แม่เผยวิธีแก้เมื่อลูกเป็น เด็ก LD โรคบกพร่องทางการเรียนรู้ - Amarin Baby & Kids
เด็ก LD

แม่แชร์วิธีแก้! เมื่อลูกเป็นโรคการเรียนรู้บกพร่อง หรือ เด็ก LD

event
เด็ก LD
เด็ก LD

step แรกนั้นคุณหมอแนะนำให้เราให้กำลังใจเขา ดูแลเขาอย่างใกล้ชิด ลดความหงุดหงิดลงเมื่อเขาไม่สามารถอ่านหรือเขียนหนังสือได้แต่ให้พูดให้กำลังใจแทน อย่างเช่น ถ้าเขาอ่านหนังสือไม่ได้ก็บอกให้ค่อยๆอ่าน ให้พูดว่าลูกทำได้ หากจะตำหนิก็ควรใช้คำพูดที่ซอฟท์ลง เช่น ลูกทำได้ดีแล้ว พยายามต่อไปนะ เป็นต้น

step สอง ลูกเราต้องเข้าพบนักจิตวิทยาเพื่อทดสอบ IQ แต่ ณ วันเดียวกันเขาทำไม่ได้เนื่องจากเด็กเครียดและซึมเศร้าตลอดเวลา จึงต้องเลื่อนไปทำในครั้งหน้า ครั้งแรกสำหรับการพบจิตแพทย์นั้นยังไม่รักษาด้วยยา แต่ใช้พฤติกรรมบำบัดแทน เราได้รับคำแนะนำจากพยาบาลและได้รับหนังสือมาสามเล่มเกี่ยวกับการเรียนรู้และเข้าใจเด็กที่เป็นโรคนี้ เป็นหนังสือของสถาบันราชานุกูล สามารถดาวน์โหลดได้จากลิ้งก์นี้ค่ะ >> http://www.qlf.or.th/Home/Contents/520

หลังจากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ เราลองทำตามในคลิปและหนังสือ ผลที่ได้ดีขึ้นมากค่ะ ลูกเขียนหนังสือลายมือดีขึ้น อ่านหนังสือได้ดีขึ้น เข้ากับเพื่อนที่โรงเรียนได้ และได้นัดพบจิตแพทย์อีกครั้ง และทำการทดสอบ IQ ตามที่ได้ค้างไว้ ผลออกมาน้องมี IQ ปกติดี ค่อนออกไปทางฉลาดเสียด้วยซ้ำค่ะ แต่ที่คนเป็นแม่อย่างเราๆไม่โอเค นั่นก็คือ…ลูกมีอาการ สมาธิสั้น และมีอาการเศร้าร่วมด้วยค่ะ

ตอนแรกนั้น…จิตแพทย์จะสั่งยาปรับอารมณ์ให้น้อง แต่ดันมาเป็นสมาธิสั้นเสียก่อนเลยต้องทำให้น้องมีสมาธิในการเรียน แล้วค่อยๆมาสอนทีละสเต็ปค่ะ

เหมือนเป็นความโชคดีแต่ก็แอบโชคร้ายเล็กๆ เราลองถามหมอว่า “ลูกจะหายไหมคะ?” แน่นอน…แม่ทุกคนต้องมีคำถามนี้อยู่แล้ว คำตอบก็คือ…

” ไม่หาย…แต่ถ้าอยู่แบบเข้าใจ โรคนี้จะไม่เป็นปัญหากับใครเลย ” แอบเสียใจนะแต่ได้เท่านี้ก็ดีมากแล้ว น้องต้องสู้กับมัน มีความพยายามในการฝึกฝนตัวเองมากขึ้น ส่วนทางคนรอบข้างกับครอบครัวก็ต้องเข้าใจในสิ่งที่เขาเป็น เขาอาจจะช้า อาจจะไม่เก่ง ทุกอย่างมันต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป มันเหมือนทีมเวิร์ค ถ้าล้มเหลวก็ไปทั้งสองฝ่าย ถ้าจะดีก็ดีมากเช่นกัน ไม่ใช่เพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น

