อาหารหลังคลอด ควรกินอะไรบ้าง แบบไหนกินได้ แบบไหนควรเลี่ยง มาลองดูเมนูอาหารที่ดีต่อสุขภาพคุณแม่หลังคลอดพร้อมวิธีทำรับรองอาหารเมนูเหล่านี้คุณแม่ปลื้มแน่นอน
เปิด 25 เมนู อาหารหลังคลอด แบบไหนที่แม่ปลื้ม!!(พร้อมวิธีทำ)
โรคหลังคลอด เป็นอาการของผู้หญิงหลังคลอดลูกบางคนที่มักมีอาการไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว ปวดเนื้อตัว ขี้หนาว โดยเฉพาะเวลาฝนตกอากาศชื้น ๆ จะหนาวสั่น อ่อนเปลี้ย เพลียแรง ไม่สดชื่น ปวดหลัง และที่สำคัญไปตรวจร่างกายก็ไม่พบโรคใด ๆ อาการเหล่านี้เราเรียกกันว่า อาการหลังคลอดเนื่องจากเวลาคลอดลูก ร่างกายของคุณแม่จะสูญเสียทั้งเลือด น้ำ พลังงานในการคลอด ทำให้ร่างกายต้องปรับสมดุล และต้องปรับฮอร์โมนที่มีอยู่มากในระหว่างตั้งครรภ์ให้กลับมาเป็นปกติอีกด้วย
จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่คุณแม่ต้องกินอาหารที่ให้พลังงานและมีประโยชน์ต่อร่างกายเพื่อเป็นการฟื้นฟูสภาพร่างกาย และเตรียมความพร้อมสำหรับการเลี้ยงลูกน้อยด้วยการให้น้ำนม โดยทั่วไปหลักการเลือกรับประทานอาหารหลังคลอดนั้น ก็เป็นหลักทั่ว ๆ ไป ไม่แตกต่างจากตอนท้องจะมีความแตกต่างบ้างเพียงเล็กน้อย ดังนี้
- รับประทานอาหารตามหลักโภชนาการครบทั้ง 5 หมู่
- ใช้วัตถุดิบที่สด ผ่านกระบวนการการปรุงที่สะอาดและสุกทั่วถึง
- รับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ อาจเพิ่มอาหารว่างอีก 1 มื้อก็ได้
- เลี่ยงของมันอๆ ทอดอๆ หรือการดื่มนมมากเกินไป เพราะอาจทำให้ท่อน้ำนมอุดตันได้ในกรณีแม่ให้นมบุตร รวมถึงทำให้ลูกมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้นมวัวอีกด้วย
- เพิ่มส่วนประกอบของอาหารให้มีเครื่องเทศ เช่น พริกไทย ขิง ที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยการย่อย
- มื้อเช้าควรเริ่มต้นด้วยอาหารที่ย่อยง่าย รสอ่อน ๆ มีส่วนผสมของน้ำค่อนข้างมาก ซึ่งช่วยให้ระบบการย่อยและดูดซึมทำงานได้ดี ลดอาการอึดอัดแน่นท้อง กระตุ้นให้ร่างกายพร้อมที่จะทำงาน หลีกเลี่ยงอาหารทอด
- อย่ากังวลเรื่องน้ำหนักมากจนเกินไป เพราะคุณแม่ต้องใช้พลังงานมหาศาลในการดูแลลูกน้อย ดังนั้นไม่ควรอดอาหารในช่วงนี้ แต่ควรเพิ่มเมนูอาหารที่มีสรรพคุณเรียกน้ำนม เช่น แกงเลียง แกงหัวปลี น้ำขิงอุ่น ปลาผัดขึ้นฉ่าย ไก่ผัดขิง
- ดื่มน้ำอุ่นมากๆ จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดกระตุ้นการหลั่งน้ำนมได้มากขึ้น และขณะที่คุณแม่ให้นมร่างกายจะสูญเสียน้ำถึงวันละ 700 มิลลิกรัม จึงควรดื่มน้ำเข้าร่างกายเพื่อไปชดเชยให้เพียงพอ
อาหารหลังคลอดแบบไหนที่ไม่ควรปลื้ม (ควรหลีกเลี่ยง)
