เลี้ยงลูกด้วยสติ – หากคุณเป็นพ่อแม่ และคุณรู้สึกว่าในบางวันคุณควบคุมความสงบในบ้านไม่ได้และต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม คุณไม่ได้อยู่คนเดียวค่ะ เรื่องไม่คาดคิดต่างๆ ที่เกิดขึ้นในครอบครัว การต้องนอนดึกหรือแทบไม่ได้นอนและต้องตื่นแต่เช้าตรู่ บางบ้านอาจปวดหัวกับเรื่องพี่น้องทะเลาะกัน และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งอาจทำให้คุณมีพลังงานเหลือเพียงเล็กน้อยในการอ่านตำราการเลี้ยงลูกที่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยคำแนะนำมากมาย
การเลี้ยงลูก เป็นความรับผิดชอบที่ยาก เครียด และสำคัญที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นโอกาสอันดีที่คุณพ่อและคุณแม่จะได้ฝึกการเจริญสติ หน้าที่ของพ่อแม่ไม่ได้มีแค่การเลี้ยงดูลูกด้วยปัจจัย 4 เท่านั้น แต่ยังมีหน้าที่ให้ความรักความเมตตา อบรมและพัฒนาจิตใจลูกให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีด้วย พฤติกรรมการเลี้ยงลูกของคุณพ่อคุณแม่มักสะท้อนให้เห็นว่าพ่อแม่ของคุณเป็นอย่างไร คุณอาจต้องการเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงพฤติกรรมบางอย่างให้ดีกว่าที่คุณเคยเจอมา แต่น่าเสียดายพ่อแม่หลายๆ คน อาจจะจบลงด้วยการทำซ้ำวงจรในรูปแบบเดิมและส่งผ่านพฤติกรรมที่อาจทำให้เกิดประสบการณ์ที่ไม่ดี แต่โชคดี ที่การเลี้ยงดูอย่างมีสติที่ทุกคนจะได้รู้ในวันนี้ สามารถช่วยตัดวงจรที่ไม่ดีเหล่านั้นได้
เคล็ด(ไม่)ลับ เลี้ยงลูกด้วยสติ ช่วยยุติได้ทุกปัญหา!
สติช่วยในการเลี้ยงลูกได้อย่างไร?
การมีสติรับรู้และตื่นตัวต่อการกระทำของตนและการกระทำของลูก คือสิ่งสำคัญมากในการเลี้ยงลูก เด็ก ๆ ต้องการความสนใจจากพ่อแม่ สำหรับเด็กความสนใจก็เหมือนความรัก หากพวกเขาไม่ได้รับความสนใจอย่างเพียงพอพวกเขาก็อาจประพฤติตัวไม่ดี จนกว่าจะได้รับความสนใจ แม้จะถูกทำโทษ ถูกดุด่าว่ากล่าว แต่ก็ยังรู้สึกดีกว่าการไม่มีตัวตนในสายตาพ่อแม่
การได้รับความสนใจจากพ่อและแม่เป็นความต้องการพื้นฐานสำหรับเด็ก แต่คุณจะให้ความสนใจลูกได้อย่างไรหากคุณไม่ใส่ใจตัวเอง การฝึกสติเป็นวิธีที่จะฝึกฝนทักษะความสนใจของคุณเพื่อช่วยเลี้ยงลูกด้วยวิธีที่กลมกลืน และสงบสุขมากยิ่งขึ้น
ประโยชน์ของการเลี้ยงลูกด้วยสติมีดังนี้
- สามารถตอบสนองความต้องการ ของบุตรหลานของคุณได้ คุณสามารถตอบสนองความต้องการของบุตรหลานได้มากขึ้นด้วยการใช้ชีวิตในปัจจุบัน คุณสังเกตว่าลูกของคุณต้องกินหรือนอนหรือแค่เล่น คุณสังเกตว่าจริงๆแล้วสิ่งที่เขาต้องการคือการกอดหรือไม่ แต่ละช่วงเวลาแตกต่างกันและสดใหม่และสิ่งที่ทำงานเมื่อวานอาจใช้ไม่ได้ในวันนี้
- สามารถตอบสนองความต้องการของคุณเองได้ การรับรู้และตื่นตัวต่อความรู้สึกปัจจุบันในร่างกายของคุณเองจะทำให้คุณดูแลตัวเองได้ดีขึ้น การเลี้ยงดูเป็นเรื่องที่เหนื่อยมากและเมื่อคุณเหนื่อยมากเกินไปคุณอาจต้องตัดสินใจในสิ่งที่สร้างความยุ่งยากมากกว่าการแก้ปัญหา การรับรู้ปฏิกิริยาของคุณเองจะช่วยให้คุณรู้สึกได้ว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อใดและจำเป็นต้องดำเนินการตามความเหมาะสม
