“ลูก” เปรียบเสมือนแรงขับเคลื่อนและแรงกระตุ้นที่ดีที่สุดสำหรับพ่อแม่ บางคนชีวิตเปลี่ยนไปเพราะมีลูก หลายคนเริ่มธุรกิจของตัวเอง หลังจากได้รับแรงบันดาลใจจากลูก หนึ่งในนั้นคือคุณแม่ลูกสองคนนี้ ครูเอ๋ ชลิดา วัฒนคุณ ผู้บริหารและผู้ก่อตั้ง KiDO Educare Center ซึ่งเป็น One Stop Shop แบรนด์เดียวในประเทศไทยที่ทั้งดูแลและส่งเสริมพัฒนาการรอบด้านให้แก่เจ้าตัวเล็กแบบจัดเต็ม
สำหรับลูกต้องสิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้น
“KiDO เริ่มต้นจากที่เราอยากหาสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูก แต่เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วบ้านเรายังไม่มี One Stop Shop แบบที่ต้องการเลย คือเราเชื่อในการเรียนรู้แบบธรรมชาติ เพราะเด็กวัยก่อนเข้าอนุบาลงานหลักของเขาคือการเล่น เขาต้องเรียนรู้ผ่านการเล่น และไม่ใช่การเร่งเรียนเขียนอ่าน แต่เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าอนุบาล ซึ่งตอนนั้นเราหาไม่ได้ ก็เลยคิดว่าทำเองดีกว่า”
KiDO เริ่มต้นเปิดตัวโดยเป็นสถาบันเสริมทักษะ แต่นั่นก็ยังไม่ใช่คำตอบที่ครูเอ๋ตามหา “KiDO ในช่วงแรกจะเปิดในพื้นที่การศึกษาของห้างสรรพสินค้า และเริ่มจากกิจกรรมเสริมทักษะ มีคลาสต่างๆ หลากหลาย ซึ่งตอนนั้นเราสังเกตว่าเวลาเด็กๆ และพ่อแม่มาทำกิจกรรมกับเรา อาทิตย์ละครั้ง ครั้งละ 45 นาที มันแทบไม่ได้ผลทางด้านพัฒนาการเลย เราเลยคิดว่าถ้าเป็น Daycare ที่มีความต่อเนื่องในการเรียนรู้ และเชื่อมโยงการพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ตลอดสัปดาห์ เราก็จะสามารถช่วยดูแลเรื่องพัฒนาการให้กับเด็กๆ ได้อย่างเต็มศักยภาพ”
Care & Education
เมื่อ Care และ Education มารวมอยู่ด้วยกัน เด็กๆ ที่ KiDO จึงได้รับทั้งกิจกรรมกระตุ้นพัฒนาการ ควบคู่กับการดำเนินกิจวัตรประจำวัน อย่างถูกสุขลักษณะ เติบโตอย่างมีความสุข มีพัฒนาการที่เป็นไปตามช่วงวัย “สิ่งที่ทำวันนี้ ทำให้เราได้เห็นพัฒนาการของเด็กอย่างชัดเจน ซึ่งจากประสบการณ์การทำ Daycare 10 กว่าปีที่ผ่านมา เรารู้เลยว่า เด็กมีศักยภาพสูงมาก ถ้าเขาได้รับการกระตุ้นและการเลี้ยงดูที่ถูกต้อง เขาจะสามารถพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด และ KiDO พร้อมจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยคุณพ่อคุณแม่ในการกระตุ้นพัฒนาการของลูกได้
ส่วนในเรื่องการดูแลเด็ก ที่นี่มีอัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อเด็กดีที่สุดในประเทศ “ช่วง 4 ปีแรก เด็กๆ ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด ต้องการการตอบรับ ต้องการปฎิสัมพันธ์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางจิตใจให้เขา ถึงแม้ระบบของ Daycare จะไม่สามารถให้เจ้าหน้าที่ประกบเด็กแบบ 1 ต่อ 1 ได้ แต่เรา เราให้ความสำคัญกับเรื่องอัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อเด็กมาก สำหรับเด็กเล็กเราให้เจ้าหน้าที่ 1 คนดูแลเด็ก 3 คน พอโตขึ้นมาหน่อย ช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น ก็จะเป็นเจ้าหน้าที่ 1 คนต่อ เด็ก 4-5 คน ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่สูงมากสำหรับการดูแลเด็กใน Daycare”
สนุกกับเรื่องรอบตัว
คอนเซ็ปต์หลักของที่นี่ คือต้องการให้เด็กๆ สนุกกับการเรียนรู้ โดยเฉพาะเรื่องรอบๆ ตัว “เราเน้นให้เด็กเรียนรู้ผ่านการเล่น ปลูกฝังให้เขาสนุกกับการเรียนรู้ เพราะเราเชื่อว่าถ้าเด็กสนุกกับการเรียนรู้ เขาจะมีความใฝ่รู้ กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา และนั่นคือการต่อยอดให้เขาสามารถเติบโตเป็นคนเก่ง คนดี และมีความสุขกับชีวิต
ที่สำคัญเราให้เด็กๆ เรียนรู้จากของจริง เป็นการเรียนรู้แบบบูรณาการให้เด็กสามารถคิดต่อยอดและเชื่อมโยงได้ ตัวอย่างเช่น Weekly Alphabet Theme สัปดาห์นี้เรียนพยัญชนะ A เป็น A for Ant ทั้งนิทาน บทเพลง บทกลอน ศิลปะ ก็จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวข้องกับเจ้ามดทั้งหมด อย่างเริ่มเรียนวันแรกของสัปดาห์ เราก็เอาหุ่นมดมาเรียงกันให้นับ นับตัว นับขา นับตา นับหนวด เด็กๆ ก็ได้เรียนรู้เรื่องตัวเลข ลองเปรียบเทียบกับของตัวเอง วันต่อมาเราเล่นบทบาทสมมติ ถ้าเด็กๆ เจอมด ต้องทำอย่างไง จับมันได้ไหม มดกัดเราได้นะ ถ้าโดนกัดแล้วจะเป็นอย่างไร ถามเพื่อให้เด็กๆ ได้แสดงความคิดของเขา ซึ่งคำถามของเราจะเน้นเป็นคำถามปลายเปิด เพื่อให้เขาได้คิดต่อ คิดได้แบบเปิดกว้าง ไม่ใช่จบที่คำตอบใดคำตอบหนึ่งเสมอ”
พ่อแม่มีส่วนร่วมในการพัฒนาลูก
นอกจากจะมีกล้องวงจรปิดให้คุณพ่อคุณแม่สามารถดูลูกผ่านอินเทอร์เนตได้แล้ว หน้าที่สำคัญของคุณพ่อคุณแม่คือการทำกิจกรรมต่อยอด กับลูกที่บ้าน “เรามี Communication Bookให้คุณพ่อคุณแม่ทราบเรื่องคอนเซ็ปต์การเรียนในแต่ละสัปดาห์ เพื่อให้สามารถกลับไปต่อยอดกับลูกที่บ้านได้ อ่านบทกลอน เล่านิทาน หรือเล่นให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ที่ลูกได้เรียนมา นอกจากนี้เรายังมีการประเมินพัฒนาการ ตรวจสุขภาพ ตรวจช่องปาก ทุกๆ 3 เดือน เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ทราบว่าลูกมีพัฒนาการสมวัยไหม ทั้งด้าน ร่างกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญา ภาษา และถ้าลูกมีพัฒนาการสมวัย