School Visit วันนี้ จะพามาเยี่ยมชมโรงเรียนทางเลือกหนึ่งย่านสมุทรปราการ ที่มีชื่อว่า “โรงเรียนทอรัก” เป็นโรงเรียนที่เป็นบ้านหลังที่ 2 ของเด็ก ๆ เป็นโรงเรียนที่คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนใฝ่ฝันและอยากให้ลูกมาเรียน ถ้าอยากรู้ว่าโรงเรียนหลักสูตรเป็นอย่างไร วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกทุกแง่ทุกมุมกันค่ะ
ประสบการ์ณยาวนานกว่า 27 ปี
โรงเรียนอนุบาลทอรัก เป็นโรงเรียนทางเลือก ที่เปิดทำการสอนมายาวนานกว่า 27 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ ย่านสมุทรปราการ โดยช่วงแรกเปิดสอนเฉพาะระดับชั้นอนุบาล การเรียนการสอนในรูปแบบภาษาธรรมชาติ ( Whole Language Approach ) ที่ยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง ( Child Centered ) ต่อมาได้ขยายหลักสูตรและชั้นเรียนในระดับประถมศึกษาเพิ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2543 โดยใช้แนวการเรียนการสอนแบบโครงการ ( Project Approach ) และการเรียนการสอนเป็นธีม (Thematic Approach) เป็นโรงเรียนที่ให้ความสำคัญด้านจิตใจของเด็ก ๆ และเน้นการปลูกฝังมากกว่าการหวังผลลัพธ์ระยะสั้น การเรียนรู้ของเด็กต้องมาจากความรักและความเมตตาของครูผู้สอน ที่นี่เด็ก ๆ จะเรียนอย่างมีความสุข สนุก รู้สึกปลอดภัย และรักที่จะมาโรงเรียน
แนวคิด “เด็กเก่งไม่ต้องเร่ง”
ผู้ปกครองส่วนใหญ่ในปัจจุบัน พยายามที่จะเร่งเรียนให้ลูก ๆ ตั้งแต่เล็ก เด็กบางคนต้องเรียนพิเศษทุกเย็น หรือทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เพื่อให้เด็กสามารถสอบได้คะแนนสูง แนวคิดนี้ส่งผลให้ระบบการศึกษาไทยทั้งระบบโดยพุ่งเป้าไปที่ “การสอบ” และมีความคิดว่าเด็กที่มีผลการเรียนดี จะประสบความสำเร็จและเป็นเด็กเก่ง ซึ่งจริง ๆ แล้ว การสอบได้คะแนนสูง เป็นเพียงแค่องค์ประกอบเล็ก ๆ ในการดำเนินชีวิต และการเรียนเก่งก็ไม่ได้การันตีว่า เด็กคนนั้นจะประสบความสำเร็จในชีวิตเสมอไป
ที่ โรงเรียนทอรัก เน้นสร้างเด็กให้เก่งโดยไม่ต้องเร่งเรียน ให้เด็กเรียนรู้ตามธรรมชาติ เป็นแนวความคิดของ ครูเชฐ พิเชฐ โพธิ์ศรีประเสริฐ ( ผู้ก่อตั้งโรงเรียนทอรัก) เครือข่ายเด็กเก่งไม่ต้องเร่งนั้น มีจุดประสงค์ที่จะเปลี่ยนแปลงค่านิยมของ ผู้ปกครอง จากเดิมที่มุ่งเน้นการประเมินผลเด็กจากคะแนนสอบเพียงอย่างเดียว ให้มาเป็นการประเมินผลเด็กจากพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน คือ สังคม อารมณ์-จิตใจ สติปัญญา และร่างกาย ด้วยแนวคิดที่ว่า เด็กจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จหรือเป็นคนเก่งต่อไปนั้น จะต้องมาจากรากฐานการเรียนรู้อย่างมีความสุขซึ่งจะนำไปสู่ “ การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและตลอดชีวิต”
วัยอนุบาล กับ ภาษาธรรมชาติ ( Whole Language Approach )
โรงเรียนทอรักใช้หลักสูตร ภาษาธรรมชาติ หรือ Whole Language ในการจัดการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนอนุบาล โดยสอนภาษาตามธรรมชาติของเด็กเพราะธรรมชาติของเด็กมักจะสนใจสิ่งรอบข้าง เด็ก ๆ ชั้นอนุบาลจะได้เรียนรู้ภาษาผ่านกิจกรรมต่าง ๆ มากมายทั้งการทำขนม ดนตรี ศิลปะ งานเกษตร และอื่น ๆ เรียนรู้จากประสบการ์ณจริงและสิ่งรอบตัวหรือสิ่งที่คุ้นเคย ไม่ใช่การท่องจำ เช่น เมื่อฟังนิทานจบ เด็ก ๆ จะวาดภาพเพื่อถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้ผ่านการบันทึกภาพ
