โรงเรียน

ถ้าพูดถึงโรงเรียนสองภาษา หรือ Bilingual ในประเทศไทยก็มีอยู่หลายแห่งที่เปิดสอนหลักสูตรนี้ แต่สำหรับโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิต ที่นี่ไม่ได้เน้นเฉพาะเรื่องภาษาเท่านั้น แต่ยังปลูกฝังทักษะรอบด้านให้แก่เด็กๆ เพื่อการก้าวสู่โลกกว้างอย่างมีคุณภาพในอนาคต เรียลพาเรนติ้งมีโอกาสได้พูดคุยกับผู้บริหารคนเก่ง อย่าง ดร.อภิรมณ อุไรรัตน์ หรือคุณปิ๋ม เธอจะมาเล่าเรื่องราวของโรงเรียนแห่งนี้ให้เรารู้จักกันค่ะ               หลักสูตรทวิภาษาแบบองค์รวม             “บ้านเราทำธุรกิจเกี่ยวกับการศึกษามานาน เราพบว่าปัญหาของเด็กไทยส่วนใหญ่ไม่สามารถเก่งภาษาอังกฤษได้ ไม่ว่าจะเรียนมากี่สิบปี เราจึงหาหลักสูตรที่จะมาช่วยเติมเต็มในส่วนที่มันหายไป ดังนั้นหลักสูตรที่เหมาะสำหรับเด็กไทย คือหลักสูตรสองภาษา เราจึงนำหลักสูตรนานาชาติเข้ามาผสมผสานกับหลักสูตรไทย ทำให้เกิดหลักสูตรที่เรียกว่าทวิภาษาแบบองค์รวม ซึ่งจะทำให้เด็กพูดได้ทั้งสองภาษาอย่างเป็นธรรมชาติ มีความสามารถในเรื่องการคิดวิเคราะห์ มีความเป็นผู้นำ กล้าแสดงออก นอกจากนี้เรายังทำวิจัยควบคู่ไปเรื่อยๆ เพื่อปรับพัฒนาหลักสูตรให้เหมาะกับผู้เรียนจริงๆ”               เตรียมความพร้อมให้น้องอนุบาล             โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิตเปิดรับเด็กตั้งแต่ชั้นเตรียมอนุบาลหรือ Toddler ที่นี่เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของเด็กๆ ทั้งในเรื่องความปลอดภัยของสถานที่และบรรยากาศการเรียนรู้นั้นเอื้อต่อความต้องการของเด็กๆ ส่วนในเรื่องการเรียนการสอนจะเน้นเรื่องเตรียมความพร้อมก่อน “เราเชื่อว่าก่อนที่เด็กจะเรียนรู้ได้ดี เขาต้องพร้อมก่อนทั้งด้านร่างกาย สมอง และจิตใจ เพราะเมื่อพร้อมแล้วเขาก็จะเรียนอย่างมีความสุข อีกเรื่องหนึ่งคือเราต้องการให้เขาเป็นคนที่อยากจะเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะฉะนั้นเราต้องทำให้เขามีความสุขที่จะเรียนรู้ ความอยากตรงนั้นจะเกิดเมื่อเขาพร้อม ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปเร่งให้เขาโตเร็ว ไม่ต้องให้อ่านหนังสือพิมพ์ได้ตั้งแต่ 3 ขวบ ค่อยๆให้เขาเรียนรู้อย่างเป็นธรรมชาติ ดังนั้นเราจึงจัดคุณครู […]

เราใช้พื้นที่เป็น 3 เท่า คือ ห้องเรียน มีห้องน้ำห้องส้วมในตัวเพื่อความปลอดภัย ส่วนเวลานอนเราก็มีห้องนอนที่แยกออกไป ถึงจะนอนแค่วันละ 2 ชั่วโมง แต่เราก็ยอมลงทุน เหมือนเรามีบ้านเราก็ต้องมีห้องนอน เพราะครึ่งชีวิตเขาต้องมาโตที่นี่ เราก็อยากให้เขาโตในบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม

การเรียนการสอนของโรงเรียนแห่งนี้เน้นให้สอดคล้องกับวิถีธรรมชาติของเด็กมากที่สุด “เราบูรณาการทั้งด้านวิชาการ ร่างกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญา และจิตใจ เข้าไปสู่กระบวนการที่เด็ก ๆ ชอบ คือ การเล่น ศิลปะ ดนตรี และการเคลื่อนไหว”

