เด็กบ้านไหนชอบกินไข่ เชิญทางนี้…เชฟแม่หมีมีเมนูไข่ง่ายๆ เอาใจลูกรัก มาฝาก กับ อาหารเมนูไข่ง่ายๆ “ไข่ระเบิด” ช่วยเพิ่มพลังสมอง และร่างกายลูกน้อยให้แข็งแรง จะมีขั้นตอนการทำอย่างไร ตามมาดูกันเลย
ไข่ เป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อลูกน้อย และถือเป็นเหล่งโปรตีนราคาย่อมเยาว์ที่คุณแม่สามารถหาซื้อได้ง่าย ซึ่งคุณแม่สามารถนำไข่มาใช้ประโยชน์มากมายโดยเฉพาะเป็น อาหารเมนูไข่ง่ายๆ
ซึ่งไข่ที่นิยมนำมาบริโภคเป็นอันดับ 1 ได้แก่ ไข่ไก่นั้นเอง ทั้งนี้ไข่ไก่ จะให้กรดอะมิโนจำเป็นทุกชนิด ตลอดจนวิตามินและเกลือแร่อีกหลายชนิด รวมทั้งเรตินอล (วิตามินA) , ไรโบฟลาวิน (วิตามินB2), กรดโฟลิก (วิตามินB9), วิตามินB6, วิตามินบี12, โคลิน, เหล็ก, แคลเซียม, ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียม วิตามินA D และ E ทั้งหมดในไข่อยู่ในไข่แดง
แจกสูตร อาหารเมนูไข่ง่ายๆ “ไข่ระเบิด” เอาใจลูกรัก
“ไข่” จัดเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง และคุณภาพดีกว่าโปรตีนจากแหล่งอื่น ๆ อย่างเนื้อปลา เนื้อหมู ถั่ว แถมยังมีสารอาหารที่อุดมสมบูรณ์ เช่น วิตามินดี วิตามินเอ แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินบี และธาตุเหล็กมากที่หาได้ยากจากอาหารประเภท อื่น ๆ
ซึ่งไข่ที่นิยมนำมาบริโภคเป็นอันดับ 1 ได้แก่ ไข่ไก่นั้นเอง นอกจากนี้ในไข่ยังมี “เลซิติน” และ “โคลีน” ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเซลล์สมอง ช่วยพัฒนาสมอง ช่วยให้ปลายประสาทมีความเชื่อมโยง และเติบโตได้เต็มศักยภาพ
จึงมีประโยชน์สำหรับลูกน้อยในวัยที่กำลังเรียนรู้ หรือวัยที่เรียนหนังสือแล้ว ไปจนถึงคุณพ่อคุณแม่วัยทำงานเป็นอย่างมาก ส่วนการรับประทานไข่ให้ได้ประโยชน์สูงสุด มี 5 ข้อ ดังนี้
1.รับประทานไข่สุก ไม่รับประทานไข่ลวกหรือไข่ดิบ เพราะในไข่ลวกนั้นมีโอกาสติดเชื้อซาโมไนลา ไข้หวัดนก และเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายกับร่างกายได้
2.รับประทานควบคู่กับอาหารประเภทผัก ผลไม้ หรืออาหารหลัก 5 หมู่
3.รับประทานประเภทไข่ต้ม ไข่ตุ๋น มากกว่าไข่เจียวหรือ ไข่ดาว เพราะไข่ต้มฟองหนึ่งจะให้พลังงานเพียง 70 กิโลแคลอรี ไข่ดาวให้พลังงาน 120 กิโลแคลอรีเพราะมีน้ำมัน ยิ่งถ้าเป็นไข่เจียวฟู 240 แคลอรี
4. หลังรับประทานไข่ พยายามเลี่ยงอาหารคอเลสเตอรอลสูง โดยเฉพาะอาหารทะเล จำพวกปลาหมึก
5. ออกกำลังกาย
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น ไข่ หรืออาหารประเภทไหนก็ขอให้รับประทานแต่พอดี มากไป น้อยไป ล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งสิ้น
อ่านต่อ >> “ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเมนูไข่ง่ายๆ
“ไข่ระเบิด” เพิ่มพลังสมอง เอาใจลูกรัก” คลิกหน้า 2
ขอบคุณข้อมูล : www.dailynews.co.th
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่