บรรยากาศการเรียนภาษาในชั้นเรียนมีลักษณะเป็นการร่วมมือกันระหว่างครูและเด็ก ๆ ตั้งแต่การวางแผนคือคิดด้วยกัน เด็กจะไม่ถูกบังคับให้เขียนตัวพยัญชนะ คํา หรือประโยคตามที่ครูสั่ง แต่ในบรรยากาศการสอนแนวใหม่นี้ เด็กจะแสดงความต้องการให้ครูเห็นว่า เขาต้องการเขียนสิ่งที่มีความหมายสิ่งที่เขาอยากบอกให้ผู้อื่นเข้าใจ ในระยะแรกจึงเป็นการที่เด็กสร้างความคิด ซึ่งเกิดจากประสบการณ์ของเด็กและความต้องการสื่อความหมายให้ผู้อื่นทราบ อะไร ทําเมื่อไร ทําอย่างไร เป็นการเรียนแบบนี้ทำให้เด็กได้เรียนรู้ครบองค์รวม
สำหรับการประเมินผล คุณครูจะประเมินพัฒนาการ 4 ด้าน ของเด็ก คือ ร่างกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา โดยวัดผลจากการบันทึก การเก็บร่องรอยทางภาษาของเด็ก ขณะทํากิจกรรมต่าง ๆ และการสะสมชิ้นงาน โดยประเมินการเรียนรู้ภาษาจากสภาพจริง ไม่มีการสอบวัดคะแนน
Project Approach ( ระดับชั้นอนุบาล )
โรงเรียนทอรักในระดับอนุบาล เน้นให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ “เป็นเรื่อง” ทุกเรื่องที่เด็ก ๆ สนใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว สิ่งที่เด็ก ๆ พบเจอในชีวิตประจำวัน กิจกรรมการเรียนการสอนเป็นเชิงปฏิบัติ ในรูปแบบ Project Approach จะช่วยกระตุ้นให้เด็กได้เรียนรู้ด้วยตนเอง มีส่วนร่วมวางแผนในสิ่งที่ตัวเองสนใจ เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้ออกแบบสิ่งที่ตัวเองอยากจะรู้และอยากจะทำร่วมกับแม่ครูและเพื่อน ๆ ทำให้เด็กมีมุมมองที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น ช่วยให้เด็กได้เรียนรู้การมีส่วนร่วมในสังคมประชาธิปไตย
วัยประถม เรียนแบบ Thematic approach และ การสอนแบบโครงการ (Project Approach)
- Thematic Approach
คุณครูผู้สอนจะสอดแทรกวิชาต่าง ๆ เข้ามาผสมผสานภายใต้หัวข้อเดียวกัน ( Themetics ) เช่น สัตว์โลกน่ารัก โดยเด็กจะเรียนรู้ทุกวิชาพร้อมกัน ( วิทยาศาสตร์ สังคม สุขศึกษา ศิลปะและดนตรี ) ผ่านหัวข้อดังกล่าว แนวทางของ Thematic Approach มีข้อดีมากมาย เช่น
- นักเรียนสามารถมองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างองค์ความรู้ในแต่ละวิชา
- นักเรียนสามารถเชื่อมโยงเนื้อหาที่เรียนกับการดำเนินชีวิต ( บทเรียนนอกห้องเรียน ) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- นักเรียนจะถูกกระตุ้นให้เสนอความคิดเห็นระหว่างกันและกัน ทำให้สามารถขยายองค์ความรู้ได้มากขึ้น
- นักเรียนจะรู้สึกมีความรับผิดชอบในการเรียนรู้ของตนมากยิ่งขึ้น
- คุณครูจะเป็น ‘ผู้ช่วย’ มากกว่า ‘ผู้สอน’
- Project Approach ( ระดับชั้นประถม )
Project Approach ช่วยส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้และค้นหาสิ่งที่ตัวเองสนใจผ่านการทำกิจกรรมเชิงปฏิบัติที่เน้นให้เด็กลงมือทำด้วยตัวเอง เป็นการเรียนรู้ที่หลอมรวมทักษะวิชาต่างๆ เข้าด้วยกันได้อย่างแนบเนียน เด็กได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงแบบองค์รวม และยังมีข้อดีมากมาย เช่น
- เด็กได้รู้จักการแก้ปัญหา เช่นเดียวกับในสถานการณ์จริง ( ปัญหาในโลกปัจจุบันไม่ได้แบ่งเป็นรายวิชา แต่มีมากกว่า 1 วิชา )
- สมองทำงานได้ดี และรับรู้เร็วกว่า หากได้รับข้อมูลที่มีลักษณะเป็นภาพรวมไม่แยกส่วน ( Seek for Pattern of Meaning )
- เด็กจะเรียนรู้ลึกและเข้าใจได้มากกว่า เป็นวิธีที่สร้างนิสัยการทำงานเป็นหมู่คณะ (Team Spirit ) และนิสัยการเรียนรู้และการทำงานที่ดี (เป็นความฉลาดของมนุษย์ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และความฉลาดทางอารมณ์ หรือ EQ)
