ลูกต้องการจากพ่อแม่ – ในฐานะพ่อแม่ผู้ปกครอง แน่นอนว่าลูกเปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด แต่อาจมีบางครั้งที่เราเผลอลืมหรือมองข้ามไปว่าสิ่งที่เด็กตัวน้อยต้องการจากเรา จริงๆ แล้ว คืออะไร ที่ไม่ใช่ของเล่นราคาแพง หรือเสื้อผ้ารองเท้าใหม่ๆ การเลี้ยงดูเด็กหนึ่งคนให้มีคุณภาพ ความสมดุลระหว่างการให้ความรักเวลาและการอบรมสั่งสอนเป็นสิ่งสำคัญ ตลอดจนการเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้ค้นหาความต้องการของตัวเอง เพราะเด็กแต่ละคนมีความต้องการพื้นฐานส่วนตัว เมื่อได้รับการตอบสนองจากพ่อแม่อย่างเหมาะสม ก็จะช่วยพัฒนาให้พวกเขามีสุขภาพจิตที่ดี มีภูมิต้านทานที่แข็งแรงต่อการใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข
วันนี้เรามาไล่เรียงดูความต้องการพื้นฐานของเด็กๆ ที่บางครั้งพ่อแม่อย่างเราๆ อาจมองข้ามหรือลืมไปกันค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง
11 เรื่องที่ ลูกต้องการจากพ่อแม่ ขอแค่นี้ ให้หนูได้ไหม?
หากเด็กๆ สื่อสารให้พ่อแม่รับรู้ถึงสิ่งที่พวกเขาต้องการจากพ่อแม่ได้ พวกเขาจะพูดว่า…
1. “หนูเรียนรู้จากพ่อแม่ เป็นแบบอย่างที่ดีให้หนูหน่อย”
การอบรมสั่งสอนลูก การแสดงออกให้เห็นย่อมดีกว่าการพร่ำบอกให้ฟัง การ “เป็นแบบอย่างที่ดี” คือสิ่งสำคัญที่หลายคนอาจคาดไม่ถึงว่าจะมีอิทธิพลต่อเด็กได้มากมายเพียงใด หลายคนอาจพูดมากกว่าที่จะทำให้ลูกเห็น เพราะบางครั้งการพูดอาจง่ายกว่าการลงมือทำ หากเราไม่ต้องการให้ลูกของเราแสดงออกอย่างก้าวร้าวเวลาไม่ได้อย่างใจ เราต้องเป็นแบบอย่างในการควบคุมอารมณ์และจัดการกับสิ่งที่ทำให้เราโกรธอย่างสงบ แม้มันอาจฟังดูยาก แต่รู้มั้ยคะ ว่าลูก ๆ กำลังเฝ้าดูเราอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นเราต้องเป็นคนในแบบที่เราต้องการให้ลูกของเราเป็น อยากให้เลูกเป็นแบบไหนเราก็ควรจะเป็นแบบอย่างที่ดีในแบบนั้น เท่านี้เอง
2. “อุ้มหนู กอดหนู จูบหนูเถอะ มันไม่ใช่การสปอยล์ลูกหรือโอ๋หรอก”
แน่นอนว่า เด็กๆ ต้องการความรักจากพ่อแม่ เราจำเป็นต้องแสดงให้พวกเขาเห็นและรู้สึก ความรักไม่สามารถทำให้ลูกเสียเด็กหรือเสียคนได้ การแสดงความรักต่อเด็กๆ ช่วยสร้างความผูกพัน และความรู้สึกที่ปลอดภัย ทั้งยังเป็นแบบอย่างให้ลูกสร้างความสัมพันธ์กับครอบครัว ตลอดจนคนรอบข้างด้วยความรัก ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อความสัมพันธ์ของพวกเขากับผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยผู้ใหญ่ มีหลายวิธีในการแสดงความรักที่ดี นี่คือตัวอย่างบางส่วนของการแสดงความรักที่ไม่มีอะไรเสียหาย
- กอดและจูบพวกเขาบ่อยๆ
- ใช้เวลาทำสิ่งที่คุณสามารถสนุกร่วมกันกับลูกๆ ได้
- พูดคุยกับพวกเขาและฟังพวกเขาอย่างตั้งใจ
- สนับสนุนและชื่นชมความสำเร็จของพวกเขา
- เห็นอกเห็นใจพวกเขาในความพยายามที่จะทำในสิ่งต่างๆที่ท้าทาย
3. “สมองของหนูยังพัฒนาอยู่ หนูอาจเรียนรู้ช้า แต่หนูต้องการเรียนรู้ ถ้าพ่อแม่อดทนที่จะสอน”
สอนลูกโดยการใช้วินัยเชิงบวกที่เข้มแข็ง และมั่นคง เด็ก ๆ ไม่ได้เกิดมาเพื่อทำตามที่พ่อแม่บอกไปหมดทุกอย่าง เด็กส่วนใหญ่ต้องการเรียนรู้ แต่การเรียนรู้ของเด็กๆ จำเป็นต้องใช้เวลา จำได้ไหมว่าลูกของคุณล้มกี่ครั้ง? ก่อนที่จะหัดเดินโดยไม่โยกเยก การเรียนรู้ “กฎของมนุษย์” นั้นซับซ้อนกว่าการเรียนรู้ “กฎแรงโน้มถ่วง” ต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ ซึมซับ รวบรวม และใช้ข้อมูลนั้น หากเด็กไม่เข้าใจในสิบครั้งแรกที่คุณพูด ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาดื้อรั้นหรือเอาแต่ใจ หมายความว่าพวกเขาต้องการเวลาและการฝึกฝนมากขึ้น พวกเขาต้องการคำแนะนำ ความกรุณาปราณี ไม่ใช่การลงโทษ
4. “อยู่เคียงข้างหนูเสมอ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น”
พ่อแม่ต้องเป็นฐานที่ปลอดภัยสำหรับลูกๆ เสมอ อยู่เคียงข้างลูกในทุกสถานการณ์ หมั่นพาเด็กๆ เปิดโลก ได้สำรวจและเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ สร้างความผูกพันแน่นแฟ้นด้วยการเป็นพ่อแม่ที่ให้ความรักความอบอุ่น และสนองตอบต่อความต้องการของลูกอย่างเหมาะสม เด็กที่มีความรู้สึกผูกพันแน่นแฟ้นกับพ่อแม่จะมีความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิตมากขึ้น แสดงออกในพฤติกรรมที่เป็นปัญหาน้อยลง เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้ดี นำมาซึ่งผลการเรียนดีและสุขภาพจิตที่ดี
5. “พูดกับหนูและรับฟังหนูอย่างตั้งใจ”
ให้ความสำคัญกับการสื่อสารกับลูก เมื่อลูกพูดหรือถามให้ตั้งใจฟัง แม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่สำคัญ เรามักจะลืมไปว่าการสื่อสารเคือการโต้ตอบแบบสองทาง พูดคุยสอบถามถึงสิ่งที่อยู่ในความคิด และสิ่งที่สำคัญสำหรับลูกของคุณ สิ่งที่ไม่สำคัญสำหรับผู้ใหญ่อาจมีความสำคัญมากสำหรับเด็กๆ หากเราตั้งใจฟังสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ของลูกตั้งแต่ลูกยังเล็ก พวกเขาจะไว้ใจพ่อแม่ และกล้าเปิดใจที่จะปรึกษาปัญหาต่างๆ ในชีวิตเมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น พวกเขาจะรู้สึกว่าพ่อแม่คือคนที่สามารถพึ่งพาทางใจได้เสมอยามมีปัญหา
เข้าถึงใจลูกด้วยการ รับฟังลูก อย่างใส่ใจ ทักษะที่พ่อแม่ยุคใหม่ต้องไม่มองข้าม
วิธี ทำให้ลูกไว้ใจ พ่อแม่ต้องทำอย่างไร ให้ลูกวางใจในเรา?
ส่องเทคนิค เลี้ยงลูกแบบฝรั่ง ปล่อยลูกตามสบาย ฟรีสไตล์ แต่ได้ดี?
6. “บางครั้งหนูแค่อยากระบายให้ฟังโดยไม่มีการตัดสิน”
เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ เด็กมักต้องการระบายบางสิ่งที่คับข้องใจ ไม่สบายใจ หรือไม่เข้าใจ พวกเขาต้องการได้ยิน และเข้าใจ และอยากให้พ่อแม่ฟังด้วยใจที่เปิดกว้างและเอาใจใส่ พ่อแม่ของเด็กวัยรุ่นอาจสงสัยว่าทำไมลูกๆ จึงไม่คุยกับพวกเขาอีกต่อไป เหตุผลหนึ่งอาจเป็นเพราะไม่มีใครชอบถูกสอนตลอดเวลา อีกทั้งไม่มีใครอยากอยู่ใกล้คนที่คอยบรรยายพูดพร่ำบ่นจู้จี้จุกจิกอยู่ตลอดเวลาหรือไม่เปิดใจรับฟังแต่ตัดสินไปก่อนที่จะรับรู้เรื่องราวทั้งหมดเสียก่อน
7. “ยอมรับในความเป็นหนู อย่าเปรียบเทียบหนูกับเด็กคนอื่น”
ผู้ปกครองทุกคนต้องการให้ลูกของพวกเขาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ความปรารถนาตามธรรมชาตินี้บางครั้งอาจทำให้คุณเปรียบเทียบลูกของคุณกับคนอื่นการศึกษาของฮาร์วาร์ดแกรนท์พบว่า การมีความสัมพันธ์แบบพ่อแม่ และลูกซึ่งเด็กรู้สึกว่าได้รับการเลี้ยงดูและยอมรับ เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในชีวิต ดังนั้น การเปรียบเทียบของคุณจึงทำให้ลูกของคุณกับเด็กคนอื่นเป็นสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร
8. “ให้หนูได้ออกไปเล่นนอกบ้านบ่อยๆ”
การเล่นมีประโยชน์มากมายต่อพัฒนาการของเด็ก การเล่นกลางแจ้งแบบไม่มีอะไรกีดขวางยิ่งดี สภาพแวดล้อมกลางแจ้งเต็มไปด้วยโอกาสในการพัฒนาและการเรียนรู้ การเล่นนอกบ้านมักจะทำให้เด็กๆ รู้สึกมีอิสระมากขึ้น เปิดโอกาสให้พวกเขาได้พัฒนาตนเองได้ เด็กยังสามารถเล่นโดยใช้ประสาทสัมผัส ซึ่งมักไม่มีในสิ่งอำนวยความสะดวกในร่ม
9. “ให้หนูได้กินอาหารที่อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการ ”
เด็กเล็กๆ ไม่สามารถซื้อหรือทำอาหารเองได้ ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องพึ่งพาพ่อแม่ในการจัดหาสิ่งที่ต้องการ หน้าที่พ่อแม่ไม่พ้นการสรรหาหาอาหารที่ลูกชอบ และต้องเป็นอาหารที่มีประโยชน์และมีคุณค่าทางโภชนาการ อาหารที่มีประโยชน์และอร่อย มีให้เลือกหลายประเภท ซึ่งอาจต้องใช้การทดลอง และความคิดสร้างสรรค์เพื่อค้นหาสิ่งที่ลูกชอบได้อย่างลงตัว
10. “ได้โปรดเชื่อใจหนู”
การทำผิดพลาดไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป หากเราต้องการให้บุตรหลานของเรามีวิจารณญาณที่ดีในชีวิต เราต้องให้พวกเขาได้ฝึกการตัดสินใจ นั่นหมายความว่าพวกเขาอาจทำผิดพลาดในบางเรื่องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงอย่างไรก็ตามควรฝึกให้พวกเขาได้ตัดสินใจในสิ่งที่จะไม่เป็นอันตรายหรือเสี่ยงต่อสุขภาพตนเองและผู้อื่น เด็กไม่สามารถเรียนรู้ที่จะเดินได้โดยไม่ล้มเลย
11. “คำชมของพ่อแม่มีความหายกับหนูมากนะ”
คำพูดที่ให้กำลังใจสามารถส่งผลดีต่อเด็กได้อย่างมาก จงชื่นชมลูกอย่างจริงใจและมุ่งเน้นไปที่ความพยายามของพวกเขา ไม่ใช่ความสามารถหรือผลลัพธ์ เมื่อพ่อแม่ชื่นชมลูกๆ อย่างถูกต้องเหมาะสม สิ่งเหล่านี้สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากในการสร้างความภาคภูมิใจในตนเอง และแรงจูงใจภายในของเด็กๆ ในการทำสิ่งต่างๆ ให้ประสบความสำเร็จ
เมื่อพ่อแม่เข้าใจในการปฏิบัติต่อลูกและตอบสนองลูกอย่างเหมาะสมตั้งแต่เล็กจนโต มีความเข้าใจลูกๆ เสมอในความต้องการพื้นฐานที่สำคัญย่อมส่งผลให้ทำให้เด็กๆ สามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันหน้าได้อย่างมั่นคงมีคุณภาพ มีภูมิคุ้มกันในชีวิตที่ดี และช่วยส่งเสริมให้เด็กๆ เกิดทักษะความฉลาดรอบด้านด้วย Power BQ ในด้านต่างๆ ได้มากมาย อาทิ ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) , ความฉลาดของการเข้าสังคม (SQ) ความฉลาดต่อการมีสุขภาพที่ดี (HQ) ความฉลาดในการเล่น PQ และ ความฉลาดต่อการเผชิญกับปัญหา AQ เป็นต้นค่ะ
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : parentingforbrain.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เปิดเทคนิค สอนลูกให้ใจแกร่ง ฟันฝ่าอุปสรรคชีวิตได้ราบรื่น
ส่อง 10 เคล็ดลับ เลี้ยงลูกให้เป็นอัจฉริยะ แบบชาวยิว
5 เทคนิค สอนลูกให้เรียนรู้ จากความล้มเหลว เพื่อลุกขึ้นสู้!
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่