ระเบิดอารมณ์ใส่ลูก

นี่คือสิ่งที่ “ลูกคิดอะไร” เมื่อแม่ระเบิดอารมณ์ใส่ลูก!

event
ระเบิดอารมณ์ใส่ลูก
ระเบิดอารมณ์ใส่ลูก

ระเบิดอารมณ์ใส่ลูก

วิธีการที่พ่อแม่ใช้พูดคุยกับลูก

ก็คือ วิธีที่ลูกจะใช้สื่อสารกับคนอื่นในสังคม พวกเราจำเป็นต้องควบคุมอารมณ์ตัวเอง บอกลูกว่า : การพูดจาเสียงดังแก้ปัญหาอะไรไม่ได้  โมโหโกรธาก็แก้ปัญหาไม่ได้ ในทางกลับกัน เมื่อเราควบคุมอารมณ์แล้วคุยกับคนอื่นดีๆ เราจะพบว่าเรื่องมันไม่ได้แย่ขนาดที่เราคิด!

พ่อแม่ทุกคนรู้ว่า เวลาเราโมโห ส่งผลกระทบต่อลูกอย่างมาก ลูกของคุณจะเหมือนเพนกวินในเรื่อง เมื่อคุณตวาดใส่ แกจะตกใจจนกระเจิดกระเจิง แล้วลูกก็จะเอาวิธีที่คุณทำกับแกไปใช้กับเพื่อน เมื่อโตขึ้นเขาก็จะทำแบบนั้นกับคนรัก และลูกของเขา เพราะเขาเคยชินกับวิธีการแบบนั้นมาตั้งแต่เด็ก นอกเสียจากว่า เขาจะมีสติรับรู้ได้ถึงปัญหา และตัดสินใจเปลี่ยนแปลง!

เราเป็นคนธรรมดา โกรธได้บ้าง แต่หลังจากนั้น อย่าลืมขอโทษลูก บอกแกว่าทำไมคุณถึงโมโห แม้ว่าคุณจะโมโหใส่แก แต่ไม่ได้แปลว่าแกไม่ดี ไม่ได้แปลว่าคุณไม่รักแก

จุดสำคัญก็คือ ต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ อย่าให้มันกลายเป็นนิสัยเสีย สิ่งที่คุณทำกับลูกจะติดอยู่กับตัวแก ถ้าคุณมอบสิ่งที่ดีให้ แกก็จะมีพลังมีความสุข แต่ถ้าคุณมอบบาดแผลให้ แกก็จะเจ็บปวดไม่มีที่สิ้นสุด

ก็เหมือนกับเจ้าเพนกวิน แม้ว่าจะถูกเย็บกลับมาเหมือนเดิม แต่ก็มีรอยแผลเป็นเต็มตัว ทุกครั้งที่คุณระเบิด จะสร้างแผลให้กับลูก

เด็กๆบอบบาง ใสสะอาด คุณควรจะใช้ความอ่อนโยน พูดจากับแกดีๆ แกฟัง ถ้าแกไม่ฟัง คุณก็ต้องเปลี่ยนวิธีในการพูด…

ระเบิดอารมณ์ใส่ลูก

ควรทำอย่างไร?   หลังจากแผดเสียงใส่ลูก

เชื่อว่ามีแม่น้อยคนนักที่จะไม่เสียงดังใส่ลูกน้อย โดยเฉพาะแม่ที่เลี้ยงลูกเองแบบเต็มเวลา ซึ่งจะมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา เราเป็นปุถุชนคนธรรมดา ก็ต้องมีสติหลุดกันไปบ้าง สิ่งสำคัญที่สุดคือ หลังจากเราแผดเสียงใส่ลูกไปแล้ว คุณแม่ ๆ จะทำอย่างไร จะใช่สิ่งเหล่านี้หรือเปล่า

1. ทำใจให้เย็นลง – และบอกลูกว่า แม่ขอเวลาเพื่อทำใจให้เย็นลงหน่อยก่อนนะ

2. ขอโทษอย่างจริงใจ-  ขอโทษที่แผดเสียงใส่ลูก ขอโทษที่ทำให้ลูกหงุดหงิด แม่เสียใจที่ทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสม แม่ก็เป็นคนธรรมดา ย่อมทำสิ่งผิดพลาดได้เสมอ

3. อธิบายให้ลูกฟัง – หลังจากขอโทษแล้ว แม่ควรอธิบายว่าทำไมแม่ถึงได้โกรธมากมายขนาดนั้น

4. ให้ใช้เวลากับลูกหลังจากนั้น – เพื่อเป็นการยืนยันว่าตอนนี้แม่ไม่ได้โกรธ และจะไม่ตะโกนใส่หน้าลูกอีกอย่างน้อยก็ภายในวันนี้

5. ให้อภัยตัวเอง – คนเราทำผิดพลาดกันได้ แต่ต่อไปเราต้องไม่เป็นแบบนี้อีก เราจะต้องเป็นพ่อและแม่ที่น่ารักของลูก ๆ เสมอ

อย่างไรก็ตาม การที่พ่อแม่ตะคอก หรือ ระเบิดอารมณ์ใส่ลูก แม้จะเป็นเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบ แต่ก็ทำร้ายดวงใจน้อยๆ ของลูกอย่างมากมายมหาศาล ซึ่งเมื่อลูกดื้อไม่เชื่อฟัง หากพ่อแม่ต้องการห้ามปรามควรเป็นการพูดคุยกับลูกดีๆ ให้ลูกรู้ถึง ความห่วงใยความวิตกกังวลของพ่อแม่และชี้ให้เห็นถึงผลลัพธ์ต่างๆ ที่จะตามมา

อ่านต่อ “บทความดีๆ น่าสนใจ” คลิก!


ขอบคุณที่มาจาก : liekr , นสพ.มติชน และ picklebums.com

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up