ลูกไปโรงเรียนวันแรก มักจะเป็นปัญหาใหญ่ของพ่อแม่มือใหม่เลยก็ว่าได้ เพราะวันแรกของการไปโรงเรียนอาจไม่ได้เป็นที่ต้องการของเด็กเล็กทุกคน ด้วยความที่ต้องห่างจากอกพ่อแม่ บวกกับสิ่งแวดล้อมแปลกใหม่ในโรงเรียน ที่มีทั้งเพื่อนใหม่ ทั้งคุณครู ก็ย่อมทำให้เจ้าตัวน้อยเกิดอาการงอแงต่อมน้ำตาแตกในเช้าวันเปิดเทอมแรกของชีวิตได้ค่ะ
ดังนั้นเพื่อให้วันแรกของการไปโรงเรียนเต็มไปด้วยความประทับใจ และมีความสุขที่จะส่งผลต่อไปถึงวันอื่นๆ ในการไปโรงเรียนของลูกรักตัวน้อย เราจึงมีคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ ในการรับมือเปิดเทอมวันแรกลูกไปโรงเรียนมาฝากกันค่ะ
ลูกไปโรงเรียนวันแรก จะให้ดีต้องสร้างความคุ้นเคยก่อนส่งเข้าโรงเรียน
การสร้างความคุ้นเคยก่อนส่ง ลูกไปโรงเรียนวันแรก ถามว่าจำเป็นไหม จำเป็นมากค่ะ เพราะอย่าลืมว่าเด็กเล็กๆ เขาจะคุ้นเคยอยู่กับสิ่งแวดล้อมเดิมๆ นั่นก็คือบ้านสถานที่ที่ปลอดภัย และมีคุณพ่อคุณแม่อยู่ใกล้ๆ ให้รู้สึกอุ่นใจอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อวันนึงที่ลูกต้องไปอยู่กับสิ่งแวดล้อมแปลกใหม่ที่มีผู้คนมากหน้าหลายตา เขาอาจเกิดความมั่นใจ รู้สึกกลัว และกังวล นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเด็กเล็กส่วนใหญ่มักจะร้องไห้ งอแง ในวันที่ต้องไปโรงเรียนวันแรก
ดังนั้นเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่สามารถรับมือวันแรกลูกไปโรงเรียนได้อย่างสบายใจ และไม่ต้องมานั่งกลุ้มใจว่าลูกจะมีความสุขกับคุณครู และเพื่อนใหม่ที่โรงเรียนหรือเปล่านั้น ลองมาดูคำแนะนำที่เป็นประโยชน์เหล่านี้กันค่ะ
1. ให้ข้อมูลด้านบวกกับลูก
ถ้าที่บ้านมีลูกคนโตที่ไปโรงเรียนแล้ว หรือมีเด็กน้อยข้างบ้านที่ไปโรงเรียนก่อนหน้าลูกของคุณพ่อคุณแม่ ถือเป็นเรื่องที่ดีค่ะ ทุกเช้าให้เจ้าตัวเล็กมีส่วนร่วมในการไปส่งพี่ๆ ที่โรงเรียน ถ้าบ้านไหนใช้บริการรถโรงเรียนรับ-ส่ง ก็ให้เขาได้เห็นว่าพี่ๆ ไปโรงเรียนมีความสุข และสนุกมากแค่ไหน
2. ให้ลองใส่ชุดเครื่องแบบนักเรียน
ชุดนักเรียนของพี่นี่แหละตัวช่วยที่ดี ไม่ว่าจะเป็นชุดนักเรียน ชุดพละออกกำลังกาย กระเป๋านักเรียน ฯลฯ ลองให้ลูกได้ใส่ของพี่ดูค่ะ เพื่อให้เขาได้รู้สึกว่าอยากใส่ อยากมีชุดนักเรียนแบบฟอร์มเป็นของตัวเองบ้าง คุณแม่สามารถชี้ชวนลูกว่า “ลองใส่ของพี่ดูก่อนว่าหนูชอบไหม ถ้าชอบเดี๋ยวแม่จะพาหนูไปลอง ไปซื้อให้หนูเป็นเจ้าของนะลูก” การป้อนข้อมูลด้านบวกกับลูกจะช่วยสร้างพลังบวก ทำให้เด็กๆ อยากไปโรงเรียนมากขึ้น
3. พาลูกไปดูโรงเรียนอนุบาล
ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะมีโรงเรียนอนุบาลเพื่อส่งลูกเข้าไปเรียนไว้กี่แห่งก็ตาม ขอให้พาลูกไปดูสถานที่จริงด้วยทุกครั้งก่อนตัดสินใจร่วมกัน เพื่อที่ลูกจะได้คุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นคุณครู เด็กนักเรียน บรรยากาศการเรียน บรรยากาศการเล่นสนุกที่สนามเด็กเล่นของโรงเรียน เป็นต้น และถ้าตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกโรงเรียนอนุบาลนี้ให้ลูก ก่อนเปิดเทอมก็ควรพาลูกแวะเวียนไปโรงเรียนเพื่อทำความรู้จักกับคุณครูประจำชั้นอนุบาล เพื่อนรุ่นพี่ ฯลฯ ด้วยนะคะ
4. พาลูกไปเลือกซื้อกระเป๋า อุปกรณ์การเรียน
โดยมากแล้วเด็กอนุบาลจะยังไม่มีอุปกรณ์การเรียน หรือเครื่องแบบนักเรียนที่เป็นฟอร์มเท่ากับเด็กชั้นประถมขึ้นไป ดังนั้นหลายๆ โรงเรียนอุบาลจึงค่อนข้างให้อิสระกับคุณพ่อคุณแม่ในการเตรียมอุปกรณ์ของใช้ให้ลูก และถึงแม้ชุดสำหรับเด็กอนุบาลโรงเรียนจะฟอร์มให้ใส่เหมือนกัน แต่ก็เป็นชุดที่น่ารัก สดใสถูกใจเด็กๆ ค่ะ ส่วนกระเป๋าหลายโรงเรียนให้เตรียมมาใช้เองได้ แต่ต้องเป็นกระเป๋านักเรียนที่ได้คุณภาพ เหมาะกับสรีระการใช้งานของเด็กเล็กๆ
ลูกไปโรงเรียนอย่างมีความสุข ต้องมีกระเป๋านักเรียนที่ถูกใจ
ใช่แล้วค่ะ เด็กๆ ต้องมีกระเป๋าที่รู้ใจ และถูกใจ เพราะจะยิ่งช่วยให้การไปโรงเรียนน่าสนุกประทับใจมากยิ่งขึ้น แนะนำว่าในเด็กเล็กๆ โดยเฉพาะที่อยู่ในวัยอนุบาล ด้วยรูปร่างสรีระโครงสร้างกระดูกที่ยังไม่แข็งแรงเท่ากับผู้ใหญ่ ไม่ควรให้ลูกต้องแบก หรือสะพายเป้ที่หนักมากเกินไป เพราะเดี๋ยวจะทำให้กระดูกสันหลังเบี้ยว คด ปวดหลัง ปวดไหล่ได้ค่ะ
แล้วกระเป๋านักเรียนแบบไหนละที่เหมาะกับลูก ?
ในกรณีที่โรงเรียนอนุบาลบางแห่งไม่ได้มีแบบกระเป๋านักเรียนที่เป็นฟอร์มให้ คุณพ่อคุณแม่สามารถหาซื้อเตรียมให้ลูกได้เองค่ะ แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ เป็นกระเป๋าที่ออกแบบมาได้มาตรฐานการใช้งานสำหรับเด็กเล็ก ทั้งกระเป๋าเป้สะพายหลัง หรือกระเป๋าลากจูง กระเป๋านักเรียนที่ดีควรช่วยซัพพอร์ตเวลาใช้งาน อย่าลืมว่าถึงจะอยู่ชั้นอนุบาล ก็มีของใช้ส่วนตัวรวมถึงอุปกรณ์การเรียนด้วย
ถ้าให้เปิดกระเป๋านักเรียนดู สิ่งมีก็จะเป็นพวก กระบอกน้ำ สมุด หนังสือหัดอ่านเขียน กล่องดินสอ ชุดสำรอง เสื้อกันหนาว เด็กบางคนเอาขนม นมกล่องเล็กๆ ไปด้วย รวมถึงของเล่นตัวโปรด เป็นต้น ดูเหมือนก็เป็นของเล็กๆ น้อยๆ ไม่เยอะเลย แต่ก็หนักอยู่นะคะ ยิ่งถ้าลูกตัวเล็กมากๆ การสะพายกระเป๋าที่มีน้ำหนัก ทำให้ไม่สบายตัว ปวดหลัง ไหล่ได้ค่ะ แนะนำว่าถ้าเปลี่ยนมาใช้เป็นกระเป๋าลากจูงก็จะช่วยให้เด็กๆ คล่องตัวมากขึ้นค่ะ
