อันตรายจากของเล่นกับลูกน้อย
ของเล่นที่พบเห็นอยู่ในปัจจุบันก็มีอันตรายแอบแฝงอยู่ในตัวด้วยเช่นกัน โดยในแต่ละปีมีเด็กบาดเจ็บจากของเล่นที่ต้องมารับการตรวจรักษาที่ห้องฉุกเฉินต่าง ๆ รวมกว่า 72,000 ราย ซึ่งครึ่งหนึ่งของตัวเลขนี้เกิดจากเครื่องเล่นต่างๆ ในสนามเด็กเล่น ซึ่งมักไม่มีความปลอดภัย เช่น การติดตั้งที่ยึดรากฐานไม่มั่นคงทำให้ล้มทับเด็ก กระทั่งต้องตกเป็นข่าวพาดหัวอันน่าสะเทือนใจมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
ส่วนพื้นสนามก็ไม่ดูดซับแรงกระแทก แถมมีก้อนกรวดก้อนหินเกลื่อนไปหมด และเป็นสนิมเขรอะ ส่วนการจัดวางเครื่องเล่นแต่ละชิ้น ก็แทบไม่เหลือช่องว่างที่ห่างเพียงพอ ทำให้เด็กต้องเสี่ยงกับการวิ่งชนกันเองหรือชนโครมเข้ากับเครื่องเล่นทั้งหลาย
ขอบคุณภาพจาก : http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9570000028320
ซึ่งจากการสำรวจของศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า ในประเทศไทยมีเครื่องเล่นที่ไม่ปลอดภัยกว่า 95% ของเล่นที่เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่มีชิ้นส่วนเล็กกว่า 3.2 x 6 ซม. เป็นส่วนประกอบ จะมีโอกาสทำให้สำลักอุดตันทางเดินหายใจได้มาก เช่น ตุ๊กตุ่นตุ๊กตาพลาสติกตัวเล็ก ๆ ที่มักมาในรูปของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ขวัญใจเด็ก ๆ เช่น ไอ้มดแดง อุลตร้าแมน เต่านินจา ฯลฯ (ให้ระวัง..ส่วนหัวของตุ๊กตุ่นฮีโร่แมนทั้งหลาย กระทั่งแท่งลิปสติกของตุ๊กตาผู้หญิง) เด็กเล็กเห็นเข้าก็มักเอาเข้าปาก เคี้ยวๆ อมๆ แล้วในที่สุดก็ติดคอ ติดหลอดลมจนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ยังเกิดขึ้นอยู่เสมอ
ดังนั้นของเล่นของเด็กอายุน้อยกว่า 3 ปี ซึ่งชอบเอาของเข้าปาก ต้องไม่เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่มีขนาดเล็กกว่า 3.2 ซม. ถ้าเล็กกว่านี้ต้องยาวกว่า 6 ซม.
ส่วนของเล่นมีสายยาวกว่า 22 ซม. ขดเป็นวงทำให้รัดคอเด็ก เช่น สายโทรศัพท์ กีตาร์ รถลาก หรือของเล่นที่มีช่องรู ก็มักทำให้นิ้วติด มือติด หัวติดได้ เช่น ของเล่นชุดปราสาท คฤหาสน์ ชุดครัว ของเล่นลูกกระสุนที่แรงกว่า.08 จุล เช่น ปืนอัดลม ปืนลูกดอก หากโดนลูกนัยน์ตาก็อาจมีอันตรายถึงขั้นตาบอด จึงห้ามให้ลูกเล่นปืนอัดลม หรือปืนลูกดอกทุกชนิดที่กระสุนไม่อ่อนนิ่ม
ของเล่นที่แหลม ๆ คม ๆ เช่น รถเด็กเล่นที่ท้ายแหลม ลูกข่าง หุ่นยนต์ที่มีส่วนหัวแหลมๆ จรวดพลาสติกหรือโลหะที่มีทรงแหลมๆ คมๆ ของเล่นที่ติดไฟง่าย แล้วเอามาสวมหัว สวมตัว เช่น ชุดแต่งตัวต่างๆ ไอ้มดแดงบ้าง สไปเดอร์แมนบ้าง ทั้งผ้าทั้งวัสดุที่ใช้บุให้มีรูปทรง ต้องผ่านการทดสอบการต้านการติดไฟมาก่อน
ของเล่นที่เสียงดัง หลาย ๆ อย่างมันดังเกินกว่าความปลอดภัยของเด็ก (เกินกว่า 110 เดซิเบล เมื่อดังครั้งเดียวไม่เกิน1 วินาที หรือ ไม่เกิน 80 เดซิเบลเมื่อเป็นการดังต่อเนื่อง) เรื่องนี้พึงระวังให้มาก เพราะมันอาจทำลายเซลล์ประสาทการรับเสียงของลูก ๆ ได้ โดยเฉพาะของเล่นใช้ไฟฟ้า รถไฟปู๊น ๆ ปืนกล ปืนเลเซอร์ที่กดแล้วมีเสียงดัง
รวมไปถึงของเล่นเคลื่อนที่เร็ว เช่น รถไถ จักรยานสองล้อสามล้อ ที่ออกแบบมาไม่เหมาะสม หรือแม้แต่รถหัดเดิน รถพยุงตัว ก็ไม่ควรใช้เพราะเสี่ยงต่อการหกล้มพลิกคว่ำ
ทั้งนี้ของเล่นเด็กทุกชนิดสร้างความสนุกสนานได้ แต่อย่างไรก็ดี อันตรายจากของเล่น เกิดขึ้นได้เสมอ เพราะในกระบวนการเล่นของเด็กเราไม่สามารถเฝ้าดูได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว การเรียนรู้เกิดขึ้นได้เสมอ แต่ต้องรู้จักที่จะสร้างเการะป้องกันเพื่อความปลอดภัยให้ลูกน้อยด้วย ทั้งอุปกรณ์ทุกอย่างในบ้านและของเล่นเด็กก็ต้องดูแลเพื่อความปลอดภัยเช่นเดียวกัน
อ่านต่อ “บทความดี ๆ น่าสนใจ” คลิก!
- 10 ของเล่นสุดอันตรายในประเทศไทย ปี 2017
- Kid Safety อันตรายจากของเล่นมีล้อ
- เมื่อแม่ ละสายตาจากลูก ทำให้ของเล่นทับจนเสียชีวิต!
- การเลือกของเล่นเพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็ก
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.doctor.or.th , www.shawpat.or.th