- คุณได้ปลูกฝังความรู้สึกขอบคุณ การมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาปัจจุบันช่วยให้คุณรู้สึกขอบคุณในสิ่งที่คุณมีอยู่ การใช้ชีวิตในปัจจุบันทำให้คุณเห็นว่าอะไรในชีวิตของคุณที่เป็นไปได้ด้วยดี คุณอาจมีลูกที่แข็งแรง และมีบ้านที่ดี คุณอาจดื่มด่ำไปกับอากาศที่ดีรอบๆ บ้าน หรือคุณอาจมีคนรักหรือเพื่อนที่ดีที่คอยสนับสนุนคุณเสมอ
- คุณจะเห็นสิ่งต่างๆ เหมือนครั้งแรกได้เสมอ อีกหนึ่งประเด็นสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างมีสติในปัจจุบันคือการใช้ทัศนคติแบบ “ผู้เริ่มต้น” ซึ่งเกี่ยวข้องกับการมองเห็นสิ่งต่าง ๆอย่างสดชื่น ราวกับเป็นครั้งแรก ด้วยทัศนคติแบบเดียวกันนี้คุณจะสามารถตอบสนองความท้าทายที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของการเลี้ยงดูลูกๆ ในปัจจุบันได้
- คุณปลดปล่อยตัวเองจากความกังวล ช่วงเวลาการเลี้ยงดูในแต่ละช่วงเวลาหมายความว่าคุณสามารถละทิ้งความเสียใจเกี่ยวกับอดีตและความกังวลเกี่ยวกับอนาคตได้ สิ่งเหล่านั้นจะไม่มีอยู่ในช่วงเวลาปัจจุบัน สิ่งที่คุณต้องทำ คือ ทำสิ่งต่างๆ ไปทีละวัน สิ่งที่คุณทำได้คือดีที่สุดแล้ว ณตรงนี้ และตอนนี้ ปล่อยวางสิ่งที่เกิดขึ้นหรืออาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ
- ประโยชน์อื่น ๆ ที่ได้
- ปรับปรุงการสื่อสารของผู้ปกครองและเด็ก
- ลดอาการสมาธิสั้นของเด็กและแม้ตัวคุณเอง
- เพิ่มความพึงพอใจในการเลี้ยงดู
- ลดความก้าวร้าวทั้งของเด็กและพ่อแม่
- ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองโดยรวมมากขึ้น
- ทำให้การเลี้ยงลูกดูเหมือนใช้ความพยายามน้อยลงหรือเหนื่อยน้อยลง
เคล็ดลับในการเลี้ยงลูกอย่างมีสติ
เคล็ดลับบางประการในการฝึกฝนการเลี้ยงลูกอย่างมีสติ มีดังนี้
- ค้นหาจุดสมดุลระหว่างความรักและการฝึกวินัย หากคุณผ่อนปรนมากเกินไปลูก ๆ ของคุณจะนิสัยเสีย แต่ถ้าคุณแข็งกร้าวเกินไป ลูก ๆ ของคุณจะเย็นชาและปิดกั้นตัวเองจากคุณ สิ่งที่ควรทำคือ กำหนดวินัยและขอบเขตของการกระทำให้ชัดเจน และอย่าลืมชื่นชมเมื่อลูกทำสิ่งดีๆ และพยายามอย่าตอกย้ำหรือซ้ำเติมเมื่อลูกทำผิดพลาด
- จินตนาการถึงสิ่งต่างๆ จากมุมมองของลูก การถูกครอบงำโดยผู้ใหญ่จะเป็นอย่างไร บุตรหลานของคุณจะรู้สึกอย่างไร หากความปรารถนาที่ดูเหมือนไร้สาระของผู้ใหญ่เป็นสิ่งที่พวกเขาคิดอยู่ ถ้าคุณเป็นลูกคุณอยากให้พ่อแม่ปฏิบัติต่อคุณอย่างไร? ลองเปิดใจมองให้กว้างๆ
- พยายามนั่งสมาธิทุกวัน อาจใช้เวลา 5-10 นาที เท่านั้น และไม่ควรบังคับให้ลูกทำตาม แต่ควรอธิบายให้ฟังถึงการทำสมาธิด้วยคำ อาจหากิจกรรมที่ช่วยให้ลูกฝึกสมาธิเล่น
- ฝึกฟังอย่างมีสติ รับฟังอย่างตั้งใจ สบตาและมีการถามตอบกับลูก ไม่ว่าลูกกำลังเล่าเรื่องอะไรให้คุณฟัง รับฟังด้วยความเอาใจใส่ที่อ่อนโยนและตอบสนองเท่าที่จำเป็น
- สังเกตพฤติกรรมของคุณเองเท่าที่สังเกตพฤติกรรมของลูก ดูว่าคุณชอบทำสิ่งที่คุณชอบทำเช่นเดียวกับที่ลูกของคุณชอบทำในสิ่งที่เขาชอบทำ