- อาหารที่มีรสจัดและกลิ่นฉุน เช่น ยำรสจัด หัวหอม เพราะแม่ที่ให้นม จะทำให้ลูกได้รับสารเหล่านี้ไปด้วยผ่านน้ำนม อาจทำให้ลูกไม่สบายท้องได้ ส่วนแม่จะแสบกระเพาะอาหารได้ง่าย
- อาหารหมักดอง กาแฟ ชา น้ำอัดลม แอลกอฮออล์ นอกจากจะไม่ดีต่อสุขภาพแล้ว คุณแม่ที่ให้นมลูกเองจะส่งผ่านสิ่งไม่ดีไปสู่ลูกผ่านน้ำนมได้อีกด้วย
- หากแม่ดื่ม เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ ชา น้ำอัดลม ควรเว้นช่วงระยะเวลาให้นมลูกหลังดื่มไปสองชั่วโมง เพราะระดับคาเฟอีนจะได้ลดลงเหลือปริมาณน้อย ไม่ส่งผ่านไปทางน้ำนมสู่ลูก
- อาหารที่ผ่านการปรุงด้วยผงชูรส ซุปก้อน ผงปรุงรส สี และสารปรุงแต่งต่างๆ เช่น กุนเชียง ลูกชิ้น ไส้กรอก (ถ้าผลิตภัณฑ์นั้นไม่มีแหล่งผลิตที่ชัดเจน ไม่ควรรับประทานเลย)
- ถ้าจะรับประทานยาควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะยาบางอย่างอาจจะส่งผ่านไปทางน้ำนมแม่ได้ ยาที่สารมารถรับประทานได้ความปลอดภัยสูงไม่ผ่านทางน้ำนม เช่น ลดไข้บรรเทาปวดพาราเซตามอล และยาสามัญประจำบ้าน
ตัวอย่างเมนูอาหารหลังคลอด (พร้อมวิธีทำ)
เมนูนี้ที่ลูกปลื้ม : เมนูเพิ่มน้ำนม
- แกงเลียงผักรวม
- กุยช่ายผัดตับ
- ผัดหัวปลี
- ต้มข่าอกไก่ใส่หัวปลี
- ไข่ตุ๋นน้ำขิง
- ไก่ผัดขิง
- แกงส้มมะรุม
- แกงจืดตำลึง
- ไข่เจียวใส่ใบกะเพรา
- ผัดกะเพราเผ็ดน้อย
จากตัวอย่างเมนูอาหารข้างต้นจะเห็นได้ว่าเป็นเมนูที่นำผักเรียกน้ำนมมาปรุงเป็นอาหารแสนอร่อย ให้คุณแม่ได้รับประทานจะช่วยให้ร่างกายสร้างน้ำนมได้มากนั่นเอง มาดูกันว่าผักเรียกน้ำนม นั้นมีอะไรกันบ้าง
บทความน่าอ่าน : 20 ผักผลไม้เพิ่มน้ำนม ช่วยเพิ่มน้ำนมให้คุณแม่
ถึงเวลาเข้าครัว
ผัดดอกกุยช่ายใส่ตับหมู
- ดอกกุยช่าย 100 กรัม (ประมาณ 3 – 4 ถ้วย)
- ตับหมู (จากหมูเลี้ยงตามธรรมชาติ) 100 กรัม
- ขิงสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยป่น ¼ ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
- น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทรายเล็กน้อย (หากไม่ชอบหวานไม่ใส่ก็ได้)
- น้ำเปล่าสำหรับลวกตับหมู
- น้ำเย็นสำหรับแช่ตับหมูที่ลวกแล้ว
- เกลือเล็กน้อย
- ข้าวต้มข้าวกล้องห้าสี
กะเพราเห็ดฟาง
ส่วนผสม
- เห็ดฟาง ดอกเล็ก 3 ขีด
- ใบกะเพรา 1 ถ้วย (หรือมากกว่าถ้าชอบ)
- พริกขี้หนู 7 เม็ด (แล้วแต่ชอบเผ็ดมากเผ็ดน้อย)
- รากผักชี 2 ราก
- กระเทียม 5-7 กลีบ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1.นำเห็ดมาปอกให้สะอาด ลวกน้ำร้อนต้มเดือด เหยาะเกลือเล็กน้อย จะช่วยให้เห็ดสะอาดและน่ารับประทานมากขึ้น ตักใส่ตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ ถ้าเห็ดยังไม่แห้ง เวลาผัดระวังน้ำมันจะกระเด็นได้
