผู้เชี่ยวชาญ และครูทุกคนเป็นเจ้าของภาษาด้วย
ใครที่อยากพาลูกมาลองเรียนที่นี่ดู เขามี “Playgroup” สำหรับเด็กที่ไม่ใช่นักเรียน เปิดให้กับเด็กอายุ 1-4 ขวบ โดยจะมีครูที่เชี่ยวชาญด้าน playgroup เปิดรับสมัครคลาสละไม่เกิน 10 คน ด้วยค่ะ
หลักสูตรการสอน : British National Curriculum / Early Years Foundation Stage Framework (UK)
วิธีการเรียนการสอนแบบ Reggio Emilia Approach เน้นให้เด็กเป็นศูนย์กลางในการเรียนรู้ โดยคุณครูผู้สอนจะดึงความสนใจและความอยากรู้ของเด็กออกมาเป็นแกนกระตุ้นให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ตนเองสนใจ ผ่านการทำกิจกรรมต่างๆแบบเฉพาะเจาะจง (Personalized Approach)
- ชั้นปีที่เปิดสอน : Early Years 1 – Year 13
- รับอายุตั้งแต่ 3 ปี ถึง 18 ปี
จำนวนนักเรียนทั้งหมด 2000
- อัตราส่วนครู:นักเรียนต่อห้อง EY1 = 1:5 , EY2 = 1:6
- อัตราส่วนนร.ต่างชาติ:นร.ไทย 25:75
เวลาเข้าเรียน/เลิกเรียน
- EY1 – EY2: เริ่ม 7.30 น.และ 8.00 น. – 14.30 น.
shrewsbury international school ค่าเทอม
Per Term | Per Year | ||
Early Years | EY1 | 211,700 | 635,100 |
EY2 | 222,900 | 668,700 | |
Pre-Prep | Y1-Y2 | 250,500 | 751,500 |
Prep | Y3-Y4 | 268,700 | 806,100 |
Prep | Y5-Y6 | 278,000 | 834,000 |
Senior | Y7-Y9 | 287,400 | 862,200 |
Y10 | 368,300 | 1,104,900 | |
Y11 | 368,300 | 736,600 (มีเรียน 2 เทอม) | |
Y12 | 369,800 | 1,109,400 | |
Y13 | 368,800 | 736,600 (มีเรียน 2 เทอม) |
Shrewsbury International School Bangkok Riverside / โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่ กรุงเทพ ริเวอร์ไซด์
- ที่อยู่ : 1922 (ระหว่างซอย 70-72) ถนนเจริญกรุง แขวง วัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม จังหวัด กรุงเทพ 10120
- เวปไซต์ www.shrewsburry.ac.th/riverside
- โทรศัพท์: 02 675 1888
เรื่อง : อัจฉรา จีนคร้าม
ภาพ : ศุภกร ศรีสกุล