ข้อควรระวังในการใช้วิธี อาบน้ำลดไข้ ให้ลูก
***ซึ่งหลังจากที่ทางเพจ Drama-addict และ คุณแม่อุ้ม โพสต์เรื่องนี้ไป ก็มีชาวเน็ตต่างแสดงความเขียนเห็นที่เห็นด้วยกันอย่างมากมาย รวมไปถึงแชร์วิธีลดไข้ลูกที่ทางคุณหมอแนะนำแล้วใช้ได้ผลจริง และก็มีบางคนที่บอกต้องระวังเกี่ยวกับการใช้ วิธี อาบน้ำลดไข้ ว่า…
ซึ่งประเด็นนี้ก็มีคนที่เห็นด้วย เพราะเคยมีประสบการณ์ตรง ว่า… ใช้วิธีนี้ปรากฏว่าเกือบไม่รอด เกร็ง มือม่วงเท้าม่วงเลย ปากนี่อ้าไม่ได้เลยเกร็งมาก สะท้านเข้าไปในกระดูกล่ะก็ปวดไปทั้งตัวเลย เราคิดว่ามันน่าจะดูเป็นเคสๆไปหรือเปล่า กับบางคนหรือคนที่มีโรคประจำตัวอย่างที่ จขม.กล่าวมาก็น่าจะเสี่ยงนะคะ
ทั้งนี้เรื่องการอาบน้ำลดไข้เด็กนี้ได้รับการยืนยันจาก พญ.วนิดา พิสิษฐ์กุล ทางเว็บไซต์ของโรงพยาบาลธนบุรี 2 กล่าวว่า…
ไข้ในเด็ก เกิดได้หลายสาเหตุแต่ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีอันตรายอะไร นอกจากไข้จะสูงมากหรือเป็นกลุ่มไวรัสที่รุนแรงเช่นไข้หวัดใหญ่ ไข้สมองอักเสบ ไข้เลือดออกโดยทั่วไปไข้จากเชื้อไวรัสนี้มักจะเป็นเพียง 2-3 วันเท่านั้น
***ดังนั้นถ้าไข้เกิน 3 วัน ควรจะพาไปพบแพทย์เพราะอาจมีโรคอื่นแทรกซ้อนหรือเป็นโรครุนแรงอื่นๆ เนื่องจากอาการเป็นไข้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในการต่อสู้กับเชื้อโรค และเป็นกระบวนการรักษาตัวเองของร่างกายตามธรรมชาติ และเป็นเพียงอาการที่เกิดขึ้นเพื่อเตือนว่าได้มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นต่อร่างกายแต่ไม่ได้บ่งชี้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไรหรือเป็นโรคอะไร
เพราะฉะนั้นเมื่อลูกมีไข้ คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยเฝ้าสังเกตอาการผิดปกติอื่นๆ ที่เกิดขึ้นกับลูกด้วย ถ้ามีไข้ร่วมกับอาการซึม ชัก ไอ หอบ เจ็บคอ เจ็บหู อุจจาระร่วง อาเจียนมากหรือปวดศีรษะมากควรจะรีบพาไปพบแพทย์โดยเร็วโดยไม่ต้องรอให้ครบ 3 วัน
อาการแทรกซ้อนของไข้ที่ต้องระวัง คือ อาการชักจากไข้สูง ในเด็กที่อายุตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี โดยเฉพาะเด็กที่เคยมีประวัติชักจากไข้สูงหรือมีประวัติบิดามารดาพี่น้องเคยชักจากไข้สูงมาก่อน