ลูกถ่ายเหลว หรือ อาเจียน 7 เรื่องต้องรู้ - amarinbabyandkids
ลูกถ่ายเหลว หรือ อาเจียน

7 เรื่องควรรู้ ลูกถ่ายเหลว หรือ อาเจียน

Alternative Textaccount_circle
event
ลูกถ่ายเหลว หรือ อาเจียน
ลูกถ่ายเหลว หรือ อาเจียน

ลูกถ่ายเหลว หรือ อาเจียน 7 เรื่องต้องรู้ !!

1. ไม่ต้องรู้ว่า ถ่ายเหลว อาเจียน เกิดจากเชื้ออะไร แพทย์ก็รักษาหายได้

สาเหตุหลักของการเกิดอุจจาระร่วง หรือการอาเจียนในเด็กก็คือการติดเชื้อ เชื้ออันดับ 1 คือ ไวรัสโรต้า และ โนโรไวรัส (Norovirus ชื่อเดิม Norwalk) ซึ่งการถ่ายเหลวจากการติดเชื้อไวรัสที่สังเกตได้ คือ ถ่ายเป็นน้ำ พรวดๆ  ถ่ายทีชุ่มผ้าอ้อม เด็กทารก (อายุน้อยกว่า 1 ปี) จะเพลียอย่างรวดเร็วมาก เพราะจะอย่างไรก็จะไม่สามารถกินน้ำเกลือแร่ทดแทนได้ทันกับที่เสียไปอันดับ 2 คือ แบคทีเรียซึ่งหากเกิดจากตัวเชื้อเอง เชื้อจะเจาะทำลายผนังลำไส้ก็จะทำให้ถ่ายเป็นมูก อาจมีเลือดปนแต่หากเป็นการถ่ายเหลวที่เกิดจากสารพิษที่แบคทีเรียปล่อยเข้าไปในกระแสเลือดก็อาจถ่ายเหลวเป็นน้ำได้เหมือนไวรัสหรือบางทีจะมีอาเจียน

สรุปไม่ว่าจะเป็นไวรัส หรือแบคทีเรียเพียงแค่การซักประวัติ และตรวจร่างกายแพทย์ก็สามารถให้การรักษาได้ โดยไม่ต้องรอผลว่าติดไวรัสตัวไหนแบคทีเรียตัวไหนืและเด็กก็สามารถหายได้ เพราะจริงๆ แล้วภูมิคุ้มกันในตัวเด็กคือพระเอกตัวจริง

 

2. หัวใจสำคัญที่สุดในการรักษาภาวะถ่ายเหลว คือการให้สารน้ำ เพื่อทดแทนน้ำและเกลือแร่ ไม่ใช่ยาปฏิชีวนะ

สิ่งที่อันตรายที่สุดหากเด็กมีภาวะถ่ายเหลว หรืออาเจียน คือ ภาวะช็อคจากการขาดน้ำและเกลือแร่ เพราะฉะนั้นการรักษาที่สำคัญที่สุดไม่ใช่การจับเชื้อมาฆ่า แต่เป็นการทดแทนน้ำและเกลือแร่ที่ร่างกายสูญเสียไป  สารน้ำเกลือแร่ที่ใช้ทดแทน เรียกว่า ORS ซึ่งจะเป็นสารน้ำที่ผ่านการทดลองมาแล้วว่าจะช่วยทดแทนเกลือแร่ได้เร็วที่สุด ดีที่สุดมีน้ำตาล และเกลือในสัดส่วนที่ลำไส้จะดูดซึมได้ดีพอดี ซึ่ง ORS ไม่ใช่เกลือแร่ทดแทนสำหรับผู้เสียเหงื่อและไม่ใช่น้ำผลไม้ หรือน้ำอัดลมใส่เกลือ เด็กที่อาเจียนเด่นกว่าถ่ายเหลวจะรักษาที่บ้านได้ยากมาก เพราะยากินต้องการเวลาในการดูดซึม ถ้าลูกอาเจียนตลอดเวลาแนะนำว่าพาไปพบแพทย์ดีกว่าค่ะ

