ยาคุมเม็ดคุมกำเนิด ใช้ให้ถูกวิธีป้องกันการตั้งครรภ์ได้!!
ยาคุมกำเนิด (Contraceptive Pill หรือ Birth Control Pill) เป็นหนึ่งในวิธีการคุมกำเนิดด้วยการรับประทานยาเม็ดซึ่งบรรจุฮอร์โมนเพศหญิงไว้ ออกฤทธิ์ต่อการทำงานของอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศหญิง ทั้งปากมดลูก ผนังมดลูก และรังไข่ ผู้หญิงที่รับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดอย่างถูกวิธีจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ แต่ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ได้
ประเภทของยาเม็ดคุมกำเนิด
- ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม (Combined Pill) เป็นยาที่ประกอบด้วยฮอร์โมนสังเคราะห์เอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน ซึ่งช่วยในการยับยั้งกระบวนการตกไข่ในเพศหญิง สร้างเมือกที่บริเวณปากมดลูก ทำให้สเปิร์มเข้าไปผสมได้ยากขึ้น ทำให้ผนังมดลูกบาง ขัดขวางการฝังตัวที่ผนังมด
- ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนตัวเดียว (Progestogen-only Pill) เป็นยาที่ประกอบด้วยฮอร์โมนโปรเจสโตเจนไว้เพียงชนิดเดียว โดยตัวยาจะทำให้เกิดากรสร้างเมือกหนาบริเวณปากมดลูก ป้องกันไม่ให้สเปิร์มเข้าไปผสมกับไข่ ส่งผลต่อระบบท่อนำไข่ ให้ไข่ผ่านเข้าไปในท่อนำไข่ได้ยากขึ้น และทำให้ผนังมดลูกบางลง ยาในชนิดนี้ยังถูกแนะนำให้ใช้ในกรณีของผู้หญิงที่ต้องให้นมบุตร และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ อย่างลิ่มเลือดอุดตัน เพราะการรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวมจะได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อทารกผ่านการให้น้ำนม และกระทบต่อปัญหาสุขภาพของผู้ที่ป่วยด้วยบางภาวะอาการด้วย
รับประทานยาคุมกำเนิดอย่างไรให้ถูกต้อง มีประสิทธิภาพ
การป้องกันการตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์นั้น เป็นที่ทราบกันดีว่า ไม่มีวิธีไหนที่จะได้ผล 100% แต่เปอร์เซ็นต์ในการป้องกัน ช่วยลดการตั้งครรภ์นั้น ยังถือว่ามีประสิทธิภาพสูง เป็นที่น่าเชื่อถือได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น วิธีการใช้ยาคุม ก็นับว่าเป็นปัจจัยที่จะช่วยเพิ่ม หรือลดประสิทธิภาพของยาคุมได้เช่นกัน ดังนั้นจึงควรทราบวิธีการรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดอย่างถูกต้องอยู่เสมอ ทั้งในปริมาณ และตามเวลาที่กำหนด อีกทั้งหากลืมรับประทานยาแล้วควรทำอย่างไร เพื่อให้ประสิทธิภาพการป้องกันให้เกิดสูงสุด
ปริมาณ และการใช้ยาคุมกำเนิด
1.ปริมาณ 1 แผง 21 เม็ด รับประทานวันละ 1 เม็ด
- เริ่มจากเม็ดแรกตามวันในสัปดาห์ที่มีสัญลักษณ์อยู่บนแผง จากนั้นรับประทานเม็ดต่อไปตามลำดับติดต่อกันทุกวัน เมื่อยาหมดแผง หยุดรับประทานยา 7 วัน (ซึ่งเป็นวันที่ประจำเดือนมา)
- เมื่อเข้าสู่วันที่ 8 ไม่ว่าประจำเดือนจะหมดแล้วหรือไม่ ให้เริ่มรับประทานยาแผงใหม่ต่อไปได้ทันที
- ต้องรับประทานยาทุกวันในเวลาเดียวกันเสมอ
- หากลืมรับประทานยาตามเวลาเดิมภายใน 24 ชั่วโมง ให้รับประทานยาเม็ดที่ลืมทันทีที่รู้ตัว แม้จะใกล้กับช่วงเวลาของยาเม็ดต่อไปก็ตาม และรับประทานยาเม็ดต่อไปตามเวลาปกติ แต่หากลืมรับประทานยานานเกินกว่า 48 ชั่วโมง ให้ข้ามไปรับประทานยาตามวันปัจจุบัน แล้วใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นช่วยในการป้องกันหากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลา 7 วันหลังกลับมารับประทานยา
2.ปริมาณ 1 แผง 28 เม็ด รับประทานวันละ 1 เม็ด
- ให้รับประทานวันละ 1 เม็ด ติดต่อกันทุกวัน เมื่อยาหมดแผง สามารถเริ่มรับประทานยาแผงใหม่ได้ทันที
- ต้องรับประทานยาทุกวันในเวลาเดียวกันเสมอ
- หากลืมรับประทานยาภายใน 3 หรือ 12 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับชนิดของยา) ให้รับประทานยาเม็ดที่ลืมทันทีที่รู้ตัว แม้จะใกล้กับช่วงเวลาของยาเม็ดต่อไปก็ตาม
- ในกรณีที่ลืมรับประทานยาหลายเม็ด ให้รับประทานเพียงเม็ดเดียว และรับประทานยาเม็ดต่อไปตามเวลาปกติ และหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลา 2 วันถัดมา หรือใช้วิธีอื่นช่วยในการคุมกำเนิดด้วย เพราะยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนตัวเดียวจะใช้ระยะเวลา 2 วันในการสร้างเมือกที่หนาป้องกันไม่ให้สเปิร์มไปผสมกับไข่ได้
เคล็ดลับช่วยจำ ผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดด้วยการรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด ควรเริ่มรับประทานยาเม็ดแรกในเวลาที่สะดวกและเหมาะสม เพราะจะต้องรับประทานยาในเวลาเดิมทุกวัน หากมีข้อสงสัย ควรศึกษาข้อมูลบนฉลาก รวมทั้งปรึกษาแพทย์และเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มใช้ยา
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดแผง 21 เม็ดกับ 28 เม็ด ต่างกันอย่างไร?
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมอาจมีจำนวนเม็ดในแผงยาได้แตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่มีแผงละ 21 หรือ 28 เม็ด ซึ่งแตกต่างกันดังนี้
1. ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมแผงละ 21 เม็ด ทุกเม็ดจะมีตัวยาทั้งหมด (ไม่มีเม็ดแป้ง) รับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน วันละ 1 เม็ด จนหมดแผงแล้วหยุด 7 วันก่อนเริ่มแผงใหม่ หลังหยุดยาประมาณ 1-3 วันจะเริ่มมีประจำเดือน
2. ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมแผงละ 28 เม็ด โดยทั่วไปมีตัวยาฮอร์โมนจำนวน 21 เม็ดและไม่มีตัวยาหรือเรียกว่า “เม็ดแป้ง” อีก 7 เม็ด รับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน วันละ 1 เม็ด จนหมดแผงแล้วขึ้นแผงใหม่ต่อเนื่องกันไป ช่วงที่รับประทานเม็ดแป้งไปประมาณ 1-3 เม็ดจะเริ่มมีประจำเดือนมา
ข้อมูลอ้างอิงจาก www.bangkokbiznews.com/www.thecoverage.info/www.pobpad.com/ www.siphhospital.com /krungthai.com
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
“ยาคุมกำเนิด” แม่หลังคลอดกินอย่างไรให้ปลอดภัย? ไม่กระทบน้ำนม
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่