โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ได้ชื่อว่าเป็นโรงเรียนนานาชาติซึ่งเป็นที่ใฝ่ฝันของพ่อแม่ผู้ปกครองจำนวนมากที่ต้องการส่งบุตรหลานเข้าเรียน เนื่องจากชื่อเสียงอันโด่งดังที่สั่งสมมาเป็นระยะเวลายาวนานถึง 15 ปี
นับตั้งแต่ก่อตั้งในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2546 โดยนายชาลี โสภณพนิช ผู้ก่อตั้ง พร้อมด้วยนายสตีเฟน ฮอลลอยด์ ผู้ร่วมปลุกปั้น โชรส์เบอรี กรุงเทพ มายาวนาน 13 ปี และโดยการสนับสนุนของโรงเรียนโชรส์เบอรี ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาอันทรงเกียรติในประเทศอังกฤษ สร้างชื่อให้ ‘โชรส์เบอรี กรุงเทพฯ’ กลายเป็นที่กล่าวขานถึงและได้รับการยอมรับโดยทั่วไป ในเรื่องการเป็นโรงเรียนนานาชาติที่ใช้หลักสูตรอังกฤษที่แข็งแกร่งและเป็นเลิศ และเป็นสถานศึกษาที่บ่มเพาะเยาวชนให้เติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพและประสบความสำเร็จทั้งในด้านวิชาการและมีศักยภาพรอบด้าน จนได้รับการจัดอันดับให้เป็นโรงเรียนนานาชาติที่ดีที่สุดในเอเชียมาอย่างต่อเนื่อง
โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กับรางวัลโรงเรียนนานาชาติยอดเยี่ยม
ล่าสุด โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ได้ไปสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยบนเวทีระดับโลก ด้วยการคว้ารางวัลชนะเลิศ เป็นโรงเรียนนานาชาติยอดเยี่ยมอันดับหนึ่งในโลก ประจำปี 2562 (International School of the Year Award 2019) ในสาขาการพัฒนาศักยภาพและสนับสนุนนักเรียนให้เข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลกได้ (International School of the Year Award 2019 – Initiative to Support Students Pathways to College/University Education) เป็นการเอาชนะโรงเรียนนานาชาติจากทั่วโลกจำนวน 10,282 โรงเรียนที่เปิดการเรียนการสอนอยู่ในปัจจุบัน และมีโรงเรียนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลอันทรงเกียรตินี้จำนวนกว่า 230 โรงเรียน โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทำการพิจารณาคัดเลือกผู้ชนะในแต่ละสาขา และจัดพิธีมอบรางวัลอย่างสมเกียรติที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งการคว้ารางวัลโรงเรียนนานาชาติยอดเยี่ยมแห่งปี ของโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ถือเป็นการช่วยสร้างชื่อเสียงที่ดีให้กับวงการการศึกษาของประเทศไทย ทำให้มีภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับมากยิ่งขึ้นในสายตาของคนทั่วโลก ในเรื่องของคุณภาพการศึกษาซึ่งไม่เป็นรองที่ใดในโลก
มากไปกว่าการได้รับรางวัลโรงเรียนนานาชาติยอดเยี่ยมแห่งปีบนเวทีระดับโลก ยังมีอีกหนึ่งเครื่องพิสูจน์ความเป็นเลิศของโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ก็คือการสร้างเยาวชนคุณภาพ ที่มีความรู้ความสามารถ มีศักยภาพอย่างรอบด้าน และสามารถคว้าสิทธิ์เข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัยชื่อดังที่อยู่ในกลุ่มมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลกได้จริง อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดทั้งมหาวิทยาลัยกลุ่มในกลุ่มอ๊อกซ์บริดจ์ และมหาวิทยาลัยกลุ่มไอวี่ลีก ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยกลุ่มอ๊อกซ์บริดจ์ ได้แก่ มหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด และมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และมหาวิทยาลัยกลุ่มไอวี่ลีก อาทิ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยเยล มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์, และ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย โดยถ้านับเฉพาะ 2 ในปีการศึกษาล่าสุด พบว่า มีนักเรียนของโชรส์เบอรี กรุงเทพ สามารถคว้าสิทธิ์เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลกอย่างอ๊อกซ์ฟอร์ด เคมบริดจ์ และกลุ่มไอวี่ลีก ได้เป็นจำนวนมากถึงเกือบ 30 คน
