โรงเรียนปลาดาว Top 3 ด้านนวัตกรรมโลก มุ่งสร้างนวัตกรน้อย เพราะการเรียนรู้ ต้องเริ่มจากความสนุก - Amarin Baby & Kids
โรงเรียนปลาดาว

โรงเรียนปลาดาว Top 3 ด้านนวัตกรรมโลก มุ่งสร้างนวัตกรน้อย เพราะการเรียนรู้ ต้องเริ่มจากความสนุก

event
โรงเรียนปลาดาว
โรงเรียนปลาดาว

เมื่อผมนั่งดูกำหนดการที่ได้วางแผนเอาไว้ โรงเรียนปลาดาว จะเป็นโรงเรียนถัดไปที่ผมได้รับโอกาสให้เข้าไปเยี่ยมชมและทำคอลัมน์ School Visit  ชื่อ “ปลาดาว” ผมนึกคลับคล้ายคลับคลา เมื่อย้อนกลับไปในความทรงจำสมัยวัยรุ่น
(และยังไม่มีลูก ฮ่า) โรงเรียนปลาดาวปรากฏตามหน้านิตยสารที่เคยหยิบจับมาอ่าน เค้าลางคือ เป็นโรงเรียนใน จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอแม่แตง ที่อยู่ห่างออกไปไกลจากตัวเมือง และเป็นโรงเรียนที่เปิดโอกาสสำหรับเด็กใน พื้นที่ห่างไกล ให้ได้เข้ารับการศึกษาในแบบเรียนฟรี ! และไม่มีค่าใช้จ่าย

หนังสือ  The Star Thrower ของ Loren Eiseley  

ความสงสัยในคำว่าปลาดาวของผมนั้นเอง นำพาไปพบซึ่งคำตอบกับ หนังสือ ” The Star Thrower ” ของ Loren Eiseley เป็นเรื่องราวของชายผู้หนึ่งที่ เดินไปตามฝั่งของชายหาด แล้วบังเอิญเจอเข้ากับเด็กชายที่กำลังช่วยชีวิตปลาดาว ที่มาเกยฝั่ง โดยการพาปลาดาวกลับลงสู่ทะเลทีละตัว ๆ  ชายผู้นั้นรู้สึกว่าช่างเป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์ แต่เด็กชายตอบกลับมาเพียงว่า“อย่างน้อยก็ช่วยตัวนี้ได้” หนังสือเล่มนี้เองเป็นเสมือนที่มาและแรงบันดาลใจให้ เกิดการมูลนิธิโรงเรียนสตาร์ฟิชคันทรีโฮม โดย ดร.ริชาร์ด พี ฮ็อกแลนด์ (Dr. Richard P. Haugland)  นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน ที่ปลุกปั้นมูลนิธิขึ้นในปี พ.ศ. 2548 และเปิดเป็นโรงเรียนอนุบาลในปีถัดมา จัดเป็นประเภทเอกชนศึกษาสงเคราะห์ โดยเกณฑ์ของโรงเรียนคือ เด็ก ๆ ในกลุ่มชาติพันธุ์ , รายได้น้อย, ขาดโอกาสทางการศึกษา, ขาดพ่อหรือแม่ในการดูแล ในอัตราส่วน 80% ต่อ เด็ก ๆ ในพื้นที่ใกล้โรงเรียน 20%

คุณโยโกะ เตรูย่า รองประธานมูลนิธิสตาร์ฟิชเอ็ดดูเคชั่น

           “เด็กทุกคนทำได้ดีถ้าเขาได้รับโอกาส และหัวใจสำหรับของโรงเรียนคือครูที่มีหัวใจของการเป็นครู ” คุณโยโกะ เตรูย่า รองประธานมูลนิธิสตาร์ฟิชเอ็ดดูเคชั่นเล่าให้เราฟังถึงแกนหลักของโรงเรียน เพราะนอกจากเป็นองค์กรที่ ไม่แสวงหาผลกำไร พยายามลดช่องว่างทางการศึกษาแล้ว ช่วยเหลือเด็ก ๆ ในกลุ่มเปราะบางแล้ว โรงเรียนปลาดาวยังคงเป็นโรงเรียนต้นแบบที่โดดเด่น ด้านนวัตกรรมการศึกษา ได้รับคัดเลือกให้ติด 1 ใน 3 โรงเรียนที่ดีที่สุดในโลก ประเภทนวัตกรรม World’s Best School Prize for Innovation และมีการเรียนการสอนผ่านรูปแบบโครงงาน (Project-Based Learning – PBL) โดยรับเด็ก ๆ ตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันมีเด็ก ๆ ที่กำลังศึกษาทั้งหมดประมาณ 200 คนเลยทีเดียว

นวัตกรรมทางการศึกษาติดอันดับ  1 ใน 3 World’s Best School Prize for Innovation ในปี 2024

ช่วงเวลาที่ผมได้เข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศภายในอาคารเรียนที่แบ่งเป็นห้อง Maker Space ต่าง ๆ มีกลุ่มศึกษาดูงานเดินอย่างขวักไขว่หลากหลาย คุณโยโกะเล่าว่าต่อปี มีหน่วยงานขอเข้าชมมากถึง 2,000 แห่ง ซึ่งทางโรงเรียนพยายามผลักดัน ส่งต่อ ถ่ายทอดนวัตกรรมที่มีอย่างสามารถเข้าถึงได้ง่ายและทำได้จริง นวัตกรรมของโรงเรียนปลาดาวแบ่งหลัก ๆ ได้เป็น 2 สิ่งคือ

1. นวัตกรรม 3R อ่าน, เขียน และคณิตศาสตร์

ดร.ริชาร์ด เป็นผู้คิดค้นนวัตกรรม 3R ด้วยเป็นแนวคิดที่เน้นพัฒนาทักษะพื้นฐานให้เด็ก ๆ อ่านออก เขียนได้ และคิดเลขเป็น โดยปรับปรุงวิธีการสอนให้เหมาะสมกับตัวนักเรียน ยกตัวอย่างเช่นพยัญชนะภาษาไทย ที่เริ่มต้นเรียนค่อนข้างยาก และใช้การจดจำค่อนข้างเยอะ สำหรับเด็ก ๆ ที่ไม่ได้ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาแม่ โดยใช้ชุดพยัญชนะต้น 12 ตัว ที่เกี่ยวกับสัตว์เพราะจดจำง่าย สนุก สามารถเชื่อมโยงผ่านประสบการณ์ของเด็ก ๆ มาผสมกับสระ ทำให้เกิดคำที่ง่ายต่อการอ่านออกเสียง

2.Maker Space พื้นที่สำหรับการสร้างสรรค์และนวัตกรตัวจิ๋ว

Maker Space เป็นนวัตกรรมที่ ดร.แพร นรรธพร จันทร์เฉลี่ย เสริบุตร ประธานมูลนิธิฯ คิดค้นและต่อยอดมาจากแนวทาง Design Thinking เพื่อเปิดพื้นที่ให้เด็ก ๆ ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการประดิษฐ์ ทดลอง และพัฒนาไอเดีย ตามความสนใจของตัวเองในหมวดต่าง ๆ นั่นคือ ห้องสตูดิโอ, ห้องศิลปะ, ห้องช่าง, ห้องอาหาร, ห้องผ้า, ห้องเกษตร และห้องทดลอง โดยใช้แนวคิด STEAM ปรับมาใช้ให้สอดคล้องกับ Project-Based Learning

ในห้องอาหารเด็ก ๆ ทดลองทำบัวลอยจากกลีบดอกกุหลาบ
ห้องปฎิบัติการเทคโนโลยี เด็ก ๆ กำลังโต้ตอบกับไดโนเสาร์ที่เป็นAI
ห้องช่างที่นักประดิษฐตัวน้อยกำลังสร้างสรรค์รถจากกระดาษลัง

“ตั้งคำถาม—จินตนาการ—วางแผน—สร้างสรรค์—สะท้อนผลลัพธ์และออกแบบใหม่”
ทั้งหมดนี้คือกระบวนการตามขั้นต่าง ๆ ของทักษะ STEAM  เป็นแนวคิด การศึกษาที่เน้นบูรณาการ 5 วิชาหลักเข้าด้วยกัน เพื่อทักษะที่จำเป็นในการเรียนรู้ ภายใต้ศตวรรษที่ 21 และผนวกเข้ากับการทำ Maker Space หมวดที่เด็กแต่ละคนสนใจ
โดย STEAM จะเน้นการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการทำงานร่วมกัน พร้อมส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สร้างนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ในโลกจริง

S-T-E-A-M คือหัวใจของการเรียนรู้ จาก 5 วิชาหลัก

1.S = Science (วิทยาศาสตร์)
ส่งเสริมความเข้าใจในกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น การสังเกต การทดลอง และการค้นคว้า

เครื่องฟักไข่ภายในห้องทดลอง เด็กๆเคยฟักลูกเจี้ยบน้อยออกมาเป็นตัวกันแล้ว

2.T = Technology (เทคโนโลยี)
พัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยี ความเข้าใจในเครื่องมือดิจิทัลเพื่อใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน

โครงการปั้นดินที่เด็ก ๆ นำดินจากพื้นที่แถวบ้านของแต่ละคน  มาสร้างสรรค์และศึกษาชนิดของดินที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่

3.E = Engineering (วิศวกรรมศาสตร์)
สอนการคิดเชิงออกแบบ Design Thinking และการแก้ปัญหาโดยใช้หลักการทางวิศวกรรม

4.A = Arts (ศิลปะ)
เพิ่มความคิดสร้างสรรค์และการแสดงออกผ่านศิลปะ เช่น ดนตรี ภาพวาด การแสดง หรือการออกแบบ

5. M = Mathematics ( คณิตศาสตร์ )
พัฒนาทักษะการคิดเชิงตรรกะ การแก้ปัญหาทางตัวเลข และการวิเคราะห์ข้อมูล

กระดานวางแผนสำหรับเตรียมอุปกรณ์ ก่อนลงมือสร้างสรรค์และทดลอง

โรงเรียนที่เป็นทั้งพื้นที่ปลอดภัย สนุกสนาน และเป็นมิตร สำหรับเด็ก ครู และผู้ปกครอง

ตึกเรียนหลักตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในบรรยากาศช่วงพักกลางวัน

คุณโยโกะเล่าให้เราฟังว่า “ พื้นที่ที่คนไม่ค่อยพูดถึงนั้นคือพื้นที่ทางจิตวิทยาหรือพื้นที่ที่ทุกคน
อยู่ร่วมกัน สิ่งหนึ่งที่เด็กได้รับคือพื้นที่ปลอดภัย เราให้อิสระกับเด็ก ๆ ในการคิด การพูด การทำงาน และการออกแบบการเรียนรู้สำหรับตัวเอง เขาจะรู้สึกมั่นใจ ปลอดภัย เป็นอิสระ  และสองคือโรงเรียนมีหลักการคือใช้สิทธิเด็กคุ้มครองเด็ก เจ้าหน้าที่หรือครูทุกคนต้องเซ็นต์นโยบายคุ้มครองเด็ก ส่วนพื้นที่สำหรับใช้งาน โรงเรียนออกแบบให้ดูเป็นมิตร ปลอดภัย ให้อิสระกับเด็ก ๆ มากที่สุดค่ะ

และนอกจากพื้นที่ทางใจ พื้นที่ในโรงเรียนสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ แล้ว โรงเรียนยังสร้างชุมชนปลาดาวให้แข็งแรงมากขึ้นด้วย การเข้าถึงกันแบบออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น https://www.starfishlabz.com/ หรือ Starfish Labz Channel ผ่านช่องทาง Youtube ที่จะมีคอร์สวิชาต่าง ๆ ข่าว บทความ ด้านนวัตกรรมและการศึกษาเพื่อเด็ก ผู้ปกครองและคุณครู และชุมชนออนไลน์ไว้ติดต่อสื่อสารกันได้ และไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถเข้าไปศึกษาได้ฟรีพร้อมรับใบเกียรติบัตรเมื่อทำเวิร์กช้อปจนจบคอร์ส
นอกจากนี้ยังมี Starfish Learning Hub  ที่พร้อมรับเด็ก ๆ และผู้ปกครองที่สนใจมาเรียนรู้ไปด้วยกันโดยไม่จำเป็นต้องเป็นนักเรียนของโรงเรียนปลาดาว 

Dad Thumbs up ! พ่อยกนิ้วให้

1.บรรยากาศในโรงเรียนเป็นมิตรและสนุกสนาน
2.ต่อยอดและสร้างแรงบันดาลใจ สำหรับการเลี้ยงลูกที่บ้านชวนกันมาเป็นMaker
3.อาคาร สถานที่โอบรับและใกล้ชิดธรรมชาติ ร่มรื่น อบอุ่น
4.เด็ก ๆ สามารถเลือกและออกแบบกำหนดการเรียนรู้และลงมือทำในสิ่งที่สนใจได้เอง
5.มีพื้นที่ออนไลน์  Starfish Labz เพื่อให้แต่ละบุคคลได้พัฒนาตนเอง
6. อาหารกลางวันสำหรับเด็ก ๆ น่ารับประทานมากครับ


ที่อยู่ : 278 หมู่10 ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง เชียงใหม่ 50150
โทร : 053-857-635, 053-857-457
E-mail : [email protected]
เว็บไซต์ : https://www.starfishedu.org/school
https://www.facebook.com/StarfishSchool/
https://www.starfishlabz.com/


เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up