บทเรียนราคาแพงของคุณแม่ ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัว เมื่อคุณแม่ ปั่นหูลูก ด้วยสำลีธรรมดา แต่พลาดไปเพียงนิดเดียว เพราะลูกน้อยขยับตัว สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเป็นเช่นนี้ โชคดีที่หนูน้อยไม่เป็นอะไรมาก เพราะยังไม่โดนแก้วหู จึงฝากเตือนคุณพ่อ คุณแม่ อย่าแคะ อย่าปั่น อย่าแหย่ หูและจมูก ลูกน้อย
อันตรายของการปั่นหูเด็ก
นพ.ทัตเทพ บุณอำนวยสุข แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรค คอ หู จมูก ประจำสถาบันบำราศนราดูร กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การแคะหู หรือใช้สำลีเช็ดในรูหูหลังอาบน้ำเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะจะทำให้ขี้หูเข้าไปอุดตันในรูหู หรือเกิดอันตรายต่อผิวหนังในรูหู เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค หรือแก้วหูทะลุได้
ขี้หูทำหน้าที่ดักฝุ่นละออง สิ่งแปลกปลอม จึงไม่ใช่สิ่งสกปรกแต่อย่างใด ไม่จำเป็นต้องแคะ หรือปั่นออกมา เพราะโดยธรรมชาติขี้หูจะค่อยๆ ออกมาเอง แต่คนทั่วไปมักเข้าใจผิดจึงพยายามแคะหูเพื่อทำความสะอาด เพราะขี้หูมีกลิ่นเฉพาะที่ไม่พึงประสงค์
การทำความสะอาดหูด้วยการใช้สำลีก้านชุบแอลกอฮอล์ก็ไม่ควรทำ เพราะจะทำให้ผิวหนังแห้ง หากไหลเข้าหูอาจระคายเคือง และอักเสบตามมา หรืออาจเป็นหูน้ำหนวกได้ คอตตอนบัดที่มีขนาดใหญ่กว่ารูหูก็เช่นกัน เพราะเป็นการดันขี้หูให้ลึกลงไปอีก เกิดปัญหาขี้หูอุดตัน ทำให้ได้ยินเสียงไม่ชัดเจน คุณหมอต้องหยอดยา ดูดขี้หูออกมา
คุณพ่อคุณแม่อย่าใช้คอตตอนบัดเช็ดหูให้ทารก ลูกน้อยเสี่ยงหูหนวก แก้วหูทะลุได้ ซึ่งสถาบันบำราศนราดูร พบผู้ป่วยหูอื้อ เพราะขี้หูอุดตันจากการใช้คอตตอนบัดขนาดใหญ่ปั่นในรูหู เดือนละกว่า 100 คน
วิธีการทำความสะอาดหูที่ถูกต้อง และไม่อันตราย
ใช้สำลีหรือผ้าขนหนูนุ่มๆ ชุบสบู่ หรือน้ำ เช็ดเบาๆ บริเวณใบหู และขณะอาบน้ำ สระผม ระวังอย่าให้เข้าไปในรูหู ถ้ารู้สึกว่ามีน้ำเข้าหู ควรป้องกันโดยใช้สำลีปั่นเป็นก้อนประมาณหัวแม่มืออุดหูก่อนอาบน้ำ ถ้าในเด็กทารกและเด็กเล็ก คุณพ่อ คุณแม่ไม่ควรใช้คอตตอนบัดทำความสะอาด เพราะเด็กเล็กมีรูหูตื้น
สิ่งที่คุณพ่อ คุณแม่อาจมองข้ามคือการฟังเพลงเสียงดังนานเกินไป อาจทำให้ลูกหูตึง หรือหูดับได้ ถ้าอยู่ในที่ที่มีเสียงดัง ไม่ควรอยู่นานเกินวันละ 8 ชั่วโมง ต้องใช้เครื่องป้องกันเสียงครอบหูเอาไว้ ถ้าลูกรู้สึกเจ็บปวดหู ได้ยินไม่ชัด ไม่ควรซื้อยามาหยอดเอง ควรพาไปหาคุณหมอ เพื่อตรวจหาสาเหตุ
เครดิต: ยัยหนู เอวา, ไทยรัฐออนไลน์