4. จอมโวยวาย ทำลายข้าวของ
การยับยั้งชั่งใจของเด็กผู้ชายอาจมีน้อยกว่าเด็กผู้หญิง บางครั้งไม่ได้อะไรดั่งใจ หรือถูกเลี้ยงดูมาแบบตามใจ แล้วพอวันนึงไม่ได้อย่างที่เคยได้ พ่อแม่เตรียบรับมือกันไว้เลย โวยวายบ้านแตกนะจะบอกให้ เพื่อไม่ให้ลูกติดเป็นนิสัยไปจนโต เพราะเสี่ยงที่เด็กผู้ชายจะเก็บกดอารมณ์รุนแรงมากขึ้น แนะนำว่าควรเลี้ยงลูกแบบไม่ตามใจ หากลูกอยากได้ของเล่นเพิ่ม พ่อแม่ต้องมีวิธีสอน เช่น หนูมีหุ่นยนต์แบบเดียวกันกับตัวนี้ที่บ้านแล้วนะลูก แม่ว่าถ้าซื้อไปใหม่ พี่หุ่นยนต์ตัวเก่าต้องเสียใจเพราะไม่มีเพื่อนเล่นด้วยแล้วแน่เลย การค่อยๆ บอก ค่อยๆ สอนให้ลูกเห็นถึงความจำเป็นของข้าวของเครื่องใช้ หรือของเล่นต่างๆ จะช่วยให้ลูกเป็นเด็กคิดเป็นมากขึ้นค่ะ
5. เริ่มมีโลกส่วนตัว
ช่วงเวลาหอมหวานของคนเป็นแม่เริ่มจะหมดไปแล้วค่ะ กับเด็กผู้ชายส่วนใหญ่เริ่มที่จะมีโลกส่วนตัวมากขึ้นตอนที่เริ่มชั้นเรียนสูงกว่าระดับอนุบาล ลูกจะเริ่มมีเพื่อน เริ่มมีเรื่องที่ชอบมากจากตอนเป็นเด็ก ทำให้เขาอยู่แต่กับสิ่งที่ชอบ หรือเด็กผู้ชายบางคนถ้าชอบเรียนหนังสือมากก็จะเคร่งเครียดเอาแต่เรื่องเรียน จนไม่สนเรื่องอื่น รวมทั้งจะให้มาอ้อนแม่ กอดขาพ่อเหมือนตอนเป็นเด็กเล็กๆ เห็นทีจะยากค่ะ ดังนั้นสิ่งสำคัญสุดคือ พ่อแม่ต้องเปลี่ยนการเลี้ยงดูลูก ยิ่งกับเด็กผู้ชาย เราต้องทำปรับตัวเองให้เหมือนเพื่อนลูก ลูกชอบอะไร สนใจอะไร เราก็ชอบไปกับเขาด้วย เพื่อให้รู้สึกว่าพ่อกับแม่เปิดใจให้ แล้วลูกจะเปิดใจรับเราอีกครั้ง แถมจะหันมาปรึกษาเราทุกเรื่องด้วย และไม่ควรดุด่าลูกรุนแรง เด็กผู้ชายต้องค่อยๆ ใช้น้ำเย็นเข้าลูบค่ะ
6. เสียงเริ่มแตกหนุ่ม
สำหรับคุณแม่ที่ยังมีลูกชายวัยกระเตาะอยู่ อาจมองว่าอีกนานกว่าลูกจะเป็นหนุ่ม แต่รู้ไว้ก่อนก็ใช่เรื่องเสียใช่ไหมละคะ เมื่อลูกชายอายุเริ่มเข้า 12-14 ปี จะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย จากเด็กน้อยน่ารักแบ้วๆ ของแม่ ก็จะเริ่มกลายเป็นเด็กหนุ่มหล่อเฟี้ยวกันแล้วค่ะ ลูกจะเริ่มเสียงแตก(เกิดจากฮอร์โมนเพศชายที่มาจากลูกอัณฑะที่เจริญเต็มที่แล้ว มากระตุ้นให้เซลล์ที่กล่องเสียงเปลี่ยนแปลงทำให้เสียงแตก)(1)
อ่านต่อ >> “10 เรื่องที่ พ่อแม่ต้องเจอ เมื่อมีลูกชาย” หน้า 4
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่