 

3. การกินน้ำแร่ OKR ต้องกินช้า

คนส่วนใหญ่รู้ว่าเวลาท้องเสีย อาเจียน กิน ORS แต่ตกม้าตายตรงที่ดื่มพรวดเข้าไปแบบนั้น จะยิ่งทำให้ถ่ายเหลวมากขึ้นค่ะ  ซึ่งการกินที่ถูกต้องคือต้องจิบช้าๆ เพราะ ORS มีความเข้มข้นมากดื่มเข้าไปปริมาณมาก ก็จะดูดน้ำจากผนังลำไส้เข้ามาในโพรงลำไส้แล้วก็ถ่ายออกมาเป็น ORS+น้ำที่ถูกดูดออกมา ยิ่งจะทำให้สูญเสียน้ำและเกลือแร่หนักกว่าเดิม  ในเด็กก็เช่นกันดีที่สุดคือใช้ช้อน หรือ syringe ป้อน แต่ถ้าจะให้ดูดเอง แบ่งให้กินครั้งละ 1 ออนซ์แล้วค่อยๆ เติมให้เรื่อยๆ เว้นระยะไม่เช่นนั้น นอกจากจะไม่ได้ช่วยเรื่องทดแทนแล้วยังไปดูดเอาน้ำและเกลือแร่มาทิ้งเพิ่มอีกด้วยการกิน ORS  หลังจากนั้นก็ให้ดูอาการลูกถ้ากิน ORSแล้วยังถ่ายมาก อาเจียนมาก ลูกมีอาการซึมลง แม้ว่าจะให้ ORS แล้ว ก็ต้องพาไปโรงพยาบาลเพื่อให้สารน้ำทางหลอดเลือดด้วยค่ะ

 

4. ลักษณะของอุจจาระไม่สำคัญเท่ากับอาการของลูก

เวลาเด็กถ่ายเหลวสิ่งที่หมอกับพยาบาลถูกตามบ่อยมากก็คือความกังวลของพ่อแม่ที่แม้ลูกจะเข้ารับการรักษาแล้วแต่ลูกยังไม่หยุดถ่าย ซึ่งในความเป็นจริง คือ อาการอาเจียนยังให้ยาฉีด ยากินลดได้ แต่ไม่มีการรักษาใด สามารถไปหยุดการถ่ายเหลวได้ เพราะลำไส้ที่ติดเชื้อ มีผิวหน้าลำไส้บาดเจ็บก็ต้องคัดหลั่งสารน้ำออกมามากผิดปกติ และจะดูดซึมน้ำใหม่ ก็ทำได้ช้าผลรวมคือ มีน้ำค้างในลำไส้มากก็ถ่ายออกมา การใช้ยาหยุดถ่าย เป็นข้อห้ามของการรักษาถ่ายเหลวในเด็กอันตรายมาก การที่ไปบังคับให้ลำไส้หยุดบีบตัว เชื้อก็จะค้าง มีแบคทีเรียโตในลำไส้ที่อาจแทรกเข้าสู่กระแสเลือดได้ ดังนั้นไม่มียาหยุดถ่ายนะคะแต่อาจมียาบางกลุ่มทำให้ความถี่ในการถ่ายลดลงได้อย่างปลอดภัย  ลักษณะอุจจาระของเด็กแม้จะมาหาหมอแล้วก็ยังจะเป็นถ่ายเหลวเหมือนเดิม แต่ปริมาณ และจำนวนจะค่อยๆลดลง เพราะลำไส้ค่อยๆ สมานดีขึ้น

 

อ่านต่อ >> “7 เรื่องควรรู้เมื่อลูกถ่ายเหลว อาเจียน” หน้า 3

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up