อย่างกระเป๋าล้อลากLittleLife ก็เป็นหนึ่งในกระเป๋านักเรียนที่เห็นหลายๆ ครอบครัวเลือกให้ลูกๆ ใช้ไปโรงเรียนกันมากค่ะ ด้วยขนาดกระเป๋าที่มีขนาดพอดีกับสรีระของเด็กๆ เช่นความสูงของขาลาก ล้อลากที่ทนทานได้มาตรฐาน และล้อลื่นลากง่าย จึงทำให้ช่วยผ่อนแรงเวลาลากจูงได้มากเลยค่ะที่สำคัญผลิตจากวัสดุที่ทนทานแต่มีน้ำหนักเบาเพื่อช่วยผ่อนแรงหนูน้อยหากต้องมีการยก ที่ถูกใจเด็กๆทุกคนก็คือการออกแบบลวดลายทั้งดีไซน์และสีสันของกระเป๋าก็น่ารักน่าใช้ เป็นรูปสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไดโนเสาร์ เต่า ผึ้ง เต่าทอง ดีไซน์เหล่านี้ช่วยส่งเสริมจินตนาการกับเหมาะเด็กที่กำลังอยู่ในวัยเข้าโรงเรียนเหมือนกับว่าเขาพาเพื่อนสนิทรู้ใจไปโรงเรียนด้วยทุกวันอีกด้วยค่ะ
ทำไมต้องกระเป๋าLittleLife
- กระเป๋าสะพายหลัง กระเป๋าล้อลากLittleLife ได้ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานยุโรปทุกปีว่าทนทานแน่นหนาและมั่นใจได้ว่าสามารถรับน้ำหนักได้ดี น้ำหนักเบา ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อสรีระของเด็กๆสายสะพายนุ่มไม่เจ็บและปรับขนาดได้ให้กระชับตัว ขนาดกระเป๋าจะไม่ใหญ่เกินไปเพราะการให้น้องสะพายกระเป๋าที่ใหญ่เกินไปนั้นจะทำให้แบกรับน้ำหนักมากไป และนำไปสู่ปัญหากระดูกสันหลังคดได้ สำหรับกระเป๋าล้อลากก็เช่นกัน กระเป๋าล้อลากLittelLifeออกแบบมาอย่างดีด้วยวัสดุที่ทนทานแต่มีน้ำหนักเบา หูลากมีความสูงที่พอดีกับน้อง ล้อลากลื่น ทนทาน รับน้ำหนักได้ดี แถมยังดีไซน์น่ารักอีกด้วย
- กระเป๋า LittleLife ผลิตจากวัตถุดิบที่ปลอดภัยสีที่เลือกใช้บนผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเป็นสีปลอดภัยผ่านการทดสอบแล้วว่าปลอดภัยแม้น้องจะเอาเข้าปาd
- ใช้วัสดุที่ทนทานทำความสะอาดง่ายเพียงใช้ผ้าเปียกเช็ด
- ผ่านการทดสอบการติดไฟตามมาตรฐานอุตสาหกรรมสิ่งทอ
การเตรียมในทุกเรื่องก่อนโรงเรียนเปิดเทอมเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมทั้งจิตใจ ร่างกายของลูกในการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ที่โรงเรียน รวมถึงความพร้อมของอุปกรณ์ของใช้ โดยเฉพาะกระเป๋านักเรียนที่เป็นหนึ่งในของใช้คู่กายที่ตามติดเด็กๆ ไปโรงเรียนในทุกวัน ก็ต้องเป็นกระเป๋าที่เด็กๆ ใช้แล้วถูกใจ ประทับใจเป็นคู่หูกันไปตลอดการเรียนที่โรงเรียนด้วยนะคะ
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับเป้จูงLittleLife สามารถติดตามได้ที่เพจ https://www.facebook.com/LittleLifeTH หรือช้อปปิ้งผ่านเวปไซท์ของเราได้ที่ www.morepurestore.com