แม้ลูกอาจจะไม่เพอร์เฟคอย่างลูกคนอื่น แต่เราเชื่อว่าความรักจะเอาชนะปัญหาที่มีอยู่ ความเข้าใจจะทำให้ลูกกลับมาใช้ชีวิตแบบคนปกติได้อีกครั้งหนึ่งค่ะ

สำหรับใครที่มีเด็กๆที่บ้านเจอปัญหาคล้ายๆเรา แนะนำให้ปรึกษาแพทย์นะคะ อย่าอาย อย่ากลัวที่จะต้องไปโรงพยาบาลค่ะ เรามารู้ก็เกือบจะสายเกินแล้วค่ะ

ยังไงก็ขอให้กระทู้นี้ได้เป็นแนวทางให้กับคุณพ่อคุณแม่หลายๆท่านด้วยค่ะ หากมีโอกาสจะกลับมาแชร์ประสบการณ์การดูแลและเรื่องอื่นๆต่อไปในอนาคตอีกครั้ง ยังไงก็ขอบพระคุณมากค่ะ

ของคุณเรื่องราวจาก สมาชิกผู้ใช้เว็บไซต์พันทิป Butter is better : pantip.com/topic/35548248

เด็ก เป็นโรคLD

สาเหตุของการที่ลูกเป็น เด็ก LD

อย่างไรก็ตามจากการที่คุณแม่เล่ามาแม้จะรักษาให้หายไม่ได้ แต่อย่างที่บอกคือหากอยู่กับลูกอย่างเข้าใจ โรคนี้จะไม่เป็นปัญหากับใครเลย ทั้งนี้สาเหตุของโรค LD มีหลายอย่าง ได้แก่

  • พันธุกรรม คาดว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้เด็กมีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ทั้งนี้ นักวิจัยบางส่วนโต้แย้งว่าเด็ก LD อาจไม่ได้เกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม แต่เกิดจากการเรียนรู้และเลียนแบบพฤติกรรมของพ่อแม่
  • พัฒนาการสมอง บางทฤษฎีกล่าวว่าเด็กที่มีพัฒนาการสมองผิดปกติ เช่น เด็กที่มีน้ำหนักแรกเกิดต่ำกว่ามาตรฐาน คลอดก่อนกำหนด สมองขาดออกซิเจน หรือได้รับอุบัติเหตุที่กระทบกระเทือนสมอง อาจมีแนวโน้มเกิดภาวะบกพร่องทางการเรียนรู้มากกว่าเด็กทั่วไป
  • สิ่งแวดล้อม การสูดดม หรือสัมผัสสารพิษจากสิ่งแวดล้อมเป็นประจำ เช่น สารตะกั่ว รวมถึงโภชนาการที่ไม่ดีตั้งแต่เด็ก อาจส่งผลให้เกิดความพร่องทางการเรียนรู้

และเนื่องจากโรค LD สามารถเกิดรวมกับโรคอื่นๆได้บ่อย เช่น โรคสมาธิสั้น ดังนั้นแพทย์จึงมีบทบาทในการประเมิน วินิจฉัยภาวะต่างๆที่เด็กมี ร่วมถึงให้การรักษาภาวะเหล่านั้น เช่น โรคสมาธิสั้น หากได้รับยาช่วยสมาธิ อาการของโรคก็จะดีขึ้นมาก

การป้องกันความบกพร่องทางการเรียนรู้ หรือไม่ให้ลูก กลายเป็น เด็ก LD

การที่เด็กเป็นโรค LD  หรือ มีภาวะความบกพร่องทางการเรียนรู้ อาจป้องกันได้ตั้งแต่ลูกน้อยอยู่ในครรภ์มารดา หากคุณแม่รู้ตัวว่าท้องควรไปฝากครรภ์ให้เร็วที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติระหว่างตั้งครรภ์ นอกจากนั้นการดูแลเอาใจใส่ลูกน้อยอย่างเหมาะสมตั้งแต่ช่วงวัยทารกและวัยเด็กตอนต้น ก็เป็นอีกวิธีที่อาจช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็กให้สมบูรณ์ และห่างไกลที่ลูกจะกลายเป็น เด็ก LD ได้

อ่านต่อ “บทความดีๆ น่าสนใจ” คลิก!


ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.pobpad.com

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up