ทำลายสมองลูก
12 พฤติกรรม ทำลายสมองลูก ที่พ่อเเม่ยุคใหม่ควรรู้
การดูแลพัฒนาการสมองของลูกน้อย เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณพ่อกับคุณแม่ให้ความสำคัญ เพราะพัฒนาการสมองของลูกควรได้พัฒนาอย่างเหมาะสมในทุกช่วงอายุ โดยเฉพาะวัยก่อน 3 ขวบปีที่สมองจะเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ แต่ปัจจุบัน ความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันกลับทำให้วิธีเลี้ยงดูลูกน้อยเปลี่ยนแปลงไป พ่อแม่เล่นกับลูกน้อยลง ลูกดูเข้าถึงหน้าจอเร็วและนานขึ้น อาหารสำเร็จรูปที่สั่งปุ๊บได้กินปุั๊บ กลายเป็นดาบสองคมที่กลับไป ทำลายสมองลูก เรามาลองเช็คกันดีกว่าค่ะ ว่ามีอะไรบ้างที่เป็นศัตรูตัวฉกาจต่อพัฒนาการสมองของลูกน้อย ก่อนจะปล่อยให้สายเกินไป เช็ค 12 พฤติกรรมควรเลี่ยงเสี่ยง ทำลายสมองลูก สมองคืออวัยวะสำคัญที่ควบคุมกลไกการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ รวมถึงใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน บันทึกความทรงจำ อารมณ์ ความรู้สึก รวมทั้งสติปัญญาที่เราใช้ในการแสดงศักยภาพ นอกจากการส่งเสริมทักษะรอบด้านที่ช่วยพัฒนาสมองของลูกน้อยแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรหลีกเลี่ยงสิ่งอันตรายที่สามารถสมองลูกได้โดยไม่รู้ตัว ซึ่งมีดังต่อไปนี้ 1. ปล่อยให้ลูกเล่นโทรศัพท์มือถือ/แท็บเล็ต นานเกินไป พ่อแม่บ้านไหนที่กำลังวนเวียนอยู่กับ “ฝากลูกไว้กับหน้าจอ” อาจต้องปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลลูก หลาย ๆ บ้านเพียงแค่ยื่นมือถือหรือแท็บเล็ตให้เด็ก ๆ ทุกอย่างก็จะสงบ ลูกน้อยนิ่งเงียบ ไม่ซุกซนรบกวน ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการทำร้ายลูกน้อยโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ด้วยเพราะ ภาพในหน้าจอ รวมถึงแสง สี มีการเปลี่ยนค่อนข้างไว ทำให้เด็กคุ้นเคยกับความรวดเร็ว ส่งผลให้เด็กมีอาการสมาธิสั้น เเต่ในยุคสมัยนี้อาจเป็นเรื่องยากที่จะเลี่ยงไม่ให้ลูก เเตะโทรศัพท์มือถือ แต่ควรมีการควบคุมระยะเวลาให้เหมาะสมตามวัยของเด็ก ๆ […]
สมองเด็กที่ถูกเลี้ยงด้วยความรุนแรง กับเด็กปกติ
คุณพ่อ คุณแม่เคยได้ยินคำนี้มั้ยคะ “เด็กจะดี จะชั่ว ขึ้นอยู่กับตัวของเขาเอง” ความคิดนี้อาจจะไม่ใช่ความจริงเสมอไป เพราะการที่เด็กคนหนึ่งจะเติบโตขึ้นมาเป็นคนดีที่สมบูรณ์นั้น ต้องใช้ปัจจัยหลายๆ อย่างประกอบกัน รวมถึง การเลี้ยงดู ของพ่อแม่ ที่อาจจะเปลี่ยนโลกของเขาทั้งใบ
รวม 11 วายร้าย ทำลายสมองลูก พ่อแม่ไม่ควรละเลย!