- ดูแลตัวเอง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณกินอย่างถูกต้องนอนหลับให้เพียงพอ และได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ คุณอาจจำเป็นต้องมีร่างกายที่พร้อมเสมอ เพื่อให้สามารถรับมือกับสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันของคุณ
- ทำใจสบาย ๆ คุณไม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับสิ่งต่างๆ มากเกินไป หากคุณทำผิดพลาดในการเลี้ยงดู อย่ารู้สึกห่อเหี่ยวเกี่ยวกับความผิดนั้น แต่ให้ดูว่าคุณสามารถหัวเราะหรืออย่างน้อยก็ยิ้มให้กับมัน เพราะคุณก็เป็นมนุษย์และลูกของคุณก็เช่นกัน
ทักษะที่สำคัญสำหรับการเลี้ยงลูกอย่างมีสติ
- การรับฟัง ซึ่งหมายถึงการตั้งใจฟังและสังเกตอย่างแท้จริง สิ่งนี้อาจต้องใช้ความอดทนและการฝึกฝนพอสมควร และการฟังขยายไปสู่สิ่งแวดล้อม ทุกสิ่งไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวกลิ่นเสียงที่อยู่รอบตัวคุณและลูกของคุณ
- การยอมรับแบบไม่ตัดสิน จัดการสถานการณ์ที่ต้องเผชิญโดยไม่ตัดสินด้วยความรู้สึกส่วนตัวของคุณ หรือความรู้สึกของลูก การไม่ตัดสินยังเกี่ยวข้องกับการปล่อยวางความคาดหวังที่ไม่สมเหตุสมผลของบุตรหลานของคุณ และท้ายที่สุด คือการยอมรับว่า “อะไรควร ไม่ควร” ซึ่งนั่นคือเป้าหมายที่แท้จริง
- การรับรู้อารมณ์ การนำความตระหนักรู้ไปสู่ปฏิสัมพันธ์ในการเลี้ยงดู จะขยายจากผู้ปกครองไปยังเด็ก การสร้างแบบจำลองการรับรู้ทางอารมณ์ที่ดี เป็นกุญแจสำคัญในการสอนบุตรหลานของคุณให้ทำเช่นเดียวกัน การรับรู้อารมณ์ความรู้สึก คือ ที่สิ่งส่งผลต่อสถานการณ์ ให้ดีหรือย่ำแย่ได้อยู่เสมอ
- การควบคุมตนเอง ซึ่งหมายความว่าอย่าปล่อยให้อารมณ์ของคุณกระตุ้นปฏิกิริยาด้านลบต่างๆ ทันที เช่น การตะโกน ตะคอก หรือพฤติกรรมอัตโนมัติอื่น ๆ กล่าวโดยย่อคือ การคิดก่อนลงมือทำเพื่อหลีกเลี่ยงการแสดงปฏิกิริยาที่ดูขาดสติเป็นสิ่งสำคัญต่อการจัดการกับสถานการณ์
- ความเห็นอกเห็นใจ คุณอาจไม่เห็นด้วยกับการกระทำหรือความคิดของลูก แต่การเลี้ยงดูอย่างมีสติจะกระตุ้นให้พ่อแม่มีความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งรวมถึงการเห็นอกเห็นใจและเข้าใจจุดยืนของเด็กในขณะนั้น ความเห็นอกเห็นใจยังขยายไปถึงผู้ปกครองด้วย เนื่องจากในที่สุด คุณก็จะไม่ตำหนิตัวเองจนเกินไป หากสถานการณ์ไม่เป็นไปตามที่คุณคาดหวัง
ตัวอย่างของการเลี้ยงดูอย่างมีสติ
การเลี้ยงดูอย่างมีสติมีลักษณะอย่างไรในทางปฏิบัติ? ลองดูตัวอย่างเหล่านี้ว่าจะมีอิทธิพลต่อแนวทางของคุณในการท้าทายการเลี้ยงดูบุตรได้อย่างไร
ลูกไม่ยอมนอนร้องไห้ทั้งคืน
พักหายใจสักครู่ คุณอาจพบว่าความคิดของคุณหลงไปในคืนก่อนหน้านี้เมื่อลูกน้อยของคุณต่อต้านการนอนหลับ คุณอาจกังวลว่าพวกเขาจะไม่หลับอีกต่อไปหรือคุณจะไม่มีเวลาอยู่กับตัวเองเลย
หยุดเพื่อทำความเข้าใจอารมณ์ของคุณซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเรื่องปกติ คุณรู้สึกหงุดหงิดใช่มั้ย? รับทราบสิ่งนี้โดยไม่ต้องตัดสินตัวเอง หยุดอีกครั้งเพื่อทำความเข้าใจและยอมรับว่าทารกหลายคนมีปัญหาในการนอนหลับตลอดทั้งคืนได้เป็นปกติ และมันเกิดขึ้นแค่ในคืนนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเกิดขึ้นแบบนี้ไปตลอดชีวิต
ลูกอาละวาดที่ร้านของเล่น?
