19 ข้อปฏิบัติป้องกันตัวไม่ให้ถูกข่มขืน[2]
ครอบครัวที่มีลูกสาว หรือแม้แต่ลูกชายก็ใช่ว่าจะปลอดภัยจากภัยข่มขืน ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือ สอนให้ลูกๆ มีปฏิภาณไหวพริบกับคนแปลกหน้า ไม่ว่าเขาจะเอาขนมมาหลอกล่ออย่างไรก็ต้องห้ามรับ ห้ามไปกับคนแปลกหน้า และควรให้ลูกได้เห็นบางสถานการณ์ที่เด็กถูกทำร้าย(ดูได้จากสื่อออนไลน์ หรือภาพข่าวต่างๆ) ส่วนถ้าเป็นผู้หญิงวัยเรียน วัยทำงาน ก็ต้องรู้เท่าทันความอันตรายจากการหลอกล่อไปข่มขืน และนี่คือข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกข่มขืน…
- ตั้งสติให้ดี สูดลมหายใจให้ลึกๆ เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงสมองให้ตื่นตัว
- ถ้ายังไม่ถูกจู่โจม หรือประชิดตัว ให้หาทางหลบนี้ให้เร็วที่สุด
- ประเมินสถานที่ ถ้าเป็นที่โล่ง เช่น ทุ่งนา ป่ากล้วย หรือห้องแคบๆ โอกาสในการรอดจะน้อยมาก
- ถ้าเป็นเวลากลางคืน ให้วิ่งไปในทางที่มีแสงสว่าง ถ้าอยู่ในระยะไกลคน ไม่ควรร้องตะโกนให้ใครช่วย เพราะจะเสียแรงเปล่า และคนร้ายจะสามารถตามเราได้จากเสียงตะโกน
- ถ้าประเมินแล้ววิ่งหนีไม่ทัน ให้มองหาที่หลบซ่อนที่คนร้ายไม่สามารถดึงตัวเราออกมาได้ เช่น ใต้ท้องรถยนต์ กอไผ่ และมองหาสิ่งที่พอจะทำเป็นอาวุธได้ เช่น ท่อนไม้ยาวๆ หรือปากกา ก้อนหิน แล้วเก็บซ่อนเอาไว้กับตัว
- ถ้าเป็นห้องแคบๆ ให้ร้องตะโกนเรียกให้คนช่วย เช่น ไฟไหม้
- ถ้าหนีไม่ทัน และถูกคนร้ายจับตัวได้ โอกาสรอดจะเหลือเพียง 1% อย่ายอมให้คนร้ายทำให้เราหมดสติ เพราะถ้าหมดสติโอกาสรอดจะเป็น 0% และอาจถูกฆ่าตายได้
- ถ้าถูกล็อกคอจนหายใจไม่ออก เพราะคนร้ายจะพยายามทำให้เราหยุดดิ้น หยุดร้อง เขาอาจบีบคอจนตาย หรือทำร้ายจนหมดสติ ให้หยุดดิ้น แล้วบอกว่า “ยอมแล้วๆ อย่าฆ่าฉัน ลูกฉันยังเล็ก มีแม่ที่ต้องเลี้ยงดู” เผื่อคนร้ายจะปล่อยมือ
- ถ้าคนร้ายมีอาวุธร้ายแรง เช่น มีด ปืน ไม่ควรต่อสู้ แล้วบอกว่ายอมแล้ว เพื่อหน่วงเวลาเอาไว้
- ถ้าคนร้ายปล่อยมือ ให้สูดหายใจเอาแรงกลับมา แล้วพยายามเจรจาต่อรอง เช่น ทำท่าทีเป็นยอม บอกให้คนร้ายใจเย็นๆ
- ต่อรองกับคนร้ายว่าอย่าข่มขืน ถ้ามีทรัพย์สิน เช่น สร้อย แหวน ให้ปลดออกมาแล้วบอกว่า “ให้ไปเลย ปล่อยฉันไป จะไม่ไปแจ้งตำรวจ” เผื่อคนร้ายจะเปลี่ยนใจ