วายร้าย ทำลายสมองลูก ในยุคดิจิตอลที่ผู้คนชอบสะสมความเครียดแทนการใช้สอยความสุข แน่นอนว่าสมองต้องรับบทหนัก คิด วิเคราะห์เรื่องราวต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา ไม่เว้นแม้กระทั่งกับเด็กก็ตาม ก็ได้รับผลกระทบจากสิ่งรอบ ๆ ข้างนี้อยู่มิใช่น้อย
เตือนพ่อแม่ ทะเลาะกันที่ไหนก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ต่อหน้าลูก! อย่าหาทำ พัฒนาการลูกถดถอย
ครอบครัวใดกำลังเผชิญปัญหา พ่อแม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาหลังคลอด ที่ทุกๆ อย่างเปลี่ยนไป ทั้งสภาพจิตใจ ความเหน็ดเหนื่อย ความไม่เข้าใจกันของคุณแม่-คุณพ่อ เหล่านี้ล้วนส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาของสมองลูกน้อย มีงานวิจัยจากสหรัฐอเมริกาชิ้นหนึ่งชี้ว่า สมองของเด็กทารก “เปิดรับ” และมีการจดจำเสียงแห่งความโกรธเกรี้ยวของพ่อแม่ สิ่งแวดล้อม เอาไว้ทั้งหมด แม้ว่าเด็กๆ จะกำลังนอนหลับอยู่ก็ตาม!! พ่อแม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูก กระทบพัฒนาการสมองของลูกน้อย การศึกษาชิ้นนี้เป็นของมหาวิทยาลัยโอเรกอน ซึ่งนักวิจัยได้ใช้เครื่อง MRI ทำการสแกนสมองของเด็กทารกจำนวน 20 คนในระหว่างนอนหลับอยู่ภายในเครื่อง MRI โดยนักวิจัยพบว่า สมองของเด็กทารกเหล่านี้มีการตอบสนองต่อเสียงต่างๆ รวมถึงเสียงของความสุข เสียงของความโกรธเกรี้ยวด้วย ทั้งนี้ นักวิจัยพบว่า เด็กทารกที่อาศัยอยู่ในบ้านที่มีความขัดแย้งสูง สมองส่วนที่เชื่อมโยงกับความเครียด และอารมณ์ของเด็กกลุ่มนี้มีการตอบสนองต่อเสียงของความโกรธอย่างเห็นได้ชัด ที่เป็นเช่นนี้ เพราะสมองของเด็กทารกแรกคลอดนั้นกำลังเปิดรับทุกสิ่งทุกอย่าง ซึ่งหากพ่อแม่ของพวกเขาเกิดโต้เถียงกันในขณะที่สมองกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ก็อาจทำให้ลูกรักเสี่ยงต่อการมีปัญหาทางพัฒนาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทารกที่ถูกทอดทิ้ง หรือถูกล่วงละเมิด ขณะที่การทดลองก่อนหน้านี้ ซึ่งศึกษาในสัตว์ก็พบว่า มีผลกระทบต่อสมองเช่นเดียวกัน นอกจากนั้น ยังมีงานวิจัยที่ชี้ว่า ความเครียด และความโกรธยังอาจส่งถึงทารกได้ตั้งแต่ในครรภ์อีกด้วย โดยนักวิจัยพบว่า แม่ที่ตั้งครรภ์สามารถส่งผ่านความเครียดไปสู่ทารกน้อยได้ผ่านรกนั่นเอง…และอาจนำไปสู่การอธิบายถึงความเชื่อมโยงระหว่างความเครียดระหว่างตั้งครรภ์ของแม่กับภาวะผิดปกติที่เกิดกับทารกน้อย เช่น ภาวะออทิสซึม ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้มากขึ้นในปัจจุบันด้วยนั่นเอง อ่านต่อ >> “เด็กที่มีปัญหาพ่อแม่ทะเลาะกันมีลักษณะอย่างไร?” คลิกหน้า […]