ตั้งแต่ต้นปีถึงปลายปี 2558 ทีมงานคอลัมน์ School Visit มีโอกาสไปเยี่ยมชมโรงเรียนที่มีบรรยากาศและหลักสูตรแตกต่างกันไป ทุกโรงเรียนล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสร้างความประทับใจให้ทีมงาน สำหรับฉบับส่งท้ายปีเราขอเลือก 4 โรงเรียนที่ตรงกับคอนเซ็ปต์ Fami+link มาฝากคุณผู้อ่านกันค่ะ

โรงเรียนเราเป็นโรงเรียนเล็ก ๆ เวลาทำกิจกรรมอะไรเราก็ทำด้วยกันทั้งโรงเรียน คุณครูจะรู้จักเด็กนักเรียนทุกคน รู้จักผู้ปกครองเด็ก ส่วนผู้ปกครองท่านไหนมีความเชี่ยวชาญเรื่องที่ตรงกับหน่วยการเรียนของเด็กๆ พอดี เราก็จะชักชวนมาแลกเปลี่ยนความรู้หรือทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ด้วย

กีฬาประเภทนี้ล่อแหลมเรื่องความปลอดภัย องค์ประกอบหลักๆที่จะทำโรงเรียนสอนขี่ม้าได้ คือ หนึ่ง สถานที่ที่เหมาะสม มีรั้วรอบขอบชิดให้ดี สอง ม้าที่ซื่อสัตย์ เรื่องนี้สำคัญมากจะต้องได้ม้าที่เทคแคร์เด็ก คือได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี รวมถึงนิสัยใจคอต้องเป็นม้าไม่ขี้ตกใจ ไม่ตื่นเต้นง่าย เวลามีเสียงโครมคราม

สมัยเรียน หลายคนฝันไว้ว่าอยากจะให้มีสไลเดอร์ลงมาชั้น 1 เพราะขี้เกียจลงบันได ไอเดียนี้ทำจริงกว่า 6 ปีแล้วที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งมิวนิค ประเทศเยอรมนี

ใจกลางถนนราชพฤกษ์เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปไม่ไกล เป็นที่ตั้งของอาคารรูปทรงแปลกตา

ในคลาสบัลเล่ต์ที่เราได้เข้าไปแอบดูเด็กๆ ตัวน้อยเต้นกัน

ความก้าวหน้าทางวัตถุและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตของเรามากขึ้นจนปฎิเสธไม่ได้

บ้านไม้หลังสวยที่ซ่อนตัวอยู่ในสวนเขียวครึ้มแห่งนี้เป็นทั้งบ้านและโรงเรียนสอนศิลปะของศิลปินอารมณ์ดี

ถ้าถามว่าความสุขของคนเป็นพ่อเป็นแม่คืออะไร เรามักจะได้คำตอบอย่างรวดเร็วจนแทบไม่ต้องเสียเวลาคิด

จุดเริ่มต้นของโรงเรียนแห่งนี้มาจากกลุ่มผู้ก่อตั้งที่อยากให้ประเทศไทยมีโรงเรียนที่มีคุณภาพ

ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือเด็กๆ กำลังนั่งสมาธิฟังเสียงบรรยายธรรมกันอย่างเงียบสงบ

ย้อนกลับไปเมื่อ 18 ปีที่แล้ว สำนักพิมพ์ประสานมิตร ผู้สร้างสรรค์ตำราเรียนคุณภาพที่อยู่คู่กับวงการศึกษาไทย มายาวนาน ได้ก่อตั้งโรงเรียนประสานมิตรขึ้น

“เราเตรียมความพร้อมเด็กของเรามาตั้งนานแล้ว และไม่ใช่เตรียมเพื่อเข้าสู่ระดับอาเซียนเท่านั้น เพราะเด็กของเราไปอยู่ที่ไหนในโลกก็ได้ รับรองไม่แพ้ใครแน่นอน”

โรงเรียนอนุบาลนานาชาติแห่งใหม่ย่านสุขุมวิท แม้ชื่อ “เอบีซี แพทเวยส์” อาจจะยังไม่คุ้นหูคุณพ่อคุณแม่เท่าไหร่นัก แต่สำหรับประเทศฮ่องกง ชื่อนี้เป็นที่รู้จักกันดี

โรงเรียนอนุบาล “Die Katzie” ที่มีตึกรูปแมวแห่งนี้อยู่ที่เมือง Karlsruhe