แม้ว่าพฤติกรรมของพวกเขาอาจทำให้รู้สึกน่าอายหรือกระตุ้นให้เกิดอารมณ์เชิงลบอื่น ๆ แต่คุณจงอยู่กับช่วงเวลานี้ หากคุณมองไปรอบ ๆ คุณจะเห็นว่าพร้อมกับคนแปลกหน้าที่จ้องมองอาจทำให้คุณเครียด (อย่าไปสนใจพวกเขา!) มันมีสิ่งล่อใจมากมายสำหรับบุตรหลานของคุณที่ร้าน บางทีพวกเขาอาจต้องการของเล่นหรือขนมบางอย่าง บางทีพวกเขาอาจจะเหนื่อยล้าจากการช้อปปิ้งมาทั้งวันหรือกำลังง่วงมาก
ก่อนที่จะคว้าเจ้าตัวเล็กของคุณและรีบเดินออกจากร้าน พยายามสังเกตต้นตอของสิ่งที่เกิดขึ้น จงยอมรับว่าเด็ก ๆ อาจควบคุมตัวเองไม่ได้ เมื่อเจอสิ่งล่อตาล่อใจ หรือเมื่อพวกเขาถูกครอบงำ ยอมรับว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะจัดการกับอารมณ์ที่ยิ่งใหญ่ของตัวเองไม่ได้ และยอมรับว่าแม้คนแปลกหน้าอาจจ้องมองแต่ลูกของคุณก็ไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณอับอาย (แต่ไม่นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องซื้อของเล่นแพงๆ ให้ลูก)
ครั้งต่อไปที่คุณอยู่ในสถานการณ์ที่คุณรู้สึกว่าคุณอาจจะระเบิดอารมณ์กับลูกได้ ให้ใช้เวลาสักครู่เพื่อหยุด สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วหายใจออกเต็มที่ จากนั้นจึงมุ่งโฟกัสในช่วงเวลานี้โดยไม่หลงไปคิดถึงอดีตหรืออนาคต
คุณอาจไม่ประสบความสำเร็จในการมีสติอย่างมีความสุขในสองสามครั้งแรกที่คุณลอง แต่หลังจากนั้นไม่นานคุณอาจพบว่าการหยุดพักสักครู่ก่อนที่จะทำปฏิกิริยาจะช่วยลดความเครียดของคุณเองและส่งผลในเชิงบวกให้กับบุตรหลานของคุณได้อย่างไม่น่าเชื่อ การใช้สติในการจัดการกับปัญหาต่างๆ ในครอบครัวที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในการเลี้ยงลูก ส่งผลดีต่อตัวคุณและเด็กๆ ได้อย่างไม่ต้องสงสัย หากมองให้ดีในประโยชน์หลายข้อของการเลี้ยงลูกด้วยสติยังแฝงไว้ด้วยการส่งเสริมและปลูกให้ลูกเกิดทักษะความฉลาดรอบด้านด้วย Power BQ หลายด้านด้วยกัน อาทิ ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ความฉลาดทางคุณธรรม (MQ) และ ความฉลาดของการเข้าสังคม (SQ) เป็นต้นค่ะ
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : dummies.com , healthline.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เรากำลังเลี้ยงลูกให้เป็น “ออทิสติกเทียม” ด้วย ทีวี แท็บเล็ต และเร่งเรียน หรือเปล่า?
10 วิธีสร้างวินัยเชิงบวก : เมื่อ ลูกอาละวาด เอาแต่ใจ
เทคนิค สร้างวินัยให้ลูก แบบไม่ทำให้ลูกรู้สึกด้อยค่า!
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่