4 เคล็ดลับเลี้ยงลูกให้มีความสุข
มีคำถามจากแฟนๆ ผู้อ่านถามมาว่า “อยากเลี้ยงลูกให้มีความสุข” ควรเริ่มจากตรงไหนก่อนดี? ความสุขในที่นี้คือ “ลูกมีความสุข”
พญ.นลินี เชื้อวณิชชากร กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการและพฤติกรรม ได้ให้เคล็ดลับการเลี้ยงลูกให้มีความสุข ไว้ดังนี้…
1. สร้างให้เป็นนิสัย – เป็นคนสุขง่าย
วิธีที่ลูกจะเป็นคนที่มีความสุขได้อย่างยั่งยืน คือ การพัฒนาให้เป็นคนที่มีความสุขง่ายๆ จนติดเป็นนิสัย ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ทำได้ด้วยการช่วยให้ลูกประสบความสำเร็จกับสิ่งที่เขาทำ (ไม่ใช่ล้มเหลวตลอดเวลา) โดยเวลาที่เขาเล่น หรือเผชิญกับปัญหาอะไรในชีวิตประจำวัน แทนการเข้าไปช่วยคิดช่วยทำแทน คุณพ่อคุณแม่ควรกระตุ้นให้เขาคิดด้วยตัวเองก่อน และช่วยสนับสนุนเขาโดย
- ตัดสิ่งเร้าอื่นออกไปเพื่อให้ลูกมุ่งมั่นกับสิ่งที่กำลังทำอยู่
- ให้ลูกตั้งเป้าหมายทีละหนึ่งอย่าง หากมีหลายๆ เป้าหมาย หรือหลายๆ ปัญหาในเวลาเดียวกันจะทำให้เสียกำลังใจและล้มเลิกได้ง่าย ควรเลือกเป้าหมายหรือปัญหาที่แก้ง่ายก่อน
- สนับสนุนให้ลูกมุ่งมั่นทำ โดยไม่เน้นผลเลิศในครั้งเดียว ค่อยๆ ทำ ค่อยๆ ปรับปรุง ถ้าไม่สำเร็จมีวิธีอื่นอีกมั้ย หมั่นตั้งคำถามเพื่อเสริมแรงให้เขาพยายามต่อไป
2. ปลูกฝังให้ลูกมีวินัยในตนเอง
สิ่งสำคัญที่ช่วยให้มนุษย์ประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่ใช่ความฉลาด แต่เป็น “วินัยในตนเอง” ของคนๆ นั้น ซึ่งเด็กที่มีวินัยในตนเอง คือ เด็กที่รอคอยได้ รับมือกับความคับข้องใจหรือความเครียดได้ เป็นคนที่รับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม โดยคุณพ่อคุณแม่เริ่มได้ตั้งแต่ลูกยังเล็ก ฝึกให้เขารอ โดยใช้การนับ ไม่ยอมตามใจเขาเพียงเพราะเขางอแงอาละวาดเวลาไม่ได้ดั่งใจ สร้างกฎกติกาว่าลูกจะได้ของพิเศษที่นอกเหนือจากของใช้ที่จำเป็นในโอกาสใดบ้าง ไม่ใช่จะได้ทุกครั้งที่ต้องการ ฝึกมารยาทสังคมเบื้องต้นเวลาออกไปนอกบ้าน เช่น เข้าคิว ไม่ส่งเสียงดังในที่สาธารณะ ไม่ทิ้งขยะลงพื้น (โดยหวังว่าคนอื่นจะให้อภัยเพราะว่ายังเด็ก) รักษาของที่ใช้ร่วมกับคนอื่นไม่ทำเสียหาย หรือถ้าทำก็แสดงความรับผิดชอบ เช่น ไม่กดลิฟท์เล่น ไม่ขีดเขียนตามกำแพง เป็นต้น
3. เพิ่มเวลาเล่นอิสระให้กับลูก
พบว่าเด็กยุคนี้มีเวลาเล่นน้อยลงกว่ายุคก่อนๆ เพราะมัวแต่ใช้เวลาหน้าจอ หรือคร่ำเคร่งเรียนและกวดวิชา หรือทำกิจกรรม พิเศษต่างๆ โดยยังไม่ถึงวัยอันควร เด็กจำนวนมากขาดโอกาสได้เล่นอิสระที่เด็กสร้างสรรค์เอง และเล่นร่วมกับเพื่อนๆ ทั้งๆ ที่การเล่นอิสระโดยไม่ต้องติดกรอบหรือทำตามที่ผู้ใหญ่สั่ง เป็นการฝึกฝนทักษะเบื้องต้นที่จำเป็นสำหรับเขา โดยเฉพาะ อย่างยิ่งพัฒนาการด้านสติปัญญา สังคมและอารมณ์ของเด็ก ที่โทรทัศน์ หรือคอมพิวเตอร์ไม่สามารถสอนหรือปลูกฝังได้
หากอยากให้ลูกมีความสุขและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุข คุณพ่อคุณแม่ต้องยอมลงทุนเพิ่มเวลานี้ให้กับลูก ยอมตัดใจ และข่มใจที่จะไม่ทำตามกระแสคนรอบข้างที่พาลูกไปเรียนพิเศษตามที่ต่างๆ มากมายค่ะ
4. สร้างสิ่งแวดล้อมเพื่อต้อนรับความสุข (ให้เข้ามาในชีวิตของเรา)
หากอยากให้ความสุขอบอวลอยู่ในบ้านและครอบครัว คุณพ่อคุณแม่จะต้องอาศัยทั้งเวลาและความพยายาม โดยต้องทั้ง สร้างสิ่งที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่และลูกมีความสุข คือ หากิจกรรมทำร่วมกันในครอบครัว และกำจัดอุปสรรคที่จะทำให้ สมาชิกในครอบครัวไม่ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งมักจะเป็นโทรทัศน์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ไอโฟน ไอแพ็ด ที่มาดึงให้ สมาชิกในครอบครัวอยู่ในโลกของตนเอง
ทั้งนี้ กิจกรรมที่ควรทำร่วมกันในครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ คือ การได้อยู่พร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหาร ได้กินข้าวมื้อเย็นร่วมกัน พูดคุยแลกเปลี่ยนสิ่งที่สมาชิกแต่ละคนไปทำในช่วงกลางวัน และสามารถเริ่มได้ตั้งแต่ลูกยังเล็ก
เอาเป็นว่าทุกเรื่องที่อยากสนับสนุนส่งเสริมลูก ขอให้พ่อแม่หันหน้าเข้าหากัน ปรึกษา ศึกษาข้อมูลต่างๆ ให้ละเอียด ดึงเอาข้อดี ข้อเสียที่ลูกจะได้รับ แล้วค่อยตัดสินใจเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งที่ดีที่สุด แล้วค่อยส่งต่อให้ลูกกันนะคะ …ด้วยความใส่ใจและห่วงใย
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก
กุมารแพทย์แนะ“งด” เลี้ยงลูกด้วยมือถือ และจอทุกชนิดในเด็ก 2 ขวบปีแรก
เลี้ยงลูก แบบโบราณกับสมัยใหม่ แบบไหนดีกว่ากัน?
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
คุณหมอภา เพจหมอภา/Jeerapa prapaspong
พญ.นลินี เชื้อวณิชชากร กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการและพฤติกรรม นิตยสาร Amarin Baby & Kids