- ถ้าต่อรองไม่สำเร็จให้ทำทีเป็นยอม แล้วบอกว่า สถานที่ไม่อำนวย ไปหาสถานที่อื่นที่ดีกว่านี้ เพื่อหน่วงเวลา
- ระหว่างเจรา ควรบอกว่าเราเป็นกามโรค มีประจำเดือน หรือเป็นเอดส์ แล้วบอกว่าจะให้ทรัพย์สินแทน โดยการให้บัตร ATM และรหัสลวงไปแทน เผื่อคนร้ายจะไม่ข่มขืน
- ถ้าคนร้ายพยายามข่มขืนอีก ให้ทำทียอมจูบปาก แล้วรอจังหวะกัดลิ้นให้เร็ว และแรงที่สุด แล้วรีบดิ้นหลุดออกมา ไม่เช่นนั้นอาจถูกทำร้ายถึงชีวิต
- ถ้าคนร้ายให้ช่วยสำเร็จความใคร่ ก็ฉวยโอกาสขณะคนร้ายถอดกางเกง แล้วเตะผ่าหมากคนร้ายให้เร็ว และแรง แล้วรีบวิ่งหนี
- ถ้าถูกคนร้ายกดทับตัว ถ้าอยู่ในบริเวณป่า หรือพื้นดิน ให้เอากิ่งไม้ หรือปากกาที่ซ่อนไว้ ทิ่มตาคนร้าย แล้วรีบวิ่งหนี ถ้าเป็นพื้นทรายให้กำทรายแล้วขว้างใส่ตาคนร้ายที่อยู่ในระยะประชิด แล้วรีบวิ่งหนี
- ถ้าทำทุกอย่างแล้ว ยังถูกข่มขืน ก็ขอให้รักษาชีวิตเอาไว้ เพื่อไปแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจ มาลงโทษ
- ถ้าสถานที่เกิดเหตุเป็นบ้าน หรือห้องพักของเราเอง ควรซ่อนอาวุธเอาไว้ในจุดที่ใกล้มือที่สุด และใช้การเจรจาต่อรอง เพื่อหน่วงเวลาเพื่อให้คนร้ายตายใจ เช่น บอกว่าใส่ถุงยางก่อน เดี๋ยวไปหยิบให้ ถ้ามีโอกาสให้รีบวิ่งเข้าห้อง ล็อกประตู ขังตัวเองเอาไว้ แล้วตะโกนว่าไฟไหม้
- อย่ารอให้เกิดเหตุแล้วป้องกัน ถ้ามีเวลาควรไปเรียนวิชาการต่อสู้ป้องกันตัว เพื่อเอาตัวรอดในยามคับขัน
ภัยถูกข่มขืนไม่เคยหมดไปจากสังคมไทย และผู้ที่ตกเป็นเหยื่อได้บ่อยและง่ายที่สุดก็คือ เด็ก และผู้หญิง ดังนั้นการดูแลรักษา ให้ตัวเองสามารถเอาตัวรอดปลอดภัยจากบางสถานการณ์แวดล้อมที่ผิดแปลกไป เป็นเรื่องที่ทุกคนควรรู้และจำเป็นต้องมีบางทักษะข้างต้นไว้ใช้ในการป้องกันตัวเองจากการถูกข่มขืน …ด้วยความใส่ใจและห่วงใยค่ะ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจ
เด็ก 7 ขวบ ถูกข่มขืน ต้องกินยาต้านไวรัส พร้อมเล่าเหตุการณ์ผ่านภาพวาดที่สุดสะเทือนใจ
ข่มขืน ภัยมืดของสังคม กับความเสี่ยงทั้งแม่ลูก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
1sara1000update.com
2พ.ต.ท.โชติวิเชียร วิเชียรโชติ. 19 ข้อ!! ป้องกันภัย ไม่พลาดท่าโดน ‘ข่มขืน’. www.thairath.co.th