นายสตีเฟน ฮอลลอยด์ ผู้อำนวยการ โรงเรียนโชรส์เบอรี อินเตอร์เนชั่นแนล เอเชีย ซึ่งดูแลรับผิดชอบโรงเรียนนานาชาติโรงเรียนโชรส์เบอรี ในภูมิภาคเอเชีย และเป็นนักการศึกษาผู้มีประสบการณ์ในประเทศไทยมีส่วนร่วมในการปลุกปั้นโชรส์เบอรี กรุงเทพ มายาวนานถึง 13 ปี กล่าวว่า “สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งเบื้องหลังความสำเร็จของการอบรมบ่มเพาะนักเรียนของโชรส์เบอรี กรุงเทพ ให้เติบโตขึ้นเป็นเยาวชนที่มีคุณภาพ พร้อมก้าวไปสู่โลกในอนาคตได้อย่างแข็งแกร่งและมั่นคง ตลอดจนเลือกเส้นทางที่เหมาะสม ตามความชอบและความถนัดของตนเองได้เป็นอย่างดีก็คือ การทำงานอย่างเข้มข้นและใกล้ชิดกับตัวนักเรียนเองและกับพ่อแม่ผู้ปกครองของนักเรียนทุกคน โดยทีมงานครูฝ่าย Higher Education Department ของโชรส์เบอรี กรุงเทพ ผู้มากไปด้วยประสบการณ์ในการแนะแนวอย่างแท้จริง ซึ่งจะทำหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับเส้นทางการศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยของนักเรียน โดยมีทีมแนะแนวเฉพาะสำหรับการศึกษาต่อในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และประเทศไทยแยกเป็นพิเศษด้วย โดยจะให้ความรู้ ให้คำแนะนำที่ลงลึก ตลอดจนเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนและผู้ปกครองเกี่ยวกับกระบวนการเตรียมตัวไปจนถึงกระบวนการสมัครเข้าศึกษาต่อในสถาบัน และในสาขาวิชาที่เล็งเห็นแล้วว่าเหมาะสมที่สุดกับตัวนักเรียน ผ่านการพิจารณาร่วมกันจากศักยภาพ ความสนใจ และความถนัดของนักเรียนแต่ละคน เพื่อขับเคลื่อนให้ทุกคนประสบความสำเร็จสูงสุดตามสิ่งที่ตนถนัด นี่คืออีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่สร้างความแตกต่างให้กับโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ”
นายสตีเฟ่นกล่าวทิ้งท้ายว่า “อาจมีพ่อแม่ผู้ปกครองจำนวนนึง มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง เช่น คิดว่าโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ เต็มตลอด หรือไม่มีที่ว่างสำหรับบุตรหลานให้เข้าเรียนที่นี่อย่างแน่นอนนั้น ทางโรงเรียนอยากบอกว่าไม่ถูกต้อง อย่าเพิ่งคิดเช่นนั้น และอย่าปิดโอกาสของบุตรหลานไปเสียก่อน เพราะการให้บุตรหลานได้เข้าสู่ระบบการศึกษาคุณภาพ ตั้งแต่วัยอนุบาล ประถม และมัธยม ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งเป็นเรื่องดี เพราะจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญมากกับชีวิตในอนาคตของเด็กๆ และมีส่วนช่วยให้เด็กๆ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและประสบความสำเร็จในชีวิตได้ โดยโชรส์เบอรี กรุงเทพ อยากจะเรียนเชิญพ่อแม่ผู้ปกครองที่กำลังมองหาสถานศึกษาคุณภาพให้แก่บุตรหลานในทุกระดับชั้นการเรียนการสอน ให้ติดต่อสอบถามเข้ามาก่อน โดยสามารถดูข้อมูลได้ทางเว็บไซต์ www.shrewsbury.ac.th และสามารถทำการนัดหมายเพื่อเข้าพบพูดคุยกับครูใหญ่หรือทีมครูผู้สอน รวมทั้งเยี่ยมชมห้องเรียนและบรรยากาศการเรียนการสอนได้ทั้งที่โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ – ริเวอร์ไซด์ แคมปัส และ ซิตี้ แคมปัส ซึ่งทั้งสองแคมปัสมีคุณภาพมาตรฐานเช่นเดียวกันทุกประการ โดยนักเรียนที่จบจาก ซิตี้ แคมปัส จะได้รับการการันตีได้รับสิทธิ์ให้เข้าศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาที่ ริเวอร์ไซด์ แคมปัส ด้วย นี่จึงถือเป็นโอกาสดีที่เปิดกว้างมากยิ่งขึ้นสำหรับเด็กวัยแรกเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลและประถมศึกษา”