2. โรคหัด (Measles/Rubeola)
เป็นโรคที่ติดต่อกันทางระบบทางเดินหายใจ มักเป็นในเด็กอายุ 1 ปี จนถึงระดับประถมศึกษา นับว่าเป็นโรคที่มีความสำคัญมากโรคหนึ่ง เพราะอาจเกิดโรคแทรกซ้อนทำให้ถึงเสียชีวิตได้ ซึ่งมักจะติดต่อกันได้ง่ายทางเสมหะ น้ำลายเกิดจากเชื้อ Measles virus มักจะระบาดตอนฤดูหนาวถึงฤดูร้อน
อาการของโรคหัด เมื่อได้รับเชื้อหัดเข้าไปในร่างกาย ระยะแรกจะยังไม่ปรากฏอาการใดๆ เพราะเชื้อจะใช้เวลาในการฟักตัวของโรค ประมาณ 1-2 อาทิตย์ โดยอาการของโรคหัดจะแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะก่อนออกผื่นและระยะออกผื่น
- ระยะก่อนออกผื่น เริ่มด้วยการมีไข้สูง น้ำมูกไหล เจ็บคอ ไอ นอกจากนั้นยังมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหารร่วมด้วย จะเป็นแบบนี้อยู่ประมาณ 3-4 วันก่อนออกผื่น และภายในกระพุ้งแก้มจะเกิดจุดเล็กๆ ขาวๆ ขอบสีแดงขึ้น ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโรคหัด
- ระยะออกผื่น ผื่นจะมีลักษณะนูนแดง ไม่คัน เริ่มขึ้นที่บริเวณใบหน้าก่อน หลังจากนั้นจะแพร่กระจายไปทั่วตัว เมื่อผื่นขึ้น ไข้จะเริ่มลดลง ระยะแรกผื่นจะมีสีแดง ต่อมาสีจะเข้มขึ้นจนแดงคล้ำเป็นเวลาเกือบอาทิตย์ก่อนจะหายไป
การรักษาโรคหัด
เนื่องจากโรคหัดเกิดจากเชื้อไวรัสดังนั้นจึงไม่มียาที่รักษาโดยตรง ท่านต้องปรึกษาแพทย์ของท่านให้ทราบถึงวิธีดูแล และโรคแทรกซ้อนต่างๆ หลักการดูแลทั่วๆไป คือ
- ให้ตรวจวัดอุณหภูมิอย่างสม่ำเสมอให้ยาลดไข้ด้วยพาราเซตามอล ห้ามใช้ยาแอสไพริน ในการลดไข้ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสเนื่องจากจะทำให้เกิด Reye’s syndrome หรือโรคไรย์ได้
- กระตุ้นให้เด็กดื่มน้ำมากๆ อาจเป็นน้ำเปล่า น้ำหวาน หรือน้ำผลไม้ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ
- เนื่องจากเด็กที่ป่วยเหล่านี้ติดเชื้อได้ง่ายโดยเฉพาะที่หูและปอดควรให้ยาปฏิชีวนะทันที่เมื่อมีการติดเชื้อแบคทีเรีย
การป้องกันโรคหัด
สามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน MMR ตามตารางการฉีดวัคซีน หรือสามารถฉีดวัคซีนก่อนสัมผัสโรค หรือหลังสัมผัสโรคไม่เกิน 3 วันก็กันโรคได้ และควรระวังให้ลูกหลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ติดเชื้อหัดด้วย
3. โรคหัดเยอรมัน (Rubella, German measles)
เป็นโรคติดต่อเกิดจากเชื้อไวรัส Paramyxovirus ทำให้เกิดอาการคือมีไข้ ผื่น และต่อมน้ำเหลืองโต ส่วนใหญ่มักจะหายเองโดยที่ไม่มีโรคแทรกซ้อน
สามารถติดต่อกันทางระบบทางเดินหายใจ จากคนหนึ่งไปอีกคนหนึ่งโดยการหายใจเอาเสมหะ หรือน้ำลายของผู้ป่วยซึ่งจามหรือไอออกมา ระยะติดต่อ 1 อาทิตย์ก่อนและหลังออกผื่น
อาการบ่งชี้ ได้แก่ มีไข้ต่ำ ปวดเมื่อยตามตัว หลังจากนั้นจะมีผื่นขึ้นที่บริเวณหน้า คอ ลำตัว แขน และขา ผื่นมักขึ้นเต็มตัวภายในระยะเวลา 1 วัน และต่อมน้ำเหลืองจะโต ผื่นมักจะหายไปเองภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 วัน
การรักษาโรคหัดเยอรมัน
โรคนี้หายได้เอง ให้วัดไข้วันละ 2 ครั้ง ควรพบแพทย์ถ้าไข้มากกว่า 38 °C และห้ามใช้ยาแอสไพรินในการลดไข้เนื่องจากอาจจะทำให้เกิด Reye’s syndrome เช่นเดียวกับ 2 โรคข้างต้นที่กล่าวมา
การป้องกันโรคหัดเยอรมัน
ที่สำคัญเด็กทุกคนควรฉีดวัคซีนป้องกันหัดเยอรมันตามเกณฑ์เพื่อป้องกันการเกิดโรค และถ้าสตรีมีครรภ์เป็นโรคนี้ขณะตั้งครรภ์อาจทำให้ทารกพิการได้
อ่านต่อ >> “โรคผิวหนัง ต้องระวังลูก ในหน้าหนาว อากาศแห้ง” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่