2.ตำกระเทียม รากผักชี พริกขี้หนูรวมกันพอหยาบ ตักขึ้นพักไว้
3.ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน พอร้อนใส่เครื่องที่โขลกลงไปผัดจนมีกลิ่นหอม ใส่เห็ดฟาง เติมน้ำสะอาดเล็กน้อย ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลก่อนตักขึ้นใส่ใบกระเพรา ต้องใช้ไฟแรงและผัดเร็วๆ จะทำให้กลิ่นพริกและใบกะเพราส่งกลิ่นหอม ต้องรับประทานขณะที่ยังร้อนอยู่พร้อมข้าวร้อนๆ จะทำให้อร่อยยิ่งขึ้น โดยเฉพาะถ้าเป็นข้าวกล้องจะได้วิตามินครบครัน
4.ใช้เวลาผัดและเตรียมประมาณ 15 นาที จะได้อาหารมังสวิรัติรสเด็ดที่มีประโยชน์กับร่างกายเต็มเปี่ยม
เคล็ดลับ อาหารที่มีเครื่องเทศและสมุนไพร เช่น พริก กระเทียม รากผักชี ส่วนใหญ่จะมีน้ำมันหอมระเหย ต้องผัดในน้ำมันร้อนให้หอมก่อนจึงจะมีกลิ่นและรสที่ชวนรับประทาน แต่อย่าใช้ไฟแรงจนเกินไป เพราะถ้าไหม้ กลิ่นไหม้จะส่งกลิ่นอบอวลรวมอยู่ในจานอาหารด้วย
เมนูนี้ที่แม่ปลื้ม : เมนูช่วยฟื้นฟูร่างกาย
- ปลานึ่งซีอิ๊วใส่ขิง
- แกงหัวปลี
- ข้าวต้มปลา
- ไก่ผัดขิง หมูผัดขิง
- ไก่ต้มน้ำปลา
- แกงเลียงกุ้งสด
- ซุปไก่ตุ๋น
- ผัดผักโขม
- ผัดเห็ดรวม
- แกงเห็ด
- สลัดผัก ผลไม้
- ปลาผัดพริกไทยดำ
- ผัดถั่ว ลันเตาใส่กุ้ง
- ข้าวต้ม ข้าวกล้องเนื้อปลา
- แกงจืดเต้าหู้ขาวใส่สาหร่าย
สำหรับคุณแม่หลังคลอด มักจะเสียเลือด และต้องการสารอาหารที่เป็นประโยชน์เพื่อนำมาฟื้นฟูร่างกาย ความจำเป็นในการฟื้นฟูร่างกายสำหรับแม่นั้น นับว่ามีความสำคัญมาก เพราะคุณแม่ต้องมีพลังในการเลี้ยงดูลูกเล็ก ๆ ร่างกายต้องการการฟื้นฟูกลับสู่สภาพปกติ และยังต้องการสารอาหารมาช่วยในการสร้างน้ำนมอีกด้วย ดังนั้นสารอาหารที่ควรรับประทานหลังคลอดนั้น ควรเน้นอาหารที่มีโปรตีน ไขมันที่ดีที่จำเป็นต่อร่างกาย
ถึงเวลาเข้าครัว
แกงเลียงผักรวมกุ้งสด
ส่วนผสม
- ฟักทอง หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 1 ถ้วย
- บวบหอมอ่อน หั่นเป้นชิ้นพอดีคำ 1 ถ้วย
- ข้าวโพดอ่อน 1/2 ถ้วย
- เห็ดชิเมจิ 1/4 ถ้วย
- เห็ดออนเร็นจิ 1/4 ถ้วย
- เห็ดเข็มทอง 1/4 ถ้วย
- ใบแมงลัก 2 ถ้วย
- กุ้งสด 4-5 ตัว
- น้ำเปล่าสำหรับลวกกุ้ง
- พริกแกงเลียง
วิธีทำ
- นำผักทุกอย่างมาล้างน้ำให้สะอาดและปอกเปลือกเอาไว้ เตรียมหั่นผักทุกอย่างไว้ให้เรียบร้อย
- เตรียมเครื่องแกงเลียง ให้นำเครื่องแกงเลียงที่เตรียมไว้มาโขลกรวมกัน โดยเริ่มจากโขลกกุ้งแห้งก่อน ตามด้วยพริกไทย กระชาย กะปิ หอมแดง กุ้งสด และพริกสด ตำให้พอละเอียด
