อาหารฟาสต์ฟู้ตกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการกินในโลกยุคปัจจุบันไปแล้ว มันดูง่าย มีสไตล์ เป็นคนทำงานที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองที่ทันสมัย
…หลายคนเสพติดพฤติกรรมการกินแบบนั้น แม้จะรู้ว่าอาหารเหล่านั้นมีคุณค่าทางโภชนาการน้อยก็ตาม ซึ่งคงไม่มีใครจะห้ามได้เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่สำหรับบางคนก็อาจถึงเวลาแล้วที่ต้องทบทวนตัวเอง ลดทอนความคุ้นเคยในการกินไม่เลือกลงบ้าง โดยเฉพาะคุณผู้หญิงทั้งหลายที่กำลังจะกลายเป็นคุณแม่!
>> และนี่เป็นผลงานภาพถ่ายของ Raul Krebs ช่างภาพชาวบราซิลเลียนใช้ในงานโฆษณาโดยจัดทำขึ้นเพื่อรณรงค์ต่อต้านการกินอาหารจังค์ฟู้ดในสตรีมีครรภ์ ด้วยก็อปปี้สั้นๆ ง่ายๆ ว่า ‘Your child is what you eat.’ แน่นอนว่าลูกๆ จะเป็นอื่นไปไม่ได้แน่ เพราะต้องกินอาหารร่วมผ่านทางสายรกกับแม่นานนับ 9 เดือน และตามด้วยนมแม่อีกหลายเดือนหลังการคลอด ข้อเท็จจริงก็คือเด็กควรได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนจากแม่ ซึ่งประกอบไปด้วย เกลือแร่ โปรตีน ไขมัน วิตามิน และคาร์โบไฮเดรต เพื่อเสริมสร้างสมองและพัฒนาการอื่นๆ ของร่างกาย ทั้งยังมีผลการศึกษาได้เผยให้รู้ว่า โภชนาการที่ดีของคุณแม่ส่งผลต่อพัฒนาการทางพันธุกรรมของทารก นอกจากจะเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แล้วยังช่วยป้องกันการเกิดเนื้องอกให้ทารกได้ด้วย
คงจะเป็นเรื่องน่าเศร้าถ้าคุณแม่ทั้งหลายมองข้ามความสำคัญของสารอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ และตามใจตัวเองไปกับความคุ้นเคยในการกินโดยไม่แคร์ว่ามันจะส่งผลกระทบกับลูกในท้องอย่างไร? สื่อโฆษณาเป็นตัวกระตุ้นให้คนเราอยากเลียนแบบทำอะไรสนองความอยากได้ มันก็เป็นเครื่องขัดเกลาให้เราทบทวนตัวเองได้เช่นกัน บางทีเป็นเพราะเรามักง่ายจนมองข้ามไปว่า คนเรามีชีวิตอยู่โดยสัมพันธ์กับชีวิตอื่นเสมอ เพราะแค่จุดกำเนิดของชีวิตมนุษย์ก็โดนกำหนดชะตากรรมไว้กับความรับผิดชอบของชีวิตอีกรุ่นหนึ่งซะแล้ว
อ้างอิง : Medical Daily, UFUNK, Ads of The World
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : http://www.creativemove.com/advertising/your-child-is-what-you-eat/#ixzz3oLfUhUdv