นอกจากนี้พี่ ๆ ชั้นประถม มีวิชาเรียน มากกว่า 8 กลุ่มสาระ เช่น ภาษาชีวิต จินตปัญญา ถักทอ ซึ่งเป็นไฮไลท์ของโรงเรียน เด็ก ๆ จะได้เรียนทั้ง ถักโครเชต์ งานช่าง งานไม้ และอื่น ๆ อีกมากมาย เป็นทักษะพื้นฐานที่จะติดตัวเด็กไปตลอดชีวิต
เรียนดนตรีแบบ Orff
เด็ก ๆ ทุกคนที่โรงเรียนทอรัก จะได้เรียนดนตรีและการเคลื่อนไหวแบบ Orff Schulwerk คือ การเรียนการสอนดนตรีที่สอดคล้องกับธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ ผสมผสานดนตรี การพูด การเคลื่อนไหว และการแสดงละคร ขณะเดียวกันก็เลียนแบบวิธีการเล่นของเด็ก ช่วยพัฒนาปัญญาภายในของเด็ก ๆ เด็กจะซึมซับจังหวะหรือจังหวะที่ต้องการได้ ซึ่งยังนำไปสู่รูปแบบจังหวะของร่างกายและการเคลื่อนไหวตามดนตรีอีกด้วย นอกจากเรียนสนุก และไม่กดดันเด็กแล้วยังช่วยเสริมความคิดสร้างสรรค์พร้อมกับการฝึกวินัย ฝึกรอคอย ฝึกวิเคราะห์ อีกด้วย การเรียนแบบนี้ทำให้เด็กเรียนรู้การสังเกตุ ส่วนคุณครูก็ได้เข้าใจความเป็นธรรมชาติของเด็ก เข้าใจความเป็นธรรมชาติของมนุษย์มากขึ้น
Mommy Love This ! ถูกใจแม่
- ที่นี่เด็ก ๆ จะเรียนคุณครูว่าแม่ เพื่อให้เด็ก ๆ รู้สึกใกล้ชิด สร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเด็กและคุณครู เด็กจะรู้สึกผูกพันธ์เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน
- ที่โรงเรียนทอรัก ใช้เพลง ใช้กลอน แทนการออกคำสั่ง แม่ครูจะร้องเพลงเพื่อให้เด็ก ๆ รู้ว่า ตอนนี้ถึงเวลาต้องทำอะไร เช่น เข้าแถวใช้ 1 เพลง เก็บของ ใช้ 1 เพลง โดยไม่จำเป็นต้องสั่งให้ทำ
- เรื่องการรับส่งเด็ก ๆ ในโรงเรียน มีความปลอดภัยสูงเลยค่ะ ผู้ปกครองที่มารับต้องมีบัตรรับเด็กเท่านั้น
- โรงเรียนจะคุยกับผู้ปกครอง แบบรายคน เทอมละ 1 ครั้ง ครั้งละ ประมาณ 30 นาที แต่หากมีเรื่องไม่ปกติ ครูจะรีบพูดคุยและหาทางแก้ไขร่ววมกับผู้ปกครองทันที
- โรงเรียนงดการใช้มือถือ 100% เพื่อพัฒนาการที่ดีของเด็ก ๆ
- เด็กที่โรงเรียนทอรัก กล้าถาม กล้าแสดงความคิดเห็น เพราะโรงเรียนจะไม่ตัดสินคำตอบ ไม่มีถูกไม่มีผิด เพื่อปลูกฝังให้เด็กเชื่อมั่นในตนเอง และมี Self Esteem
- โรงเรียนมีกิจกรรมพี่พบน้อง น้องพบพี่ เพื่อเชื่อมโยงรอยต่อน้องอนุบาล 3 ที่กำลังจะขึ้นชั้นประถม โดยให้เด็กอนุบาลลองนั่งเรียนกับพี่ ๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยและฝึกพี่ให้รักน้อง ฝึกน้องให้รักพี่
- มีโครงการเรียนพิเศษช่วงเย็น สำหรับพี่ประถม 5-6 ที่โรงเรียน เพื่อให้ทักษะแน่นยิ่งขึ้น สำหรับชั้นเรียนอื่นจะไม่มีการเรียนพิเศษ เพื่อไม่ให้เด็กล้าจนเกินไป
- ภาษาต่างประเทศมีครบทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน สำหรับภาษาอังกฤษจะสอนโดยคุณครูต่างชาติ ( ครูฟิลิปปินส์ )
- ชั้นประถมมีเรียน Coding ทุกชั้นปี เรียกว่าได้ครบทุกอย่างทั้งทักษะชีวิตและเทคโนโลยี
อัตราค่าเล่าเรียน
ประมาณ 30,000 – 50,000 บาท ( มี 2 เทอม )
( อาจมีการปรับเปลี่ยนตามสภาพเศรษฐกิจและตามระเบียบการของแต่ละปีการศึกษาค่ะ )
** ผู้ปกครองจะทราบรายละเอียดค่าเทอม ต้องเข้าร่วมกิจกรรม Open House กับทางโรงเรียนก่อนค่ะ
ที่อยู่ โรงเรียนอนุบาลทอรัก
209 ( ซอยเทศบาลบางปู 70) โอเชียนวิลเลจ สุขุมวิท
ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรปราการ 10280
Email: [email protected]
https://taurakschool.com/
โทร: 089-679-2500
- Editor : แม่เลม่อน
- ภาพ : ฤทธิรงค์ จันทองสุข