- กุ้งสดนำไปล้างน้ำ ปอกเปลือก แล้วใช้กรรไกรตัดหัวเอาขี้กุ้งออก ตัดขากุ้งออกด้วย และผ่าหลังแบ่งเป็น 2 ชีกดึงเอาเส้นดำทิ้งไป
- จากนั้นเราก็จะนำกุ้งมาต้มในน้ำเดือดแค่พอกุ้งสุก (เพราะเราต้องการน้ำที่ได้จากการต้มกุ้งนี้ไปทำน้ำซุป) โดยกรองเอาน้ำไว้ด้วย
- พอได้กุ้งที่สุกแล้ว เราก็จะนำมาแกะเอาเปลือกกุ้งออก แต่ยังไม่ทิ้งเปลือกกุ้ง ถ้าสังเกตุให้ดีที่เปลือกกุ้งจะมีหัว และมันกุ้งติดอยู่ ให้นำเอาทั้งหมดนั้นมาปั่น แล้วละลายในน้ำต้มกุ้ง และใช้กระชอนกรองเอาส่วนที่ปั่นไม่ละเอียดทิ้งไป เราก็จะได้น้ำซุปกุ้งสดสุดแสนหวานมาทำแกงเลียง โดยไม่ต้องใช้ผงปรุงรสใดๆ มาช่วยเลย
- เมื่อได้น้ำซุปกุ้งสดมาแล้วก็นำใส่หม้อต้มให้เดือด พอน้ำแกงเดือดใส่เครื่องแกงเลียงลงไป
- พอน้ำแกงเดือดอีกครั้ง ให้เตรียมผักลงใส่ตามลำดับความสุกช้าหรือเร็ว คือให้ใส่ผักที่เนื้อแข็งสุกยากลงไปก่อนแล้วค่อยตามด้วยผักที่สุกง่าย
- ปรุงรสด้วยน้ำปลาเล็กน้อย เติมไปชิมไป ให้ได้รสชาติที่เราต้องการ
- ใส่ใบแมงลัก ที่เป็นเอกลักษณ์ของแกงเลียงไทย ใช้ทัพพีกดให้ใบแมงลักจมน้ำแกงให้หมด ปิดเตา พักไว้ 1 นาที คนให้ทั่วและตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟร้อน ๆ
ไม่ว่าจะเมนูอาหารแบบใด คุณแม่อย่าเพิ่งเป็นกังวลมากเกินไป สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับอาหารหลังคลอดของคุณแม่ นั่นคือ การรับประทานอาหารให้ครบหมู่ มีสารอาหารเพียงพอต่อร่างกาย เลือกรับประทานอาหารที่ถูกสุขอนามัย เพียงเท่านี้ก็เป็นอาหารหลังคลอดที่ดีทั้งต่อตัวคุณแม่เอง และลูกที่พึ่งคลอดด้วยเช่นกัน แต่จะให้ดีอีกสักนิดถ้าคุณแม่สามารถได้รับเมนูอาหารหลังคลอดแบบที่คุณแม่ญี่ปุ่นได้รับจากโรงพยาบาลหลัง คลอดแบบในข่าวนี้บ้างคงดีต่อใจไม่น้อย เพราะอย่าลืมว่าอาหารที่ดีต้องได้รับรสอร่อยทั้งรูป รส กลิ่น สัมผัสที่ดี อาหารจานนั้นจะยิ่งได้รสชาติทวีคูณ เห็นแล้วน่าอิจฉาคุณแม่ญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว
หญิงสาวชาวต่างชาติที่อาศัยในญี่ปุ่น ผู้ใช้ชื่อในโลกออนไลน์ว่า jenkinsinjapan ได้โพสต์ภาพอาหารที่ทางโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองมิโตะ จังหวัดอิบาระกิจัดให้เธอในระหว่างเวลา 3 วันที่พักผ่อนหลังได้คลอดบุตรที่โรงพยาบาล
อาหารของคุณแม่มือใหม่สร้างความสนใจให้กับผู้คนในโลกออนไลน์จำนวนมาก เมนูอาหารมีทั้งอาหารแบบญี่ปุ่นและแบบตะวันตก รวมทั้งของหวาน, ของว่างมื้อบ่าย ทุกอย่างน่าทานเหมือนกับเมนูในร้านอาหารชื่อดัง
ที่มา : ข่าวจาก mgronline.com
ข้อมูลอ้างอิงจาก today.line.me/goodlifeupdate.com
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่