จะมีกิจกรรมอะไรที่สามารถทำที่บ้านได้ เพื่อกระตุ้นให้เขามีพัฒนาการดีขึ้นไปอีก หรือถ้ามีพัฒนาการล่าช้าในบางเรื่อง เราก็จะสื่อสารกับผู้ปกครอง ให้โอกาสเด็กๆได้ฝึกฝน และประเมินซ้ำหลังจากนั้นอีกเดือนหนึ่ง แต่เราจะบอกคุณพ่อคุณแม่เสมอว่าต้องช่วยกันนะคะ เราประสานงานกันระหว่าง KiDO กับครอบครัว เพื่อช่วยกันดูแลเจ้าตัวเล็กเป็นทีม คุณพ่อคุณแม่ต้องอดทน หนักแน่น สม่ำเสมอ ต้องมีวินัย ต้องให้เวลา อย่าใจร้อนแล้วจะเห็นผลแน่นอน”
สุดท้ายครูเอ๋ฝากมาบอกคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ว่า “สิ่งสำคัญในการเรียนรู้ของลูกไม่ใช่เทคโนโลยีรุ่นใหม่ล่าสุด แต่คุณพ่อคุณแม่คือแหล่งเรียนรู้ที่ดีที่สุดของลูก ก่อน 4 ขวบ อย่าปล่อยลูกให้อยู่แต่กับทีวี เกมคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เพราะมันจะส่งผลต่อพัฒนาการของลูก ของเล่นที่ดีที่สุดสำหรับลูกวัยนี้คือพ่อแม่ การได้ปฏิสัมพันธ์กันพูดคุยสบตากัน ลูกจะมีพัฒนาการที่ดีกว่า และนี่คือเหตุผลที่เราอยู่ตรงนี้ เพราะเราอยากเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือคุณพ่อคุณแม่”
Parent’s Voice
“สิ่งที่เราคาดหวังจาก KiDO คือ อยากให้ลูกมีวินัย มีระเบียบ เข้าสังคมได้ ซึ่งผ่านไปแค่ 2 เดือนกว่าๆก็เห็นผลชัดแล้ว อย่างแต่ก่อนเขาเล่นของเล่นแล้วไม่เก็บ เดี๋ยวนี้ก็เล่นเองเก็บเอง โดยไม่ต้องบอก หรือเวลากินข้าวก็อยากกินด้วยตัวเอง แม่ไม่ต้องป้อน เก็บจานได้เอง รู้สึกเขามีความรับผิดชอบมากขึ้น การเข้าสังคมก็ดีขึ้นด้วย” คุณพ่อคุณแม่น้องซาวี (อายุ 2 ขวบ 2 เดือน)
“ครั้งแรกที่เข้ามาดูประทับใจเรื่องความปลอดภัยและความสะอาด พอตรงนี้ผ่านก็ลองให้ลูกมาเรียนดู ลูกติดใจมาก แฮปปี้กันทั้งบ้าน สังเกตว่าเขาร่าเริงมากขึ้น เรื่องวินัยดีขึ้น เดี๋ยวนี้การพาไปห้างไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป แต่ก่อนนี่ทิ้งตัวลงพื้นเลย เดี๋ยวนี้ดีขึ้นมาก เราก็สบายใจ อีกอย่างที่เมื่อก่อนเขาไม่เคยยกมือไหว้ใครเลยนะ ไหว้แต่พระ ตอนนี้ก็มือไม้อ่อนไหว้ง่ายขึ้น ประทับใจผู้ใหญ่ที่บ้านมาก แต่การมาเรียนที่นี่ไม่ใช่ได้เฉพาะลูกเท่านั้น พ่อแม่ก็ได้เรียนรู้วิธีการเลี้ยงลูก ได้คำแนะนำ เป็นการเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน” คุณพ่อน้องก้อง (อายุ 2 ขวบ)
Information
รับเด็กตั้งแต่อายุ 3 เดือน-4 ขวบ
KiDO Services:
Daycare จันทร์-ศุกร์ 7.30 น.-18.00 น. (สามารถเลือกได้แบบเต็มวัน / ครึ่งวัน / รายวัน / รายชั่วโมง)
After School 14.30 น.-18.00 น.
KiDO Camp แคมป์แสนสนุกทุกปิดเทอม
สนใจติดต่อ: 09-5364-1986 www.kidothailand.com